เปิดไอเดีย หาของ ‘ขายออนไลน์’ ฉบับ ผู้ค้ามือใหม่ เริ่มง่าย ใกล้ตัวทั้งนั้น!

ปัจจุบันคนวัยทำงานเริ่มมองหาลู่ทางหารายได้เสริมโดยการ “ขายออนไลน์” มากขึ้น แต่ยังคงติดปัญหาที่ว่าจะขายอะไรดี?

เว็บไซต์ Post Family ได้รวบรวมไอเดียการหาของมาขายจากต้นทุนที่เรามี สร้างกำไรได้จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ มาฝากเพื่อ “พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์” มือใหม่โดยเฉพาะ ดังนี้

1. ของใช้ ของสะสมส่วนตัว ของแจก เก็บไว้ก็เต็มบ้านนำมาสร้างรายได้เสริมได้

หลายคนซื้อของมาแล้วไม่ได้ใช้ หรือใช้แค่ครั้งสองครั้ง เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ของเหล่านี้ ถือเป็นของใกล้ตัว ที่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ไม่ต้องหา ไม่ต้องสต๊อกสินค้า เริ่มขายง่ายๆ โดยการนำของเหล่านี้นำมาโพสต์ ขายออนไลน์ ในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซได้ทั้งนั้น

ยิ่งถ้าเป็นของแบรนด์ยิ่งเป็นที่ต้องการ เพราะเก็บไว้ก็เต็มบ้าน นำของที่มีมาสร้างรายได้เพิ่มดีกว่า

“ของสะสม” เช่น พวกโมเดล ของเล่น บางทีช่วงเวลาหนึ่งเราชื่นชอบและหามาสะสม แต่พอนานวันไปก็กลายเป็นของเก็บที่เต็มบ้าน หรือ “ของแจก” ที่ได้มาจากการไปร่วมงาน หรือของแถมที่มากับสินค้าที่เคยซื้อ เพราะนานวันไปของเหล่านี้ก็ไม่ได้ถูกผลิตออกมาอีก ทำให้กลายเป็นของที่มีจำกัด ที่กลุ่มคนสะสมมองหา บางทีของที่อยู่ในบ้านอาจชินตาจนรู้สึกว่าไม่มีค่า แต่อาจเป็นที่ต้องการของคนอื่นก็เป็นได้

2. สินค้าของบริษัท ก็เอามา “ขายออนไลน์” ได้

ในหลายบริษัทที่ผลิตสินค้าจะมีนโยบายขายสินค้าในราคาส่วนลดแก่พนักงาน นี่แหละคืออีกหนึ่งช่องทางการหาสินค้ามาขาย แต่บางบริษัทอาจจะจำกัดปริมาณการซื้อ คุณอาจต้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ช่วยอีกทางหนึ่ง 

แต่การขายสินค้าแบบเดียวกับบริษัท ก็อาจต้องคิดในปัจจัยหลายเรื่อง ทั้งเรื่องราคา ที่คุณจะไม่สามารถลดราคา ให้โปรโมชั่นส่วนลดแบบที่บริษัททำได้ เพราะต้นทุนที่ต่างกัน หรือแม้แต่ถ้ากำหนดราคาขายที่ต่ำกว่าราคาขายทั่วไปของบริษัท ก็อาจมีปัญหาเรื่องตัดราคา และอาจส่งผลต่อสถานะพนักงานของตัวคุณเองด้วย 

วิธีการที่ดีที่สุด คือ การกำหนดราคาที่เท่ากับราคาขายทั่วไป หรือใกล้เคียงกัน แต่เพิ่มความใส่ใจกับลูกค้า ในการตอบคำถาม หรือให้คำแนะนำในตัวสินค้า ในแบบเข้าถึงได้ ไม่ใช่การโต้ตอบในฐานะแบรนด์กับลูกค้า

3. บัตรสมาชิก สิทธิพิเศษ ใช้ให้เกิดประโยชน์

ลองเปิดในกระเป๋าแล้วดูว่า มีบัตรสมาชิกร้านอะไรอยู่บ้าง เพราะบัตรเหล่านี้จะให้ส่วนลดพิเศษเฉพาะสมาชิกเท่านั้น ส่วนลดตรงนี้แหละที่คุณสามารถนำมาแปลงเป็นกำไรให้กับตัวคุณเองได้ และในกรณีที่ร้านมีการแบ่งประเภทของเมมเบอร์ตามยอดซื้อ ยิ่งมียอดมากๆ ก็อาจมีสิทธิพิเศษเพิ่มขึ้นด้วย หรือในกรณีเดือนเกิดบางร้านมีส่วนลดพิเศษมากๆ ให้เมมเบอร์ คุณอาจใช้เป็นจังหวะในการสต๊อกสินค้าที่มีลูกค้าสั่งมาเยอะๆ เพื่อลดต้นทุนสร้างกำไรได้มากขึ้นด้วย 

