ผู้เขียน | ไมตรี ลิมปิชาติ |
---|---|
เผยแพร่ |
เดือนที่แล้วผมได้ไปท่องเที่ยว โดยเป็นแขกรับเชิญของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์
ตอนแรกว่าจะไม่ไปเพราะเป็นรองช้ำ มาหลายวันแล้ว
จุดที่เป็นก็คือส้นตีน หรือถ้าจะเรียกให้สุภาพสักหน่อยก็ได้ว่า ส้นเท้า
เวลาเดินเอาส้นเท้าลงจะปวดมาก ปวดเหมือนมีเข็มเป็นร้อยๆ เล่มแทง
กินยาแก้ปวดแล้วก็ไม่หาย หรือหายปวดแค่ประเดี๋ยวประด๋าว จากนั้นก็กลับมาปวดอีก เพียงแต่ปวดพอทนได้ ผมจึงรับคำเชิญร่วมเดินทางไป เพราะไม่อยากอยู่บ้าน โดยคิดในใจว่า ถ้าได้เที่ยวคงจะหาย
ทว่า ไม่ได้หายอย่างที่คิด แต่ที่สามารถลงจากรถเดินเที่ยวได้ก็เพราะได้จัดหารองเท้าที่มีพื้นนิ่มสวมใส่สบาย
พนักงานของ ททท. ได้พาผมและคณะสื่อมวลชนไปท่องเที่ยวหลายแห่ง เพราะแต่ละจังหวัดของไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวมากเหลือเกิน
สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งถ้าต้องเดินไกลผมก็ไม่ลงจากรถ
ในวันเดินทางกลับ ได้ถูกพาไปแวะให้จับจ่ายของที่ศูนย์หัตถกรรมเขาเต่า อำเภอหัวหิน
ที่ศูนย์แห่งนี้มีสินค้าหลายอย่างไว้ขาย มีทั้งเสื้อผ้า เครื่องจักสาน และของที่ระลึกประเภททำด้วยเปลือกหอย
นอกจากนี้ ก็มีพวกของกินที่ได้มาจากทะเล เช่น กุ้งหวาน หอยลายทอดกรอบ ปลาหมึกย่าง แล้วยังมีกะปิ น้ำปลา อาหารทะเลแห้งจำนวนหลายชนิดให้เลือกซื้อ
ขณะผมเดินไปซื้ออาหารทะเลแห้ง ได้ยินเสียงประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงโฆษณาถึง น้ำมันหม่องคลายเส้นว่านเอ็นเหลือง
โดยผู้ประกาศยืนยันถึงสรรพคุณว่าใช้ได้ผลดี ที่สำคัญ เป็นยาหม่องที่ผู้ผลิตได้นำมาขายด้วยตนเอง
ผมฟังแล้วสนใจขึ้นมาทันทีเพราะเชื่อว่าน้ำมันหม่องชนิดนี้น่าจะทำให้การเป็นรองช้ำของผมหายได้
ผมจึงได้เข้าไปหาผู้ที่กำลังประกาศขายน้ำมันหม่อง
มารู้ตอนหลังว่าแกชื่อ หมอจตุพล ศรีสำราญ
ที่มีคำว่า หมอ นำหน้าก็เพราะได้ผ่านการฝึกอบรมการเป็นแพทย์แผนไทยจนได้รับประกาศนียบัตรประกอบโรคศิลปะ
หมอจตุพล หรือที่ใครต่อใครพากันเรียกแกว่า หมอตุ๊ก ได้ถามอาการปวดส้นเท้าของผม แล้วใช้น้ำมันหม่องทาน่องและนวดให้ผมอย่างคล่องมือ
หมอตุ๊ก บอกว่า อาการปวดอยู่ที่ส้นเท้าก็จริง แต่ต้องแก้ที่น่อง เหตุเพราะน่องตึงจึงทำให้เป็นรองช้ำ
นอกจากเอาน้ำมันหม่องทาและนวดทั่วน่องให้ผมแล้ว ยังทาที่ฝ่าเท้าและส้นเท้าด้วย พร้อมกับแนะนำผมว่าพอกลับถึงบ้านให้เอาส้นเท้ากดลงไปบนเหลี่ยมของขอบปูน หรืออะไรก็ได้ที่มีเหลี่ยมให้กด
