จากช่างก่อสร้าง เลือกเป็นไกด์ในบั้นปลายชีวิต ถึงแม้จะช้าไป แต่ได้ทำงานที่รัก

จากช่างก่อสร้าง เลือกเป็นไกด์ในบั้นปลายชีวิต ถึงแม้จะช้าไป แต่ได้ทำงานที่รัก


ผู้เขียนมีเพื่อน
ร่วมรุ่นก่อสร้างอุเทนถวาย ส่วนใหญ่ต่างได้หยุดพักผ่อนกันแล้ว แปลว่า ต่างก็มีอายุมากจึงไม่ได้ทำงานอะไร เพราะถ้าไม่มีบำนาญกินก็จะเกาะเมียกินบ้าง เกาะลูกกินบ้าง

แต่สำหรับ สมชาย เทศะแพทย์ ยังทำงานอยู่เหมือนเดิม เหมือนคนหนุ่ม ทั้งๆ ที่มีอายุ 70 กว่าปีเข้าไปแล้ว

สมชาย บอกว่า งานในหน้าที่เป็นไกด์ของเขานั้นสนุกและเพลิดเพลินมาก นอกจากได้เที่ยวแล้ว ยังได้พบกับลูกทัวร์ที่เปลี่ยนหน้าเปลี่ยนตากันเรื่อยๆ แทบไม่ซ้ำกันเลย ที่สำคัญ ทำให้ร่างกายแข็งแรงด้วย เพราะคนทำหน้าที่ไกด์หรือพาคนเที่ยวนั้นเหมือนได้ออกกำลังกายไปในตัวขณะทำงาน

“คนเป็นไกด์อ่อนแอไม่ได้ เพราะต้องดูแลคนอื่น ไม่ใช่ให้คนอื่นมาดูแลเรา” เขาว่า

วันที่ผมได้พูดคุยกับสมชาย เขาเพิ่งทำหน้าที่เป็นไกด์พาชาวฝรั่งเศสจำนวน 7 คนเที่ยวเมืองไทย

ตอนแรกๆ สมชายจะเป็นไกด์พาคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศ แต่ตอนหลังเปลี่ยนมาเป็นรับคนต่างชาติมาเที่ยวเมืองไทยดีกว่า เพราะคนต่างชาติไม่เรื่องมากเหมือนคนไทย อีกทั้งมีรายได้ดีกว่า นอกจากได้ทิปแล้ว เวลาพานักท่องเที่ยวไปซื้อของเราก็ได้เงิน พาไปนวด เราก็ได้เงิน พาไปขี่ช้าง เราก็ได้เงิน ได้มากด้วย

น่าเสียดายที่สมชายเพิ่งเข้ามาทำงานไกด์ตอนอายุ 40 กว่าปีแล้ว หากได้เป็นไกด์มาตั้งแต่เป็นหนุ่ม ป่านนี้คงร่ำรวยไปแล้ว


เขาเอ่ยถึงชื่อไกด์ในอดีตหลายคน ที่ตั้งตัวได้จากการมีอาชีพเป็นไกด์

ถ้านับตั้งแต่วันแรกมาจนถึงวันนี้ สมชายเป็นไกด์มาแล้วถึง 30 กว่าปี ก็ยังสนุกกับงาน เพราะนอกจากทำให้เขามีร่างกายแข็งแรงดังกล่าวข้างต้นแล้ว ยังมีรายได้ดีด้วย

“ถึงแม้ตอนนี้เศรษฐกิจภายในประเทศไม่ดี แต่คนต่างชาติ โดยเฉพาะคนยุโรปและอเมริกันก็ยังนิยมมาเที่ยวเมืองไทย ตอนที่เมืองของเขาเป็นหน้าหนาว ถือเป็นการมาเที่ยวด้วยหนีหนาวมาด้วย” เขาว่า

เมื่อผมอยากรู้ว่า เขาเรียนจบมาทางก่อสร้าง แล้วทำไมมามีอาชีพเป็นไกด์ได้ เขาจึงเล่าความเป็นมาของเขาอย่างยืดยาว แต่ผมขอนำมาสรุปได้ว่า

