เรื่องคุย สำคัญกว่า สินค้า กลยุทธ์การตลาด ที่ทำให้ธุรกิจเป็นที่น่าสนใจของผู้บริโภค

เรื่องคุย สำคัญกว่า สินค้า กลยุทธ์การตลาด ที่ทำให้ธุรกิจเป็นที่น่าสนใจของผู้บริโภค

ไม่น่าเชื่อว่าเราจะมาถึงจุดนี้…จุดที่ “เรื่องคุย” สำคัญกว่าสินค้า คือ เราทำเสมือนต้องการสินค้า แต่ทว่าแท้จริง ต้องการเรื่องเอาไว้คุย…

การตลาดเชิงประสบการณ์ ไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ของโลกการค้าการขาย แต่โลกยุคที่อะไรๆ เคลื่อนไหวเร็วเช่นนี้ ประสบการณ์ที่ผู้บริโภคต้องการ ช่างมีมากมาย จนธุรกิจที่จะอยู่รอดได้ หลายธุรกิจจำเป็นต้องสร้างประสบการณ์ดีให้ลูกค้า

แรงกระตุ้น ที่มาเสริมพลังให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปมากยิ่งขึ้น ส่วนหนึ่งคือ DNA ความขี้อวด และชอบข่มคนอื่นของมนุษย์ ที่ติดตัวมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ยันยุคนี้

อย่าปฏิเสธเลยว่าเราไม่ขี้อวด ถ้าตราบใดที่จะกินข้าว จะไปเที่ยว จะทำกิจกรรมอะไร แล้วเรายังต้องถ่ายรูปโพสต์ลงโซเชียลก่อนเสมอ แค่อยากบอกให้โลกรู้ว่าตรูมาแล้ว

ไม่จริงหรอก…ถ้าใครจะบอกว่า โพสต์ไว้ เพราะเป็นพื้นที่เก็บรูปฟรี

บนโซเชียลเน็ตเวิร์ก อาจดูเสมือนพื้นที่เก็บรูปฟรีๆ แต่ทำไมเราต้องมีแคปชั่นอธิบาย ให้รู้ว่าฉันมาแล้ว เพราะถ้าต้องการแค่ที่เก็บรูป เราคงเลือกใช้พื้นที่บนคลาวด์ที่ให้เก็บได้ฟรีๆ เช่นกัน แต่มัน…“ไม่ได้โชว์”

เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคมไงครับ เราต้องมีสังคม เราต้องมีการแลกเปลี่ยน สนทนา สรรหาเรื่องราวมาแลก มาเล่าสู่กันฟัง ขณะเดียวกัน ถ้าแลก ถ้าเล่า แล้วมันดูดีกว่า แล้วรู้มากกว่า ประสบการณ์เหนือกว่า ก็อดไม่ได้ ที่จะแอบภูมิใจตัวเองลึกๆ

อีกอย่างหนึ่งในความเป็นสัตว์สังคม ที่ต้องรวมหมู่อยู่กับพวกของมนุษย์ เราจึงต้องแสวงหา “ที่อยู่ ที่ยืน” ให้ตัวเอง

ความนิยมชมชอบในเรื่องเดียวกัน ทำให้มีเรื่องคุยกันมากขึ้น และมนุษย์ผู้นั้น มีที่อยู่ที่ยืนในสังคม

ดังนั้น การจะทำให้ธุรกิจเป็นที่น่าสนใจของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น เราจึงจำเป็นต้อง “สร้างเรื่องคุย” ให้เป็นของกำนัลแก่ผู้มาเป็นลูกค้า

สินค้าแบบเดียวกัน อาจหาซื้อที่ไหนก็ได้ แต่ “เรื่องราวเอาไปคุยต่อ” บางเจ้ามี แต่บางเจ้าไม่มี

ผมเคยสงสัย คนที่ได้ชื่อว่า เซียนพระ หรือ นักเล่นพระ ที่วันๆ สามารถใช้เวลาอยู่กับแว่นขยาย ส่องหาตำหนิ ร่องรอยต่างๆ บนเหรียญ หรือบนพระพิมพ์ ได้ทั้งวัน เขาไม่เบื่อกันบ้างหรืออย่างไร

ไม่เบื่อหรอกครับ เพราะเหรียญแต่ละเหรียญ หรือพระพิมพ์แต่ละพิมพ์ มีเรื่องราวให้พวกเขาคุยกันได้ทั้งวัน ยิ่งองค์ไหนพิมพ์นิยม โด่งดัง ถูกรับรองโดยบรรดาเซียน แปลว่า องค์นั้น มีเรื่องราวให้พูดคุยกันเยอะมาก…

