ปัจจุบัน ธุรกิจรีสอร์ตมีการแข่งขันสูงขึ้น ลูกค้ามีตัวเลือกมากขึ้น ฉะนั้น จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมเจ้าของกิจการหลายรายเร่งปรับตัว ไม่ว่าจะเป็นการดัมพ์ราคา อัดโปรโมชั่น รวมถึงสร้างจุดขายภายในรีสอร์ต  เฉกเช่น “โยโกะ ริเวอร์แคว รีสอร์ท” ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 60 ไร่ ริมแม่น้ำแควใหญ่ ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค  จังหวัดกาญจนบุรี เป็นที่พักที่มีสวนผักปลอดสารพิษ และมีความหลากหลายให้ลูกค้าเลือกพักตามความชอบ  อาทิ บ้านสไตล์ยุโรป บ้านทรงไทยร่วมสมัย เรือนแพลอยน้ำ รวมถึง ถ้ำบ้านดินเหนียว

ที่พักของคนอยากพักผ่อน
เลือกพักในสไตล์ที่ตัวเองชอบ

สำหรับเจ้าของ “โยโกะ ริเวอร์แคว รีสอร์ท” คือ คุณอนันต์ เดชอนันตชาติ ประธานกรรมการบริหารบริษัทในเครือสยามโยโกะ ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางโยโกะ

คุณอนันต์ เผยกับเส้นทางเศรษฐีว่า ธุรกิจรีสอร์ตเป็นอีกหนึ่งในธุรกิจครอบครัวเดชอนันตชาติ เปิดราวปี 2548  บนที่ดินส่วนตัว ค่อยๆ ลงทุนและพัฒนาเรื่อยมา โดยไม่มีการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินใด เมื่อได้กำไรมาก็ค่อยขยายเพิ่มพื้นที่การก่อสร้างในแต่ละส่วนไปเรื่อย เพราะการทำรีสอร์ตหรือโรงแรม ต้องใช้เวลา นับเป็นการลงทุนระยะยาว แต่ปัจจุบันคืนทุนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เป็นที่รู้ว่าเมืองกาญจน์ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวที่เป็นอันซีน มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่าง เชียงใหม่ เขาค้อ สวนผึ้ง  แม่ฮ่องสอน ภูเก็ต หรือ เกาะสมุย แต่เมืองกาญจน์เป็นเมืองที่สงบ มีธรรมชาติที่หลากหลาย เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนจริง

สำหรับ “โยโกะ ริเวอร์แคว รีสอร์ท” ได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยว ว่าเป็นรีสอร์ตอิงธรรมชาติที่น่าพัก เมื่อเทียบกับที่พักในละแวกเดียวกัน เพราะด้วยทำเล การจัดวางรูปแบบของที่พัก โดยดึงจุดเด่นทางธรรมชาติและเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่สำคัญ มาเนรมิตห้องพักให้มีแบบฉบับเฉพาะตัว

ปัจจุบัน มีห้องพักจำนวนทั้งสิ้น 100 ห้อง แต่ละห้องมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป อาทิ เรือนแพ บ้านไทย บ้านโรมัน  บ้านชมจันทร์ ถ้ำบ้านดินเหนียว บ้านบอลติก นอกนั้นจะเป็นห้องรวม โดยแต่ละห้องจะมีทัศนียภาพที่แตกต่างกันไป ให้ลูกค้าได้มีโอกาสเลือกพักในสไตล์ที่ตัวเองชอบ

ถ้ำบ้านดิน
เอาใจคนยุคมนุษย์หิน

รายละเอียดที่พักแต่ละรูปแบบ คุณอนันต์ อธิบายทีละส่วน เริ่มจาก “เรือนแพลอยน้ำ” จะอยู่ติดแม่น้ำแควน้อย ต่อมา “บ้านสไตล์ยุโรป” เป็นที่พักออกแบบสไตล์โรมัน ยังมี “บ้านทรงไทย” ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับธรรมชาติ และประวัติศาสตร์ของจังหวัดกาญจนบุรี โดยหลังคามุงด้วยหญ้าแฝก ของใช้ทำจากกะลามะพร้าว เอาใจต่างชาติที่มาพักได้สัมผัสวิถีแบบไทยๆ ในบ้านทรงไทย

ยังมี ถ้ำบ้านดินเหนียว ลักษณะเหมือนกับถ้ำ เป็นแห่งแรกในจังหวัดกาญจนบุรี โดย “ถ้ำบ้านดินเหนียว” ถูกสร้างขึ้นจากดินเหนียวทั้งหมด ภายในตกแต่งเหมือนกับห้องทั่วไป มีเครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น มีห้องไว้บริการลูกค้าเพียง 5 ห้องเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่ลูกค้าที่เลือกพักถ้ำบ้านดินเหนียว อยากสัมผัสใกล้ชิดธรรมชาติ ก็จะไม่ใช้แอร์ ซึ่งบ้านดินก็จะเย็นอยู่แล้วไม่ต้องใช้แอร์ก็ได้

