มารุโมะโมะ ซึ่ง มาจาก คำว่า มารุโมโม่ แปลว่าลูกท้อ ซึ่งคนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าลูกท้อ เป็นสัญลักษณ์ของการมีอายุยืนยาว และป้องกันสิ่งชั่วร้าย

---

เบสท์-ชนิดาภา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์ โด่งดังจากภาพยนตร์ รักแห่งสยาม เมื่อปี 2550 ขึ้นแท่นเป็นนางเอกสังกัดแอ็กแซกท์ สร้างชื่อเสียงอีกครั้งกับผลงาน ความลับของซุปเปอร์สตาร์ หลังจากหมดสัญญา เธอก็รับงานอิสระ และพลิกบทบาทมาเล่นร้ายครั้งแรกในละคร ผู้ดีอีสาน เรียกว่าเป็นนักแสดงที่คับคุณภาพอีกคนของวงการ นอกจากนี้เธอยังใช้เวลาที่เหลือ สร้างความมั่นคงให้กับชีวิต ด้วยการเปิดร้านอาหารญี่ปุ่น ชื่อ มารุโมโมะ ราเมน ร่วมกับคนรู้ใจ ฮีโร่-ภัคศรุจน์ นาคาฮาร่า และประสบความสำเร็จกับสาขาแรก ที่อยู่ชั้น 3 Bangkok Plaza โรงพยาบาลกรุงเทพ และล่าสุดสาขา 2 ณ ศูนย์การค้า The Seasons พหลโยธินซอย 1

         

ความฝันอยากเปิดร้าน

เบสท์เปิดใจถึงการตัดสินใจมาเปิดร้านอาหารญี่ปุ่น เป็นเพราะเธอมีความฝันมาตั้งแต่เด็กว่าอยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเอง ประกอบกับแฟนหนุ่ม ฮีโร่ ซึ่งเป็นคนญี่ปุ่น และรู้จักกับคนที่ทำราเมนที่ประเทศญี่ปุ่น และมาที่ไทย จึงเกิดไอเดียทำร้านและชักชวนมาเป็นหุ้นส่วน โดยมีทั้งหมด 4 หุ้นด้วยกัน

เริ่มมาจากพี่ฮีโร่ เป็นคนญี่ปุ่นไต้หวัน จึงรู้จักคนญี่ปุ่นพอประมาณ และบังเอิญไปเจอหุ้นส่วน คือคนที่ทำราเมนและมาเมืองไทย ได้คุยกันว่าอยากทำร้านราเมน คุยกันลงตัวจึงเปิดร้าน มารุโมโมะ ราเมน สาขาแรกที่โรงพยายาบาลกรุงเทพ เบสท์เข้ามาทีหลัง ซึ่งเราเองชอบทำอาหาร ชอบทาน ตอนเด็กๆ มีความคิดอยากปิดร้านอาหาร แต่คุณแม่บอกว่าไม่ควรลงทุนคนเดียว อย่างน้อยมีหุ้นส่วนจะได้ลดความเสี่ยง เจ็บตัวน้อย เป็นจังหวะดีเพราะแนวโน้มร้านอาหารญี่ปุ่นเป็นไปในทิศทางที่ดี เพราะตลาดอาหารญี่ปุ่นใน 2 ปีที่ผ่านกำลังมาแรง จริงๆ คนไทยชอบทานอาหารญี่ปุ่นมานาน อาหารไทยเป็นอาหารหลัก และรองลงมาคืออาหารญี่ปุ่นกับจีน เพราะฉะนั้นคนไทยจะชอบเมนูประมาณนี้เยอะ แม้คู่แข่งจะเกิดขึ้นไม่น้อย แต่เรามีมุมที่แตกต่างจากร้านราเมนอื่นๆ

 เด่นด้วยสูตรต้นตำรับแท้ๆ

โดดเด่นด้วยรสชาติที่เป็นสูตรราเมนต้นตำหรับแท้ๆของคนญี่ปุ่น เพราะเจ้าของร้านมั่นใจว่ารสชาติที่เธอปรับให้กลมกล่อม และอร่อยทุกเมนู โดยมีคนญี่ปุ่นเป็นคนดูแลคุณภาพอาหาร ที่บินมาเดือนละครั้งเพื่อนคิดสูตรและเอาเมนูมาเพิ่มเพื่อไม่เกิดความจำเจ

