ได้ไอเดียจากห้าง นำมาสร้างหนทางต่อ
ด้วยเพราะความเชื่อที่ว่ายังมีผู้คนจำนวนมากสนใจลงมือปรุงอาหารด้วยตนเอง กอปรกับเทรนด์ทำอาหารทานเองค่อนข้างมาแรง แต่ทว่าหลายคนขาดประสบการณ์ ไหนจะพื้นที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการจัดเตรียมอุปกรณ์และลงมือปรุงมากนัก อีกทั้งการเดินทางไปเลือกซื้อวัตถุดิบ ยิ่งถ้าเป็นมือใหม่ การคาดคะเนส่วนผสมดูจะเป็นเรื่องยาก “Cookit Delivery” สบช่องมองเห็นโอกาส ลุยตลาดเปิดตัว อาหารพร้อมปรุง ตอบรับสังคมคนรุ่นใหม่

คุณเมฆ-นิธิ สัจจทิพวรรณ คือหนึ่งในผู้สนใจปรุงอาหารทานเอง ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนที่เขาใช้ชีวิตอยู่ที่สหรัฐอเมริกา แต่การปรุงอาหารแต่ละเมนู ค่อนข้างเสียเวลา และมีความยุ่งยากในหลายๆ ด้าน  กระทั่งวันหนึ่ง เข้าไปเดินในซุปเปอร์มาร์เก็ต ได้เห็นสินค้าอาหารจัดแบ่งส่วนผสมและเครื่องปรุงรสไว้พร้อมในแพ็ก จึงซื้อติดมือกลับมา

และนั่นทำให้เขาได้สัมผัสถึงความสะดวกสบายในการทำอาหารที่มีทั้งง่ายและเร็ว

ต่อเมื่อกลับมาประเทศไทย คุณเมฆ ยังคงสนใจปรุงอาหารในรูปแบบนั้น แต่ทว่าหาผู้ประกอบการที่ลงมาทำธุรกิจนี้ยังไม่มีเลย

และนี่คือ “ช่องว่าง” ที่มาพร้อม “โอกาส” ให้เขาก้าวเดิน โดยจับมือร่วมกับ คุณธนัญญา เครือบัว  (นิว) คุณวริศรา กันตราธิวุฒิ (ต้อง) คุณวรรษพล แสงสีทอง (ก้อง) สานฝันสู่ธุรกิจ Cookit Delivery

ส่งตรงถึงหน้าบ้าน พร้อมปรุงทานทันที
จากเดิมอาหารพร้อมปรุง เคยมีชั้นวางจำหน่ายอยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ต แต่เมื่อกลับมาทำตลาดเสิร์ฟคนไทย ควรปรับรูปแบบให้สะดวกสบายต่อผู้บริโภค ด้วยการส่งสินค้าให้ถึงประตูบ้าน โดยเริ่มต้นคัดสรรเมนูทั้งไทย ฝรั่ง

“ตอนที่คิดทำสินค้านี้ขึ้นมา เรารู้แล้วว่าคือความใหม่ จึงทำแบบสอบถามความคิดเห็นของผู้บริโภคก่อน โดยพุ่งเป้าไปที่แม่บ้าน และชาวต่างชาติที่มาใช้ชีวิตในประเทศไทย ซึ่งผลสรุปของคนส่วนใหญ่ต้องการปรุงอาหารแบบจานเดียว เราจึงเริ่มคิดเมนูอาหารไทย และอาหารนานาชาติขึ้นมา ซึ่งพอทำตลาดไปได้ราว 2 เดือน พบว่าอาหารไทยไม่ค่อยได้รับความนิยม เพราะคนไทยส่วนใหญ่มีแหล่งซื้อวัตถุดิบ มีความพร้อมในการจัดเตรียมส่วนผสมไว้ที่บ้านแล้ว จึงเน้นอาหารนานาชาติ อย่าง อาหารเกาหลี อิตาเลียน ซึ่งก็ได้คุณก้อง มาเป็นผู้ดูแลด้านเมนู โดยจะสลับสับเปลี่ยนไปทุกสัปดาห์” คุณต้อง ผู้เข้ามาดูแลฝ่ายการตลาด เล่าถึงที่มา

โลกออนไลน์ คือช่องทางจำหน่ายที่ถูกเลือก ด้วยเพราะเชื่อว่าช่องทางนี้จะมีกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่เข้ามาเห็นเป็นจำนวนมาก โดยสร้างเพจบนเฟซบุ๊ก พร้อมการอัพเดตต่อเนื่อง

สินค้าอาหาร โจทย์คือ ทำอย่างไรให้เกิดการซื้อซ้ำต่อเนื่อง ซึ่งกับการคิดเมนูใหม่ๆ ออกมาไว้รอเสิร์ฟ ก็ถือเป็นหนทางหนึ่ง รวมไปถึงรสชาติ ความลงตัวของส่วนผสมวัตถุดิบ และแน่นอนว่า อย่ามองข้ามด้านการบริการ

