งานอะไรก็ตาม ถ้าชอบแล้วก็จะทำให้มีความสุข

นักข่าวทีวีที่ยังต้องแบกกล้องตระเวนทำข่าวท่องเที่ยวทั่วประเทศที่มีอายุมากที่สุดหรืออาวุโสที่สุดในเวลานี้มีชื่อว่า มานพ คำหอม

ชื่อนี้ ในแวดวงนักข่าวและนักดูทีวีแทบไม่มีใครไม่รู้จัก โดยเฉพาะตอนทำรายการร่วมกับ คำรณ หว่างหวังศรี จากทีวีช่อง 7

คุณมานพไม่ได้เป็นช่างภาพได้อย่างเดียว ยังเขียนข่าวและเขียนสารคดีท่องเที่ยวได้ด้วย

หลังจากได้เป็นหัวหน้าข่าวหรือบรรณาธิการข่าว จึงไม่ได้ร่วมเดินทางไปกับคำรณ หว่างหวังศรี เหมือนเคย

ชื่อของคุณมานพจึงหลุดหายไป แต่มีงานอย่างอื่นที่ต้องรับผิดชอบในฐานะบรรณาธิการข่าวมากขึ้น

โดยส่วนตัว ผมรู้จักกับคุณมานพมานานไม่น่าจะต่ำกว่า 30 ปี เพราะเขาเข้าทำงานทีวีครั้งแรกตั้งแต่อายุ 21 ปี

เขาไปทำข่าวที่การประปานครหลวง ขณะที่ผมทำงานเป็นประชาสัมพันธ์อยู่ที่นั่น

นักข่าวกับนักประชาสัมพันธ์จะต้องคุยกัน คุยกันบ่อยๆ ก็ทำให้รู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี

พอผมปลดเกษียณ ผมมีโอกาสได้เดินทางไปต่างจังหวัดบ่อย โดยเป็นแขกรับเชิญของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จึงทำให้ผมได้พบกับคุณมานพบ่อยมาก จึงสนิทสนมกันยิ่งขึ้น เพราะนอกจากเคยรู้จักกันมาก่อนแล้ว ยังมีอายุใกล้เคียงกันด้วยคือแก่พอๆ กัน

ครั้งหนึ่ง เราได้รับเชิญไปที่ช่องเม็ก ชายแดนไทยในเขตจังหวัดอุบลราชธานีด้วยกัน

ที่ชายแดนมีคนลาวเอาเหี้ยมัดปากมัดเท้ามากองขายอยู่บนพื้นถนนริมทางหลายเจ้า

ที่ผมใช้คำว่ากองก็เพราะมีเหี้ยหลายตัวมากนั่นเอง

ผมเห็นเหี้ยแล้วสงสารจึงขอซื้อตัวหนึ่ง เพราะซื้อหลายตัวไม่ไหว

ที่ซื้อไม่ได้ซื้อไปกินเหมือนคนบางคนที่เคยบอกผมว่าเนื้อเหี้ยทำลาบได้อร่อยหรือเอาเนื้อเหี้ยมาทำเหี้ยแดดเดียวก็อร่อยเช่นกัน

ที่ผมซื้อก็เพราะต้องการเอาไปปล่อยเข้าป่า เป็นการช่วยชีวิตเหี้ยเอาไว้ไม่ให้คนซื้อไปฆ่า ถึงช่วยไม่ได้ทุกตัว ขอแต่ช่วยได้ตัวเดียวก็สบายใจแล้ว อดีตที่ผ่านมาผมเคยปล่อยแต่นกและปลา เปลี่ยนมาปล่อยเหี้ยบ้างก็ตื่นเต้นดี

พอซื้อเหี้ยได้แล้ว ผมคิดของผมเองว่า ถ้าไปปล่อยเหี้ยในเขตลาว ก็จะถูกคนลาวจับมาขายอีกแน่ๆ ผมจึงขอให้คนขายช่วยหิ้วเหี้ย ซึ่งมีเชือกล่ามอยู่ให้เข้ามาปล่อยในเขตไทย

คนขายให้บริการผมอย่างดีมาก ผมจึงได้ปล่อยเหี้ยตามตั้งใจ ตอนที่เหี้ยเดินจากเข้าป่าไปมันยังหันมาดูผมเลย

