ฤดูฝน ทำยอดหาย รายได้หด ผู้ประกอบการ ปรับตัวอย่างไร ให้อยู่รอด

ยอดหาย รายได้หด เพราะเข้า ฤดูฝน ผู้ประกอบการ ปรับตัว-รับมืออย่างไร ให้อยู่รอดตลอดฤดู

เข้าหน้าฝนแล้ว หลายๆ คนคงแฮปปี้กับอากาศเย็นสบายชุ่มฉ่ำหลังฝนตก ที่ช่วยคลายความร้อนอบอ้าวลงได้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ฤดูฝน ก็สร้างผลกระทบในเรื่องของยอดขายให้กับผู้ประกอบการหลายๆ เจ้าเช่นกัน

ซึ่งหากผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ รวมถึงร้านค้า มีการวางแผนรับมือไว้อย่างดี และอาศัยจังหวะนี้พลิกสถานการณ์เพื่อเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส ก็จะสามารถรักษายอดขายไม่ให้ตก แถมยังอยู่รอดตลอดหน้าฝนได้ด้วย โดยเว็บไซต์ ธนาคารกรุงเทพ ได้แชร์เทคนิคและกลยุทธ์การตลาด จาก 4 ธุรกิจตัวอย่าง ที่ใช้ในช่วงหน้าฝนแบบนี้มาแนะนำให้เจ้าของธุรกิจประเภทเดียวกันหรือต่างกันนำมาปรับใช้กับธุรกิจ ดังนี้

1. ธุรกิจคาร์แคร์ (Car care)

รถยนต์ เปรียบเหมือนปัจจัยที่ 5 ที่เกือบทุกบ้านต้องมีไว้ขับขี่ ซึ่งจากสถิติของกรมขนส่งทางบก ระบุว่า จำนวนรถจดทะเบียนสะสมทั่วประเทศ ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 มีจำนวนทั้งสิ้น 41,471,345 คัน อีกทั้งลูกค้ามีไลฟ์สไตล์ในการหันมาดูแลรักษารถมากขึ้น หนุนให้ดีมานด์สูงตามไปด้วย

คาร์แคร์จึงเป็นธุรกิจเนื้อหอมและโกยรายได้อย่างงดงาม โดยรูปแบบการให้บริการสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงรักษารถยนต์โดยมืออาชีพ บริการล้างรถ ดูดฝุ่น เคลือบแก้ว อบโอโซน ฯลฯ แต่ในฤดูฝน ผู้ขับขี่รถยนต์ส่วนใหญ่มักจะมีความคิดว่าหากนำรถมาล้างก็คงต้องทำใจกับรอยเลอะจากน้ำฝุ่นและคราบต่างๆ อยู่ดี ทำให้แวะเวียนมาใช้บริการกันน้อยลง

ซึ่งช่วงเวลานี้ เจ้าของธุรกิจคาร์แคร์ อาจปรับใช้กลยุทธ์การตลาดใหม่ๆ เพื่อสู้กับสภาพอากาศที่ยากจะคาดเดา การออก Loyalty Program แคมเปญสะสมแต้มทุกครั้งที่ลูกค้ามาใช้บริการ สามารถนำมาแลกส่วนลด รับบริการฟรีเมื่อครบตามเงื่อนไข หรือมีของแถมที่เหมาะกับหน้าฝน เช่น ร่ม หมวก เสื้อกันฝน ที่มีชื่อและโลโก้ของแบรนด์เพื่อสร้างการจดจำ มอบให้หากลูกค้ามาใช้บริการในช่วงหน้าฝน เป็นต้น

นอกจากนี้ อาจจะใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียของแบรนด์ นำเสนอความรู้ ส่งต่อข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อให้ลูกค้าเห็นถึงความสำคัญของสุขอนามัยในการใช้รถยนต์ รวมทั้งอาจรับเทรนด์สำหรับคนรักสุขภาพด้วยบริการอบโอโซนรถ เพื่อกำจัดเชื้อโรคภายในรถยนต์ โดยเฉพาะฆ่าเชื้อราที่มาจากความชื้น เชื้อโรคในช่องแอร์ และยังช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เพื่อให้ลูกค้าได้อากาศภายในรถยนต์ที่บริสุทธิ์ เพิ่มความมั่นใจในสุขอนามัยดียิ่งขึ้น

2. ร้านขายอาหาร/สตรีตฟู้ด

แม้ว่าลูกค้าจะติดใจในรสชาติอาหารมากแค่ไหน แต่คงไม่อยากตัวเปียกจากการฝ่าสายฝนเพื่อออกมารับประทานอาหารข้างนอก ซึ่งปัญหาเหล่านี้ จะเกิดขึ้นเป็นประจำในฤดูฝน ส่งผลกระทบกับร้านอาหารรวมถึงร้านที่ขายแบบสตรีตฟู้ดอย่างมาก

