สาวสระบุรี ทำงานส่งเสียตัวเองจนเรียนจบ กระทั่งคว้างานตำแหน่งดี เงินเดือนหลักแสนในวัยเพียง 25 ปี แต่แล้วขอผันชีวิตไปสวมบทบาทเจ้าของกิจการ ไม่นานนักประสบปัญหาพิษเศรษฐกิจ และถูกโกงมูลค่ากว่าร้อยล้านบาท ด้วยสายเลือดนักสู้ขอฟื้นคืนชีพใหม่อีกครั้ง ด้วยการไปขายของตามตลาดนัด ครั้งนี้มองเห็นโอกาสธุรกิจผุดบริการรับจัดงานอีเว้นต์ ล่าสุดกลายเป็นออร์แกไนซ์จัดงานแสดงสินค้าแฟชั่นและอาหาร มือวางลำดับต้นๆ ของเมืองไทย

คุณจีรนันท์ ห้องแซง หรือ คุณไหม เจ้าของบริษัท M.A.I.Organizer จำกัด ผู้ให้บริการจัดงานแสดงสินค้าพื้นเพเป็นคนจังหวัดสระบุรี เป็นลูกสาวคนสุดท้องในบรรดาพี่น้อง 3 คน เธอทำงานส่งเสียตัวเองเรียนมาตลอด กระทั่งจบการศึกษาโรงเรียนพาณิชย์และเลขานุการ เอกภาษาอังกฤษ ทำงานในตำแหน่งเลขาและฝ่ายจัดซื้อบริษัทข้ามชาติ เงินเดือนสุดท้ายที่ได้รับราว 1.5 แสนบาท

“หลังจากเรียนจบ ดิฉันทำงานเป็นเลขาบริษัทข้ามชาติและฝ่ายจัดซื้อแห่งหนึ่ง กระทั่งอายุ 25 ปี ลาออกมาหาประสบการณ์ชีวิต เปิดบริษัทซื้อมาขายไปสินค้าประเภทเครื่องเขียน อุปกรณ์สำนักงาน รวมถึงรับเหมาก่อสร้าง เริ่มต้นจากงานเล็กๆ กระทั่งได้รับความไว้วางใจสร้างถนนคอนกรีต ในช่วง 5 ปีแรกทุกอย่างราบรื่นดี แต่หลังจากนั้นไม่นาน เศรษฐกิจซบเซา สต๊อกสินค้าเยอะแต่ขายไม่ออก รับเหมาก่อสร้างก็สะดุด โดนโกง  เรียกว่าทุกอย่างพัง หมดตัวเลยทีเดียว”

จากเจ้าของธุรกิจร้อยล้านต้องมากลายเป็นแม่ค้าตลาดนัด คุณไหม เล่าว่า หลังจากธุรกิจเจ๊ง ตัดสินใจไปเดินขายข้าวกล่อง จากนั้นขยับขยายเข้ามาขายอาหารในศูนย์อาหารแห่งหนึ่งย่านบางนา เหมือนว่าทุกอย่างจะราบรื่น แต่สุดท้ายจำต้องยุติกิจการลงเพราะกำไรน้อย รายได้ไม่คุ้มค่าใช้จ่าย

“ดิฉันเลิกขายอาหาร หันมาขายเสื้อผ้าแฟชั่นตามตลาดนัด ในห้างสรรพสินค้า รวมถึงไปออกบู๊ธตามงานแสดงสินค้าต่างๆ ปรากฏเห็นช่องว่างธุรกิจให้เช่าพื้นที่ขายของ ใช้เวลาศึกษาราว 6 เดือน จนรู้วิธีการติดต่อกับศูนย์การค้าและบรรดาพ่อค้าแม่ค้า หนที่สุดเข้าสู่ธุรกิจนี้อย่างเต็มตัว”

คุณไหมเริ่มธุรกิจออร์แกไนซ์จัดงานแสดงสินค้าเมื่อปี 2555 เนื่องจากเธอไม่มีเงินทุน อาศัยกู้เงินนอกระบบรายวัน เมื่อจัดงานเสร็จ แบ่งผลกำไรส่วนหนึ่งไว้เป็นทุน และอีกส่วนหนึ่งนำไปใช้หนี้ ไม่นานนักก็สามารถตั้งตัว และมีเงินทุนหมุนเวียนเป็นของตัวเองได้สำเร็จ