ขณะนั่งรถกลับผมได้เล่าให้ทุกคนบนรถฟังว่า ผมได้ซื้อเหี้ยปล่อย

คุณมานพฟังแล้วพูดว่า น่าจะบอกล่วงหน้า จะได้ถ่ายไปออกรายการ สะเก็ดข่าว

แต่นักข่าวอีกคนคิดไม่เหมือนคุณมานพ เขาบอกว่าผมไม่น่าเอาเหี้ยมาปล่อยในเขตไทยเลยเพราะเมืองไทยมีเหี้ยเยอะแล้ว

เวลาพบกับคุณมานพทีไร ผมอดคิดถึงเรื่องนี้ไม่ได้สักทีเพราะเป็นความทรงจำที่ไม่อยากลืม

คุณมานพผ่านงานเป็นนักข่าวและช่างภาพ ทั้งช่อง 9 ช่อง 3 และช่อง 7 โดยไม่ได้เรียนเกี่ยวกับการทำข่าวมาจากสถาบันใด เพียงแต่ได้ไปฝึกงานที่กองสื่อสารทหารเรือ แต่ด้วยความสามารถเฉพาะตัวทำให้ทำงานมาได้อย่างราบรื่น จนกระทั่งเกษียณจากทีวีช่อง 7 โดยมีลูกชายคนเล็กสานงานต่อ

หลังจากคุณมานพเกษียณจากงานประจำแล้วก็ไม่ได้ไปทำสวนทำไร่หรือประกอบอาชีพอื่นๆ ซึ่งถ้าไปทำก็คงทำได้ โดยเฉพาะเป็นชาวสวน เพราะมีที่ดินให้สามารถเข้าไปบุกเบิกได้ แต่เขากลับเลือกเป็นผู้สื่อข่าวสายท่องเที่ยวเหมือนเดิม เหมือนที่เคยทำมาตั้งแต่หนุ่มเพราะเป็นงานที่เขาชอบ

งานอะไรก็ตามถ้าชอบแล้วก็จะทำให้มีความสุข เขาบอกกับผม

ทั้งๆ ที่ระยะหลังๆ มานี้คุณมานพหันมาผลิตสื่อส่วนตัว ปัญหาหนักคือหาสปอนเซอร์ยาก แต่เขาก็ยังทำมาตลอดไม่เคยหยุด

ที่ต้องหยุดไปบ้างก็ตอนที่ต้องผ่าตัดหัวใจทำบายพาส ต้องเข้าไปนอนในโรงพยาบาลและพักผ่อนร่างกายให้ฟื้นเป็นเดือนๆ

หลังจากฟื้นก็ได้ทำงานแบบเดิมต่อ ไม่เคยย่อท้อ

อีกครั้งหนึ่งที่คุณมานพต้องหยุดไปหลายวันก็เพราะหกล้มทำให้กระดูกหัก (ลืมถามไปว่ากระดูกตรงไหนหัก)

พอกระดูกต่อเข้าที่แล้วก็ลุยงานต่อ

มิน่าครั้งหลังๆ เห็นได้ชัดเลยว่าคุณมานพไม่ค่อยแข็งแรงกระฉับกระเฉงเหมือนเคย

อย่างไรก็ตาม ผมมีโอกาสได้พบกับคุณมานพครั้งล่าสุดเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้เองซึ่งเราได้รับเชิญให้ไปที่นครสวรรค์และพิจิตรด้วยกัน

คุณมานพกลับมามีร่างกายแข็งแรงตามวัยเกือบจะเหมือนเดิม และสามารถสะพายกล้องถ่ายรูปทำข่าวได้ปกติเพื่อส่งข่าวให้ทีวีได้เหมือนเคย

ที่เป็นเช่นนี้ได้ เขาเผยเคล็ดลับว่า คนอายุมากอย่างเขาซึ่งมีเลขเจ็ดนำหน้าแล้ว ถ้าหยุดอยู่แต่ที่บ้านไม่ยอมออกไปทำงานนอกบ้านจะเฉาและแก่เร็ว

เรื่องของคุณมานพจึงทำให้รู้ว่า ถ้าผู้ใดไม่อยากเฉาไม่อยากแก่เร็วเกินไป อย่าเก็บตัวอยู่บ้าน ให้เดินทางบ่อยๆ เป็นดีที่สุด