ดังนั้น ทางรอดของการขายอาหารในหน้าฝน คือ ช่องทาง Delivery หรือ การส่งอาหารถึงที่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า โดยเฉพาะยุคนี้เจ้าของร้านอาหารที่ขายผ่านช่องทางหน้าร้านอย่างเดียว มักจะรอดยาก เพราะหันไปทางไหนก็มีแต่คู่แข่งร้านค้าที่ย้ายเข้าไปสู่ช่องทางออนไลน์ เพิ่มบริการส่งอาหารและเครื่องดื่มถึงหน้าบ้านกันมากขึ้น

แม้ว่าการเพิ่มช่องทางการขายแบบ Delivery จะมีร้านต่างๆ ให้ความสนใจมาก แต่การวางแผนและเตรียมความพร้อมให้ดี ย่อมสร้างความต่างจะช่วยให้ร้านคุณทิ้งห่างคู่แข่ง เช่น การใส่ใจในรายละเอียดเล็กน้อย หรือแสดงให้เห็นว่าร้านของคุณสามารถคงคุณภาพอาหารได้ดีไม่ต่างจากการมารับประทานที่ร้าน ที่สำคัญ ยังส่งถึงที่ ไม่หวั่นแม้วันฝนตก สิ่งเหล่านี้จะยิ่งจับใจให้ลูกค้าเลือกเป็นขาประจำของคุณเพิ่มขึ้น เคล็ดลับ คือ

  • ถ่ายรูปเมนูอาหารให้สวยงาม แต่ห้าม! ไม่ตรงปก : หน้าตาอาหาร คือด่านแรกที่ดึงดูดให้เลือกซื้อ แต่สิ่งที่ทำให้หลายร้านตกม้าตาย คือ เมนูสวย น่ารับประทาน แต่พอลูกค้าได้รับและเทลงจานกลับไม่ใช่อย่างที่ลงขาย ด้วยเหตุนี้ ร้านอาหารจึงควรมีความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ใช้ภาพอาหารที่ร้านคุณขายจริงๆ และไม่แต่งภาพจนเกินพอดี ที่สำคัญ วัตถุดิบที่ใช้ต้องมีมาตรฐาน ครบถ้วน และตรงตามภาพที่ลงไว้
  • เลือกใช้แพ็กเกจจิ้งที่กันน้ำได้ : การส่งอาหารในช่วงหน้าฝน เป็นโจทย์ยากสำหรับสินค้าอย่างอาหารว่าจะทำอย่างไรให้ถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย ไม่หกเลอะเทอะ และไม่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในอาหาร โดยเจ้าของร้านอาจจะเลือกใช้ บรรจุภัณฑ์ ที่ทำจากชานอ้อยที่มีความคงทนและห่อหุ้มด้วยฟิล์มยืดหุ้มห่ออาหาร หรือจะเลือกใช้ ‘ฟิล์มบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก’ ที่ปัจจุบันมีผลิตและจำหน่ายจากการผสมพลาสติกรีไซเคิล เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ความยั่งยืน ก็ยิ่งถูกใจลูกค้าและลดการทำลายสิ่งแวดล้อมได้อีกทางหนึ่ง
  • โปรโมชันรับหน้าฝน : การทำธุรกิจช่วงหน้าฝน ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการ ลด แลก แจก แถม ซึ่งการตลาดรูปแบบนี้ สามารถทำได้ทั้งกับลูกค้าที่มารับประทานในวันที่ฝนไม่ตก และลูกค้าที่สั่งอาหารแบบดีลิเวอรี เช่น คุณอาจจะมีของแถมเล็กๆ น้อยๆ เป็นกิมมิกให้ลูกค้าประทับใจ อาทิ ขนม ของหวาน แถมท้ายหลังจากมื้ออาหาร ส่วนลูกค้าที่สั่งดีลิเวอรี สามารถจัดส่งของหวาน หรือขนมไปพร้อมกับการจัดส่ง หรือหากไม่อยากเพิ่มต้นทุน เพียงแค่การ์ด 1 ใบแสดงความห่วงใยให้ลูกค้าด้วยข้อความดีๆ ให้ลูกค้ารักษาสุขภาพ และไม่เจ็บป่วยตลอดหน้าฝน เป็นต้น