หลังจากสมชายเรียนจบจากช่างก่อสร้างอุเทนถวายแล้ว ได้เข้าไปทำงานที่กองควบคุมอาคาร เทศบาลนครกรุงเทพฯ (ปัจจุบันคือ กรุงเทพมหานคร) มีหน้าที่ตรวจแบบแปลนก่อสร้างและตรวจสถานที่

สมชายทำงานที่เทศบาลอยู่ได้ไม่นานก็ดิ้นรนจนได้ไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา เพราะมองเห็นอนาคตว่าน่าจะดีกว่าทำงานอยู่ที่เดิม ตอนแรกตั้งใจไปเรียน แต่พอเอาเข้าจริงไปทำงานหาเงินมากกว่าเรียน

งานที่ทำในอเมริกามีทั้ง งานเขียนแบบก่อสร้าง งานร้านอาหาร

ที่สหรัฐอเมริกาเขาย้ายไปทำงานหลายรัฐ ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน

หลังสุดได้ไปทำงานที่รัฐฮาวาย และที่นี่เองทำให้เขาได้ภรรยาเป็นคนญี่ปุ่น

จากนั้นก็ย้ายไปทำงานที่แคนาดาอีก

รวมที่ต้องอยู่ในต่างประเทศร่วม 10 กว่าปี

สมชาย เทศะแพทย์

สิ่งที่เขาได้ นอกจากประสบการณ์ชีวิตแล้ว ที่ได้ประโยชน์กับเขามากที่สุดก็คือ ทำให้เขาสามารถฟังและพูดภาษาอังกฤษได้อย่างดี จากนั้นได้ไปทำงานที่ซาอุดีอาระเบียอยู่หลายปี

เมื่อกลับมาเมืองไทยระยะแรก ก็ได้ลงทุนขายของที่ห้างสรรพสินค้าไทยไดมารู ขายสินค้าจากญี่ปุ่นเป็นหลัก โดยสั่งซื้อมาจากญี่ปุ่น

สินค้าที่เขาสั่งมาขาย ขายได้ดีในระยะแรกๆ หลังจากนั้นขายได้น้อยลง

เขาจึงเปลี่ยนอาชีพไปทำมาหากินด้วยการทำรถขายกาแฟที่เชียงใหม่ แต่ก็ไม่พบความสำเร็จ จึงต้องหันมาประกอบอาชีพเป็นไกด์

ก่อนเป็นไกด์อาชีพ เขาได้ไปเรียนวิชามัคคุเทศก์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจนจบ

จากนั้นก็รับงานจากบริษัททัวร์เป็นงานๆ ไป เพราะบริษัททัวร์ส่วนใหญ่จะไม่ได้จ้างไกด์ให้กินเงินเดือนประจำ

เขาจึงได้เป็นไกด์เต็มตัวตั้งแต่นั้นมา และตั้งแต่เป็นไกด์ก็ไม่ได้ทำอย่างอื่นเลย และจะทำงานนี้ต่อไปเรื่อยๆ โดยคิดว่าอายุมากแล้วจะไม่เปลี่ยนงานอีก

“ถ้าจะเปลี่ยนงานสักครั้งก็คงหมายถึง นั่งพักผ่อนอยู่บ้านเฉยๆ” เขาว่า

การที่ผมได้รู้ถึงความเป็นมาของสมชายก่อนจะมาถึงวันนี้ ทำให้รู้เลยว่า

ทุกคนสามารถทำงานให้ได้ดีได้ ถ้าได้ทำงานในสิ่งที่ตัวเองชอบ เขาจึงรู้สึกเสียดายที่มาประกอบอาชีพที่ชอบเมื่ออายุมากแล้ว

ถึงอย่างไร สำหรับสมชายนั้น ดีกว่าเพื่อนร่วมรุ่นอีกหลายคนตรงที่ได้ทำงานที่ไม่ต้องปลดเกษียณ นอกจากยอมปลดเกษียณตัวเอง