เบสท์มองว่าผู้หญิงไทยห่วงรูปร่าง ไม่อยากกินอะไรที่มีไขมันเยอะ หรือเค็มมากเพราะไม่ดีกับไต จากที่เบสท์ไปชิมราเมนมาหลายๆ ที่ มีทั้งอร่อยและไม่อร่อย เบสท์พยายามหารสชาติที่อร่อยของทุกทีมารวมกับ และปรับให้เป็นของตัวเอง ให้รสชาติที่กลมกล่อม และอร่อยทุกเมนู บางทีคนส่วนมากทานแต่เมนูเดิมๆ  เพราะมันอร่อย เมนูที่ไม่อร่อยก็ไม่อยากกิน เพราะฉะนั้นของเราจะต้องอร่อยทุกเมนู ไม่ใช่อร่อยแค่เมนูใดเมนูหนึ่ง แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวด้วย เพราะบางคนชอบรสชาติเดิมๆ

ในตอนแรกมีราเมนมี 2 เมนู คือซุปกระดูกหมู กับต้มยำ ต่อมาค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะหุ้นส่วนจะบินมาเดือนละครั้งเพื่อคิดสูตร และเอาเมนูมาเพิ่มจนเยอะมากขึ้น และเขาทำรสชาติญี่ปุ่นแท้เลย เบสท์กับพี่ฮีโร่จะชิมก่อนเพื่อให้รสชาติเข้ากับคยไทยมากที่สุด

           

มารุโมะโมะ มาจากความเชื่อ

สำหรับชื่อร้านนั้น เดิมที่สาขาแรกใช้ชื่อว่า คิบิ มารุโมโมะ โชคุโด ซึ่งเธอบอกเล่าว่าชื่อร้านยาวเกินไป พอสาขาจึงตัดและใช้คำว่า มารุโมะโมะ ซึ่ง มาจาก คำว่า มารุโมโม่ แปลว่าลูกท้อ ซึ่งคนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าลูกท้อ เป็นสัญลักษณ์ของการมีอายุยืนยาว และป้องกันสิ่งชั่วร้าย

สาขาแรกใช้ชื้อว่า คิบิ มารุโมโมะ โชคุโด ยาวมาก (หัวเราะ) พอสาขา2 จึงให้สั้นลง โดยตัดคำว่า คิบิ กับ โชคุโด ออก คงไว้ มารุโมโมะ ซึ่งมาจาก มารุโมโม หมายถึงลูกท้อ เป็นสัญลักษณ์ของการมีอายุที่ยืนยาว ซึ่งญี่ปุ่นมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องนี้

ที่ร้านจะตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น เรียบง่าย ถ้าเป็นญี่ปุ่นแบบออริจินัลจะไม่มีเก้าอี้นั่ง ต้องยืนกินและมีเคาน์เตอร์ เพราะคนญี่ปุ่นจะรีบกินและรีบไปทำงาน แต่คนไทยยืนกินไม่ได้ เพราะเหมือนเป็นธรรมเนียมที่ต้องนั่งกิน เบสท์จึงพยายามปรับให้มันเข้ากับคนไทย ที่ร้านมารุโมะโมะ ไม่ได้มีความเป็นญี่ปุ่น 100 เปอร์เซ็นต์ เราผสมความเป็นไทยลงไปด้วย เพราะกลุ่มลูกค้าเป็นคนไทย มีเมนูมากกว่า 50 เมนู ปรับรสชาติให้เข้ากับคนไทย และมีรสชาติสำหรับคนญี่ปุ่น คนที่ทานเจ คนที่ทานมังสวิรัติและแม้กระทั่งมีเมนูสำหรับคนที่เป็นอิสลามด้วยค่ะ

 

บุคลากร สำคัญสำหรับงานบริการ

เธอบอกกล่าวถึงช่วงแรกๆ ที่เปิดร้าน ที่ประสบปัญหาของบุคลากรที่มีใจรักในงานบริการ และความไม่มั่นใจในแบรนด์ของเธอ เพราะถือว่าเป็นร้านใหม่ที่เกิดขึ้นในเมืองไทย และสาขา 2 เธอเล็งเห็นว่าเป็นทำเลที่เหมาะ เพราะมีทั้งพนักงาน พยาบาล และกลุ่มวัยรุ่นที่มักมารวมตัวกันที่อนุสาวรีย์