“ตอนนี้เรามองไปที่การสร้างฐานสมาชิก ซึ่งจะทำให้วางแผนวัตถุดิบง่ายขึ้น เปิดรับเมื่อเดือนที่ผ่านมา (สิงหาคม) จนถึงตอนนี้มีผู้เข้าเป็นสมาชิกแล้วราว 10 ราย โดยหลักเกณฑ์คือ จะจัดส่งสินค้าให้ทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 วัน โดยยอดสั่งซื้อต่อครั้งเมนูละ 165 บาทขึ้นไป โดยยอดสั่งชุดอาหารสำหรับ 2 ท่านขึ้นไป ซึ่งราคาสมาชิกจะกำหนดไว้ตั้งแต่ 165-195 บาท/เมนู ส่วนบุคคลทั่วไป ราคาสินค้าจะอยู่ที่ 190-230 บาท แต่ถ้าซื้อจำนวนมากก็จะลดลงมา เช่น สั่งซื้อสินค้าในแพ็กสำหรับ 3 ท่าน รับส่วนลด 20 เปอร์เซ็นต์” คุณต้องและคุณนิว กล่าวถึงการเปิดรับสมาชิก

สะดวกตั้งแต่สั่งซื้อ ลงมือทำและจัดเก็บ
ทั้งนี้ยังได้กล่าวต่อถึงโอกาสกับการทำธุรกิจ ว่า แท้จริงแล้วการก้าวเข้ามาทำเป็นรายแรกๆ นั้น ถือว่าได้เปรียบทางด้านเป็นผู้นำตลาด แต่ทั้งนี้ในด้านสร้างการรับรู้ย่อมต้องใช้เวลา

“เริ่มต้นเราไม่ได้เน้นขาย แต่ว่าเป็นช่วงของการสร้างความเข้าใจในสินค้าต่อผู้บริโภค เพราะเท่าที่ผ่านมาหลายคนคุ้นเคยกับอาหารกล่องสำเร็จรูป แต่ว่า Cookit Delivery คืออาหารพร้อมปรุง ตรงนี้ต้องสร้างความชัดเจน จัดแสดงรูปสินค้าให้ลูกค้าเห็นในเพจ ว่าสิ่งที่เขาจะได้รับคืออะไร สินค้าของเราคืออะไร”

นอกจากความชัดเจนกับการบอกกล่าวในหน้าเพจแล้ว ทั้งสี่ผู้ประกอบการยังเลือกนำพา Cookit  Delivery ไปยังงานแสดงสินค้าทั้งไทยและต่างประเทศ เพื่อบอกเล่าตัวตน ซึ่งก็ถือว่าได้รับผลตอบรับดี โดยเฉพาะกับคนไทยที่มีขนาดครอบครัวเล็ก และ 60 เปอร์เซ็นต์ พักอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม ส่วนที่เหลือจะเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ขึ้นมา พักอาศัยอยู่ย่านชานเมือง นอกจากนั้นยังมีกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัด ที่เริ่มสนใจเข้ามาติดต่อ

แม้จะจำหน่ายวัตถุดิบเพื่อนำไปปรุงเอง แต่ทว่าความสะดวกสบายตั้งแต่กระบวนการเริ่มต้นจนจบก็เป็นสิ่งที่ Cookit Delivery กำหนดขึ้น จนกลายมาเป็นจุดขายสำคัญ

“เราพยายามสร้างความสะดวกสบายให้ลูกค้า อย่าง ผัก หัวหอม แคร์รอต จะหั่นไว้พร้อมปรุงได้เลย แสดงรายการสินค้าส่วนผสมทุกอย่างไว้ พร้อมวิธีทำและภาพประกอบ

นอกจากนั้นยังมี Cooking Canvas (กระดาษแสดงตำแหน่ง สามารถวางวัตถุดิบและอุปกรณ์ในการทำได้บนกระดาษนี้) บรรจุลงให้ในกล่อง ซึ่งมีความทนกว่ากระดาษทั่วไป สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ซึ่งเมื่อทำอาหารเสร็จก็แค่ห่อเศษอาหารทุกอย่างทิ้งลงในถุงซิปล็อก ทั้งง่ายและลดกลิ่นรบกวน

“เพราะเราเข้าใจว่าคนที่อยู่คอนโดฯ อาจไม่มีเวลามาจัดการกับความยุ่งยาก ที่ต้องล้างจานกันกองโตๆ ขยะก็ไม่ใช่สิ่งที่ต้องนำไปทิ้งทุกวัน ฉะนั้น นี่คือความสะดวกที่พร้อมมองให้”

นี่จึงเป็นอีกหนึ่งธุรกิจเข้ามารองรับสังคมคนเมือง ที่ยังคงชื่นชอบการทำอาหารด้วยฝีมือของตนเอง

สนใจติดต่อ www.facebook.com/cookitdelivery