นอกจากที่พัก ภายในรีสอร์ตนี้ยังมีมุมเกษตรอินทรีย์ ซึ่งใช้พื้นที่ด้านหน้ารีสอร์ต 6 ไร่ ติดแม่น้ำแคว เนรมิตเป็นแปลงปลูกผัก ผลไม้ ช่น ผักกวางตุ้ง ผักบุ้ง ถั่วฝักยาว พริก ตะไคร้ ใบมะกรูด มะละกอ แก้วมังกร ผักหวาน พืชผักที่ปลูกทั้งหมดป้อนให้โรงครัว ปรุงอาหารเพื่อสุขภาพเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคที่มาใช้บริการรีสอร์ต บางส่วนก็จำหน่าย

“ผมใช้พื้นที่ประมาณ 4 ไร่อยู่ด้านล่างติดแม่น้ำแคว ปลูกพืชผักสมุนไพร เช่น ผักกวางตุ้ง ผักบุ้ง ถั่วฝักยาว พริก ตะไคร้ ใบมะกรูด และด้านหน้ารีสอร์ตอีก 2 ไร่ ปลูกไม้ผล เช่น มะละกอ แก้วมังกร ผักหวาน พืชผักที่ปลูกทั้งหมดเป็นเกษตรอินทรีย์ ใช้น้ำส้มควันไม้ไล่แมลง จะเห็นว่าลักษณะพืชผักจะไม่ค่อยสวยงาม แต่รับรองว่าปลอดภัยต่อสุขภาพอย่างแน่นอน”

เสิร์ฟอาหารอินทรีย์
มีมุมคนรักของเก่า

แปลงผักและผลไม้ของรีสอร์ตแห่งนี้ คุณอนันต์ ระบุว่า มีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มาวางระบบให้ โดยมีการให้น้ำด้วยสปริงเกลอร์และระบบน้ำหยด โดยใช้ระบบการปลูกสลับกันไปเพื่อไม่ให้ผลผลิตมีมากเกินความต้องการ เน้นพืชผักตามฤดูกาล โดยมีหัวหน้าโรงครัวเป็นผู้วางแผนและสั่งการมายังคนงานที่รับผิดชอบแปลงปลูก ทั้ง 2  ฝ่ายนี้จะมีการประชุมวางแผนกันตลอดทุกวัน

ยังมีอีกหนึ่งความพิเศษ สำหรับคนที่ชื่นชอบและรักในของเก่าโบราณ ทางคุณอนันต์บอกกับเส้นทางเศรษฐีว่า ส่วนตัวชอบหลงเสน่ห์ของเก่าอยู่แล้ว สะสมมาตั้งแต่สมัย 60-70 ปีที่แล้ว จึงได้จัดพื้นที่บางส่วนของรีสอร์ต สร้างเป็นร้านโชห่วย โรงภาพยนตร์ในแบบย้อนยุค มีเครื่องถ่ายหนัง ทีวีขาวดำ โปสเตอร์หนังในยุคแรก นาฬิกาปลุกโบราณ เป็นต้น

ด้านรสชาติของอาหาร คุณอนันต์ บอกว่า ให้ความสำคัญมาก ส่วนตัวเชื่อว่าถ้าอาหารอร่อยจะช่วยดึงลูกค้าให้กลับมาใช้บริการรีสอร์ตอีกในครั้งต่อไป ดังนั้น ทุกเมนูจะต้องเป็นผู้คัดสรรรายการอาหารและดูแลเรื่องรสชาติด้วยตัวเอง โดยจะมีการทดสอบรสชาติของอาหารอยู่ตลอด เมนูเด่นคือ ข้าวต้มกระดูกหมู ข้าวมันไก่ ต้มยำไก่ เป็นต้น

สำหรับกลุ่มลูกค้า เจ้าของรีสอร์ต เผยว่า เดิมจะได้ลูกค้าคนไทยมาจัดสัมมนา มาพักผ่อนในช่วงวันหยุด แต่ในระยะหลัง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ ลูกค้าบอกกันแบบปากต่อปาก เริ่มมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาผ่านบริษัททัวร์ โดยเฉพาะรัสเซียที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักของรีสอร์ต

สนใจสอบถามราคาที่พัก โทรศัพท์ (02) 758-3074, www.yokoresort.com