3. ธุรกิจแฟชั่น 

โดยหลักๆ ข้อเสียคือมีอุปสรรคคล้ายๆ กับสินค้ากลุ่มอาหาร คือหากฝนตกและเป็นรูปแบบการขายหน้าร้าน อาจจะยอดตกจนทำให้สินค้าค้างสต๊อก แต่ข้อดีคือ สินค้าแฟชั่นเก็บรักษาได้นานและมีความหลากหลาย ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ ความนิยม และเทรนด์ในขณะนั้น สิ่งสำคัญคือ การเพิ่มช่องทางออนไลน์ ที่ตอบโจทย์การขายของธุรกิจแฟชั่นในช่วงหน้าฝนอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ ในช่วงที่ฝนตกจนลูกค้าหดหาย วิธีที่จะช่วยได้คือ เพิ่มไลน์ขายสินค้าตามฤดูกาล เริ่มจากคิดไอเดียธุรกิจให้ตอบโจทย์ เช่น มองหาว่าอะไร คือสิ่งที่คนต้องใช้ในหน้าฝน คำตอบคือกลุ่มสินค้าที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อรับมือในช่วงหน้าฝน เช่น ร่ม หมวก เสื้อคลุมกันฝน รองเท้าบู๊ตกันน้ำ ซองใส่โทรศัพท์มือถือดีไซน์เก๋ รวมถึงสินค้าประเภทเครื่องสำอางกันน้ำ ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี สำหรับการนำมากระตุ้นยอดขายในช่วงหน้าฝน เป็นต้น

4. ธุรกิจรับจัดงานอีเวนต์

ข้อจำกัดของธุรกิจรับจัดงานอีเวนต์ รับจัดงานประชาสัมพันธ์ งานแสดงสินค้า หรือแม้แต่งานแต่งงาน คือ เป็นธุรกิจที่ต้องใช้ระยะเวลาและขั้นตอนในการวางแผนพอสมควร เพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์แบบ และเป็นไปตามความต้องการของลูกค้า แต่อุปสรรคของการจัดงานในช่วงหน้าฝน หนีไม่พ้น เรื่องการเดินทางที่ยากลำบาก การจราจรติดขัด และความไม่พร้อมของสถานที่ โดยเฉพาะการจัดงานกลางแจ้ง อาจจะเสี่ยงต้องถูกยกเลิกไปเพราะปัญหาจากสายฝนที่ตกลงมาในวันที่จัดงาน

เมื่อคุณรับจัดงานอีเวนต์สักงานหนึ่งในช่วงหน้าฝน และต้องรองรับคนจำนวนมาก แม้ว่าจะเตรียมรับมือด้วยวิธีการต่างๆ รวมถึงตรวจดูพยากรณ์สภาพอากาศมาอย่างดี แต่บางครั้งอาจจะเกิดสถานการณ์ที่เกินจะคาดเดา การรับมือและปรับแผนการตลาดเพื่อให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ในการทำธุรกิจอีเวนต์ในช่วงฤดูฝน ได้แก่

  • เลือกสถานที่จัดงานในร่ม : ทางออกของการจัดงานอีเวนต์ช่วงหน้าฝน อันดับแรกคือ เลือกสถานที่จัดงานในร่ม มีที่จอดรถในอาคาร หรือทางเดินเข้างานไม่ไกลจนเกินไป จะให้ดี ผู้จัดงานควรเตรียมรถกอล์ฟ สำหรับรับ-ส่งผู้มาร่วมงานเพื่ออำนวยความสะดวกมากขึ้น และเพิ่มความอุ่นใจ ไม่เปียก แม้จะเป็นช่วงที่มีฝนตกลงมา
  • ติดรถไฟฟ้ายิ่งดี : ฝนตก รถติด เป็นของคู่กันมาแต่ไหนแต่ไร หากสถานที่จัดงานไม่มี BTS หรือ MRT ผ่าน อาจจะสร้างความปวดหัวให้เจ้าของงาน จากการจราจรที่แสนสาหัส ยิ่งฝนตก ยิ่งติดไม่ขยับ จะขับไปทางไหนก็ไม่ได้ แต่หากสถานที่จัดงานสามารถจอดรถแล้วเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้ ก็จะช่วยให้งานของคุณลดความเสี่ยงไปได้อีกเยอะ

นอกจากสถานที่จัดงาน สิ่งสำคัญในธุรกิจประเภทนี้คือ เรื่องความรับผิดชอบ และการตรงต่อเวลา เพราะฉะนั้น คุณต้องวางแผนรับมือให้รอบคอบ และประสานงานส่วนต่างๆ ให้พร้อมมากกว่าฤดูกาลอื่น หากคุณสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้ ยอดจองจัดงานแบบถล่มทลายจะตามมาอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจประเภทไหน การให้ความสำคัญกับการสร้างคอนเทนต์เพื่อสื่อสารกับลูกค้า ด้วยเนื้อหาที่สอดคล้องกับสถานการณ์ ยังสำคัญไม่แพ้กลยุทธ์อื่นๆ เพราะแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น  Facebook คือการสร้าง Community ที่คนจะเข้ามามีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันกับแบรนด์ได้อย่างใกล้ชิด