ผู้เขียน | แพทย์หญิงบุณยพัต ลิ้มทองกุล/แพทย์ประจำศูนย์ผิวหนัง โรงพยาบาลเวชธานี |
---|---|
เผยแพร่ |
ระวังโรคหน้าฝน ผื่นกุหลาบ โรคผิวหนังชื่อสวย รักษานานเป็น 100 วัน
ช่วงหน้าฝน อาจทำให้เกิดโรคผิวหนังต่างๆ ได้ง่าย เพราะความอับชื้นเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสได้เป็นอย่างดี หนึ่งในโรคผิวหนังที่มักพบบ่อยในหน้าฝนคือ “โรคผื่นกุหลาบ” หรืออีกชื่อคือ “โรคผื่นร้อยวัน”
แพทย์หญิงบุณยพัต ลิ้มทองกุล แพทย์ประจำศูนย์ผิวหนัง โรงพยาบาลเวชธานี อธิบายว่า โรคผื่นกุหลาบ (Pityriasis Rosea) เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส สามารถพบได้ตลอดทั้งปี แต่จะพบได้บ่อยในช่วงฤดูฝน เป็นโรคไม่ติดต่อและมักเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ
ลักษณะของผื่นกุหลาบ มีลักษณะเฉพาะ คือ รูปร่างกลมหรือรี สีชมพูหรือสีน้ำตาล อาจมีขอบยกเล็กน้อย ขนาดประมาณ 2-4 เซนติเมตร บางกรณีอาจมีขนาด เล็กหรือใหญ่กว่านั้นได้ ตรงกลางของผื่นมีขุยขนาดเล็ก มักพบบริเวณลำตัว อาจพบบริเวณคอ แขน หรือขาส่วนบนได้ และอาจมีอาการคันโดยเฉพาะผู้ที่มีผิวค่อนข้างแห้งจะยิ่งมีอาการคันมากขึ้น บางรายอาจมีอาการนำมาก่อน เช่น ปวดศีรษะ มีไข้ ปวดข้อ และปวดเมื่อย
โรคนี้ส่วนใหญ่เกิดในคนอายุน้อย โดยเฉพาะช่วงอายุ 10-35 ปี พบน้อยในเด็กเล็ก และผู้สูงอายุ โดยผื่นกุหลาบมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า “ผื่นร้อยวัน” เนื่องจากผื่นมักเกิดอยู่นานประมาณ 2-12 สัปดาห์ หรือประมาณ 100 วัน สามารถหายได้เอง โดยไม่ทิ้งร่องรอยแผลบนผิวหนัง
การรักษาโรคผื่นกุหลาบ เป็นการรักษาตามอาการ ส่วนที่เป็นผื่นจะใช้ครีมที่ให้ความชุ่มชื้นผิวที่เหมาะสม ร่วมกับยาทาสเตียรอยด์ หรือยารับประทานในกลุ่มยาแก้แพ้ (Antihistamines) เพื่อช่วยลดอาการคัน แต่ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ ขณะที่ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง อาจใช้การฉายแสง UVB ช่วยควบคุมโรคได้
หากสงสัยว่ามีผื่นกุหลาบ แนะนำให้มาปรึกษาแพทย์ เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง และบรรเทาอาการให้หายเร็วขึ้น หากปล่อยไว้นานอาจเกิดปัญหาตามมา เช่น การเการุนแรง ทำให้มีรอยดำ มีแผลติดเชื้อตามมาได้