หลักๆ ที่มีปัญหาคือเรื่องบุคลากรเพราะหาคนยาก คนที่รักการบริการจริงๆ เชื่อมั่นในแบรนด์ของเราอาจจะยังไม่เยอะเพราะเราเปิดใหม่ เราไม่ใช่บริษัทจำกัดมหาชนที่คนจะมาสมัครแล้วมั่นใจว่าจะมีสวัสดิการเยอะมันเลยหาคนยาก ถ้าเป็นคนที่เดินเข้ามาสมัครจะอยู่ไม่นาน สังเกตง่ายส่วนใหญ่ถ้าเป็นคนที่แนะนำต่อๆ กันมาจะอยู่นานกว่าเพราะว่าอาจจะเป็นแฟนคลับเบสท์ หรือตัวพี่เขาหรือด้วยเหตุผลอื่นเขาอาจเชื่อมั่นตรงนั้นว่าจะดูแลเขาดีไม่โกง            

ส่วนกลุ่มลูกค้า สาขาแรกที่โรงพยาบาบกรุงเทพ ลูกค้าเป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อมาก เพราะอยุ่ในโรงพยาบาล ซึ่งราคาไม่แพงชามละ 180 บาท สาขาแรกค่อนข้างอยู่ตัว ส่วนสาขา 2 อยุ่ในย่านอนุสาวรีย์มีนหมุนเวียนเยอะ มีโรงพยาบาลพญาไท 2 ตรงข้ามเป็นสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 และออฟฟิศย่านยี้เยอะ รวมไปถึงนักศึกษา แวะเข้ามาทาน อีกอย่างทำเลตรงนี้ติด BTS สนามเป้า การเดินทางสะดวก

            

 คัดคุณภาพและการใส่ใจ

สำหรับการรองรับลูกค้าในแต่ละวันนั้น สามารถรับได้ถึง 13 โต๊ะ โต๊ะละ 5-6 คน โดยเธอแทรนด์พนักงานให้มีความใส่ใจต่อลูกค้า ส่วนคุณภาพนั้นเธอการันตีว่าอร่อย เน้นคุณภาพล้วนๆ และตอนนี้มีโปรโมชั่นที่คอราเมนไม่ควรพลาด!!!

ใส่ใจคุณภาพและรสชาติเรื่องอาหาร ต้องใส่ใจอันดับหนึ่งเพราะลูกค้าเข้ามาในร้านเราเขาหิว เขาต้องการอาหารที่อร่อยและถูกสุขลักษณะ ค่อนข้างใส่ใจกับเรื่องนี้มากรวมถึงความสะอาดร้านด้วย ส่วนพนักงานแทรนเรื่องความสะอาดค่ะ อย่างเรื่องในครัวพี่ฮีโร่จะเป็นคอยคุมเรื่องวัตถุดิบ ของเบสเป็นส่วนของภายนอกทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเรื่องการ พีอาร์ มาเก็ตติ้งต่างๆ เบสจะดูภาพลักษณ์ให้สะอาดเรียบร้อย บางทีเสริฟเองเก็บโต๊ะเอง เรื่องเครื่องปรุงก็สำคัญต้องสะอาดเหมือนกัน ดูแลไม่ปล่อยให้มันเลอะ อยากให้ลูกค้ามาทานและกลับไปพร้อมความประทับใจว่าอร่อยอิ่มคุ้มค่ากับราคาที่เขาเสียไป ร้านเปิดทุกวันค่ะ จันทร์ – อาทิตย์ ไม่มีวันหยุด 11.00 – 21.00 น. แต่ครัวจะปิดตอน 20.00 น.

สำหรับที่นี่ตอนนี้เป็นโปรฉลองเปิดร้านใหม่ สาขาใหม่ลด 10 เปอร์เซ็นต์ทุกเมนู ใครสะดวกทางไหนมาทานได้ค่ะ สำหรับสาขาแรกอยู่ที่ชั้น 3 บางกอกพลาซ่าโรงพยาบาลกรุงเทพ ส่วนสาขาที่ 2 ที่อยู่ชั้น 2 เดอะซีซันพหลโยธิน

การันตีว่าเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่รสชาติถูกปากคนไทยทุกเมนู ไม่เชื่อไปลิ้มรสได้ที่ มารุโมโมะ ราเมน สาขาแรก ชั้น 3 บางกอกพลาซ่าโรงพยาบาลกรุงเทพ และสาขา 2 ที่ เดอะซี่ซั่น พหลโยธิน