เรื่องคุยยิ่งมาก ราคายิ่งแพง

พระพิมพ์บางรุ่น จัดได้ว่าเป็นสินทรัพย์ที่ควรค่าแก่การสะสม เพราะมูลค่าจะเพิ่มขึ้นตามวันเวลา แท้จริงแล้วมูลค่าที่เพิ่มขึ้น มาจากเรื่องคุยที่มีมากขึ้นด้วยนั่นเอง

ปัจจุบัน ธุรกิจกาแฟ เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีการเติบโต และเกิดร้านกาแฟขึ้นมากมาย เพื่อนำเสนอประสบการณ์ในแง่มุมต่างๆ ให้ลูกค้า การเลือกโลเกชั่น และการตกแต่ง ที่นำพาผู้คนหลุดออกจากโลกความจริงของตัวเองไปชั่วคราว ไปอยู่กับสถานที่ในฝันของหลายคน แม้จะโมเมนต์สั้นๆ ก็ยังเก็บเรื่องมาคุยได้อีกยาว

กาแฟดริป ไม่ใช่เทคนิคการชงที่แปลกใหม่แต่ประการใด ในประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการการกินกาแฟของมนุษยชาติ การชงแบบนี้มีมานานแล้ว แต่ปัจจุบัน ถ้าใครไปแสวงหาประสบการณ์ในร้านกาแฟดริป จะพบว่า สามารถกลับออกมาพร้อมเรื่องคุยมากมาย

ทั้งเรื่องการสร้างเครื่องมือในการดริปสารพัดรุ่น ที่มีเรื่องราวว่าจะทำให้กาแฟชนิดเดียวกัน อร่อยขึ้น

หรือเรื่องราวของเมล็ดกาแฟ จากแหล่งต่างๆ ที่มีรสชาติพิสดาร ซับซ้อน จนบางทีคนชิมก็แยกไม่ออกว่ามันต่างกันจริงๆ เหรอ แต่อย่างน้อย ก็ได้เรื่องราวกลับไปคุยว่า ได้ชิมแล้ว

กระทั่งแก้วที่ใช้ใส่กาแฟ แค่หน้าตาต่างกันเล็กน้อย วัสดุชนิดเดียวกัน แต่ทรงแตกต่างนิดหน่อย กลับส่งผลต่อรสชาติให้แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่คนชิม ฟังแล้วตื่นเต้น ชิมแล้วก็ยังรู้สึกงงๆ กับรสชาติ ว่าต่างกันตรงไหน

รสชาติ จะต่างกันจริงหรือไม่ บางทีไม่สำคัญเท่ากับ การได้มี “ประสบการณ์” และมี “เรื่องกลับไปคุย”

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว การสร้างเรื่องราวไว้ให้ลูกค้า จึงสำคัญยิ่งนัก นักการตลาดเขาจึงบอกว่าเรื่องเล่า หรือ “Storytelling” เป็นเรื่องสำคัญในยุคนี้ เพราะลูกค้าต้องการมีประสบการณ์บางอย่างจากคนขาย ประสบการณ์นั้น ลูกค้าสามารถนำไปคุยต่อได้

ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว กาแฟขี้ชะมด โด่งดังขึ้นมาจากเรื่องเล่าอันพิสดาร ของการให้ชะมดกินเมล็ดกาแฟเข้าไป และเกิดการหมักอยู่ในระบบย่อย จนขับถ่ายออกมา เอาเมล็ดนั้นมาทำกาแฟกิน ได้รสชาติอันซับซ้อนและเป็นเอกลักษณ์

ความอยากได้ใคร่มีประสบการณ์ของผู้คน ทำเอาราคาเมล็ดกาแฟชนิดนี้ กิโลกรัมละเป็นหมื่น

ผมมีโอกาสได้ชิมครับ จิบแรกผงะ จิบถัดมายืนยัน ว่าผมไม่สามารถดื่มจนหมดแก้วได้

แม้จะไม่ใช่คอกาแฟ ที่ซาบซึ้งกับรสชาติอันซับซ้อนนั้นได้ แต่อย่างน้อยผมก็มีประสบการณ์ และมีเรื่องราวมาไว้คุยกับคนอื่นๆ ได้

อีกประสบการณ์ที่สำคัญ ก็คือ…ต่อไป หากต้องเผชิญกับความอดอยาก ไม่มีอาหารอะไรให้กิน ผมน่าจะยังชีพโดยการกินขี้ชะมดตากแห้งได้แล้วล่ะครับ

เพราะรสชาติ คงไม่ต่างกับกาแฟที่เคยดื่มไป…