“ทำอย่างนี้เพียงไม่กี่วันก็หาย” หมอตุ๊ก ยืนยัน
เพียงแค่ให้หมอตุ๊กนวดและทาน้ำมันหม่องให้โดยใช้เวลาไม่กี่นาที ก็รู้สึกได้เลยว่าสบายเท้า ทดลองเดินดูไม่เจ็บส้นเท้าเหมือนก่อนมาพบหมอ
หลังจากหมอตุ๊กนวดให้ผมแล้ว มีลูกค้าสาวสวยเข้ามาให้หมอตุ๊กนวดต้นคออีกคน เธอบอกว่าเอี้ยวคอบ่อยจึงทำให้ปวด
ผมถือโอกาสชวนหมอตุ๊กคุย จึงได้รู้ว่า หมอตุ๊กอายุ 62 ปี มีความรู้เดิมสำเร็จปริญญาตรีด้านบริหารจัดการ เพิ่งมาผลิตน้ำมันคลายเส้นขายเพียง 15 ปี จากที่เคยทำมาค้าขายมาแล้วหลายอย่างมาก แม้เวลานี้ยามว่างจากการขายน้ำมันหม่องยังไปช่วยเมียทอดปาท่องโก๋ขาย
หมอตุ๊ก บอกว่า ยาที่ทำจากสมุนไพรมีหลายร้อยชนิด มีมากเหลือเกิน สรรพคุณก็ต่างกัน ยิ่งศึกษาเรียนรู้ยิ่งสนุก
เดิมทีหมอตุ๊กไม่ได้ตั้งใจทำน้ำมันหม่องคลายเส้นขาย แต่เนื่องด้วยได้ไปเรียนเป็นหมอนวดแผนโบราณ
การนวดแผนโบราณหรือนวดแผนไทยจะต้องมีน้ำมันนวด หมอตุ๊กจึงผสมทำสูตรน้ำมันนวดของตัวเองขึ้นมาใช้
ที่จริง หมอตุ๊กผลิตน้ำมันจากสมุนไพรได้หลายอย่างตามความรู้ที่ได้เรียนมา แต่ที่ผลิตแล้วได้ผลสามารถขายได้ดีมีอยู่ 2 อย่าง คือ น้ำมันหม่องคลายเส้นว่านเอ็นเหลือง และสมุนไพรสมอไทยแก้ไอ
ที่มีชื่อว่าน้ำมันหม่องคลายเส้นว่านเอ็นเหลือง ก็เพราะมีว่านชนิดนี้เป็นส่วนผสมอยู่มากที่สุด นอกนั้นก็จะมีว่านขมิ้นอ้อย ว่านขมิ้นดำ ว่านไพลดำ ว่านมหาเมฆ และว่านอื่นๆ อีกหลายชนิด
น้ำมันหม่องคลายเส้นว่านเอ็นเหลือง ไม่ได้ใช้ได้ผลสำหรับนวดคลายเส้นเท่านั้น แต่ใช้ได้กับเวลาถูกแมลงสัตว์กัดต่อยด้วย
สัตว์ที่ว่านี้หมายถึงสัตว์ตัวเล็กๆ ไม่ใช่เสือหรืองูพิษ
อีกอย่างหนึ่งที่ได้ผลดีก็คือใช้ดมแก้หวัด น้ำมูกไหล
สำหรับสมุนไพรแก้ไอสมอไทย ส่วนผสมก็บอกอยู่แล้วว่ามีสมอไทย เป็นสมุนไพรที่ช่วยให้ไอเรื้อรังและเจ็บคอหายได้ แต่มีกระบวนการกินยากหน่อย เพราะต้องผสมกับมะนาว 1 ลูก ต่อสมุนไพร 1 ช้อนชา
ปกติ หมอตุ๊กจะขายน้ำมันหม่องและสมุนไพรแก้ไอด้วยตนเองที่สำนักงานเทศบาลหัวหินและสถานที่ท่องเที่ยวในเขตอำเภอหัวหิน และรับนวดแผนโบราณที่บ้าน แต่ต้องโทรศัพท์นัดไปก่อนล่วงหน้า หมายเลขโทรศัพท์ (085) 713-1168
ค่านวดครั้งละ 500 บาท ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง รับรองว่าคุ้มค่ามากสำหรับคนที่มีปัญหาเคล็ดขัดยอก ปวดเมื่อยรุนแรง
แต่ถ้าผู้ใดต้องการนวดเพื่อพักผ่อนแบบสบายๆ ไม่ควรไปหาหมอตุ๊ก หรือไปหมอตุ๊กก็ไม่นวดให้ครับ