หญิงสาว เล่าถึงกระบวนการทำงานว่า ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ไม่มีการประมูลพื้นที่  แต่ปัจจุบันการแข่งขันสูงขึ้น ฐานะออร์แกไนซ์ ต้องสรรหาความแปลกใหม่ รูปแบบการจัดงานที่แตกต่าง การจัดวางบู๊ธให้น่าสนใจ  ซึ่งกลยุทธ์บริษัท M.A.I.Organizer คือ การนำเสนองานที่ไม่เหมือนใคร สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเจ้าของพื้นที่ และรูปแบบงานไม่น่าเบื่อ ที่สำคัญผู้ที่มาออกบู๊ธต้องขายสินค้าได้

“เมื่อก่อน M.A.I.Organizer เป็นเพียงออร์แกไนซ์เล็กๆ ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาอาศัยสร้างความน่าเชื่อถือ เน้นขายไอเดีย  รูปแบบการจัดงานโดดเด่น สามารถดึงลูกค้าให้เข้ามาเดินงานได้ ปัจจุบันได้รับความไว้วางใจจัดงานเฉลี่ยเดือนละ 4 อีเว้นต์”

สำหรับประเภทสินค้าที่คุณไหมถนัด คือ กลุ่มสินค้าแฟชั่นและอาหาร รวมถึงงานเทศกาลสำคัญๆ  ซึ่งการคัดเลือกร้านค้า เธอจะลงพื้นที่เอง ไปเดินตามตลาด ค้นหาร้านใหม่ๆ ตามสื่อโซเชียล ทั้งเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ซึ่งร้านที่มาร่วมออกบู๊ธ 80% ขายตามงานอีเว้นต์อยู่แล้ว

การวางแผนงาน หญิงสาว บอกว่า จะวางแผนงานล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือน – 1 ปี  คิดรูปแบบงานให้เหมาะสม และส่งเสริมพื้นที่ให้น่าสนใจ ส่วนผู้ที่มาร่วมออกบู๊ธทุกร้านต้องขายสินค้าได้ ในฐานะคนจัดงานต้องคอยดูแลทุกเรื่อง  เวลาจะแก้ปัญหาอะไรก็ต้องคิดอย่างรอบคอบว่าจะมีผลกระทบกับใครบ้าง  เพราะทุกรายละเอียด คือหน้าตาของบริษัท  ถ้าทำไม่ดี ห้างที่ไหนจะยอมปล่อยพื้นที่ให้จัดอีก ส่วนร้านค้าถ้าดูแลดี ร้านพวกนี้จะอยู่กับเรานาน  ไม่ต้องคอยหาลูกค้าใหม่ๆ

ปัจจุบันจำนวนร้านค้าที่เคยมาร่วมออกบู๊ธกับคุณไหม มีมากกว่า 10,000 ร้านค้า กรณีบางงานร้านค้าขายของไม่ได้ ทางบริษัทชดเชย ลดค่าเช่า ให้ตามสมควร ซึ่งค่าใช้จ่ายแต่ละครั้งมีตั้งแต่ 1,500 – 8,000 บาท/วัน

ทุกวันนี้ ทีมงานคุณไหม มีมากกว่า 40 ชีวิต เธอบอกว่า บางงานที่จัดกำไรไม่เยอะ แต่ก็ต้องทำ สิ่งสำคัญที่สุด ร้านค้าที่มาร่วมออกบู๊ธต้องขายสินค้าได้ ไม่ใช่ว่ารับเงินมา แล้วปล่อยลอยแพ เพราะสุดท้ายคนจัดงานก็ไปไม่รอด

กว่า 5 ปี ในธุรกิจนี้ ผลงานที่สร้างชื่อให้ M.A.I.Organizer คือ งานที่มีคอนเสิร์ต มีดารา นักร้อง มาร่วมออกบู๊ธ เพราะศิลปินจะเป็นแม่เหล็กดึงคนมาร่วมงานได้

สำหรับก้าวต่อไปของ M.A.I Organizer เจ้าของธุรกิจ เผยว่า  วางแผนบุกตลาดต่างจังหวัด เจาะห้างสรรพสินค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ต่างจังหวัด โดยกลุ่มที่น่าสนใจคือ กลุ่มผู้ประกอบการสินค้าที่เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย การตกแต่งบ้าน