อีกวิธีหนึ่งที่ทำได้ คือ การจ่ายด้วยบัตรเครดิต เพื่อรับส่วนลดแบบ Top up จากบัตร เพราะบางบัตรยิ่งมียอดใช้จ่ายเยอะๆ ก็จะมีส่วนลดหรือเงินคืนให้คุณด้วย แถมยังได้สะสมพอยต์ เก็บไว้เป็นส่วนลดได้ในอนาคตอีกด้วย

แถมแบรนด์เหล่านี้ก็เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว ง่ายต่อการเอาสินค้ามา ขายออนไลน์ แค่เอามาขายในราคาเท่าหน้าร้าน แล้วกินส่วนต่างกำไรจากส่วนลดที่ได้มาเฉพาะเมมเบอร์แบบคุณ

4. รับสินค้า PRE ORDER

นี่เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ “พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์” มือใหม่นิยมทำกัน หรืออีกนัยหนึ่งก็คือการรับหิ้วสินค้า เพียงคุณถ่ายรูปสินค้าจากร้านค้า แล้วโพสต์ลงขาย เมื่อมีคนสั่ง เราก็ไปซื้อและนำไปส่ง โดยบวกราคาค่าหิ้วเป็นส่วนกำไรของตัวคุณเอง แต่วิธีการนี้คุณจำเป็นต้องเลือกร้านค้าที่ลูกค้าไม่สามารถเดินทางมาซื้อเองได้ เพราะถ้าเป็นสินค้าที่มีขายอยู่ทั่วไปโอกาสที่เขาจะสั่งก็จะน้อยลง

ยกตัวอย่างเช่น พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์บางราย ใช้วิธีถ่ายรูปสินค้าจากร้านขายเฟอร์นิเจอร์ที่มีสาขาเฉพาะในกรุงเทพฯ แล้วขายออนไลน์ในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซกับลูกค้าต่างจังหวัด เมื่อมีออร์เดอร์จึงค่อยไปซื้อที่ช็อปแล้วนำไปจัดส่งเป็นต้น

5. สินค้า HANDMADE ทำเอง ไม่มีทางเหมือนใคร

ถ้าคิดแล้วคิดอีก ก็ยังไม่รู้จะหาอะไรมาขายออนไลน์ดี ก็ทำเองซะเลย ลองดูความสามารถส่วนตัวของตัวเองว่าเราทำอะไรได้ มีฝีมือด้านไหน หรือไม่ก็หาของที่มีขายอยู่ทั่วไป แต่ Mix and Match เติมโน่นผสมนี่ให้เป็นเอกลักษณ์ในแบบของคุณเอง

ยกตัวอย่าง เช่น พ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ หัวใส อยากขายถุงหอม เอาไว้ในรถหรือตู้เสื้อผ้า ก็หาซื้อถุงผ้าตาข่ายหูรูดดอกไม้แห้งกลิ่นต่างๆ แล้วผสมกับการเอาสบู่หอมมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ บวกลงไปในถุงหอม Mix and Match กลิ่นจนได้ในแบบฉบับของตัวเองขึ้น แม้จะดูเป็นไอเดียเล็กๆ เริ่มต้นง่ายๆ แต่ถ้าพัฒนาต่อยอดได้ ในอนาคตก็อาจพัฒนากลายเป็นแบรนด์ของตัวเองได้เช่นกัน 

แต่ถ้าใครยังอยากหาไอเดียเพิ่มเติมอีก ตัดสินใจไม่ได้ แนะนำว่าลองไปดูในบรรดาเว็บสินค้าจีนยอดนิยมดูก็ได้ว่าเขาขายอะไรกัน เพราะเว็บไซต์สินค้าเหล่านี้จะมีสินค้าให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย และมีของแปลกหูแปลกตาที่อาจหาซื้อทั่วไปไม่ได้ เว็บไซต์ที่นิยมให้ไปลองดู เช่น Taobao, Tmall และ Xiaohongshu เป็นต้น

เว็บไซต์เหล่านี้ จะทำให้คุณเห็นเทรนด์ว่า ตอนนี้มีสินค้าอะไรที่ขายอยู่บ้าง มองสินค้าเหล่านั้นเป็นไอเดีย แล้วต่อยอดเริ่มต้นในแบบของคุณเอง

ทั้ง 5 วิธีที่เล่ามา เป็นการหาสินค้ามาขายจากสิ่งของใกล้ตัว เป็นไอเดียสำหรับ “พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์” มือใหม่ ที่อาจจะยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่าจะหาสินค้าอะไรดีมา “ขายออนไลน์” หรือสำหรับบางคนที่ไม่มีประสบการณ์ กลัวผิดพลาด กลัวขาดทุนกับการลงทุนสูงๆ แนวทางนี้อาจพอช่วยคุณให้เริ่มต้นในการเข้าสู่วงการ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ได้