“เอสเอ็มอี ชิปปิ้ง” โลจิสติกส์สัญชาติไทย พัฒนาระบบขนส่ง ช่วย SMEs ทำธุรกิจให้ง่ายขึ้น

บริษัทเอสเอ็มอี ชิปปิ้ง จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจด้านโลจิสติกส์ และการขนส่งสินค้าทั้งในไทยและต่างประเทศกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ผ่านบริษัทขนส่งชั้นนำ อาทิ DHL EXPRESS, FEDEX EXPRESS และ TNT EXPRESS ซึ่งปัจจุบันมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการทางธุรกิจที่ใช้ขนส่งกับเรา กว่า 600 ราย

นายธวิทย์  เรืองรองปัญญา กรรมการผู้จัดการบริษัท เอสเอ็มอี ชิปปิ้ง จำกัด เปิดแผนธุรกิจในปี 2562 ว่า จะนำเรื่องเทคโนโลยีด้านดิจิตอล หรือแนวนโยบาย 4.0 เข้ามาใช้ในการพัฒนาระบบการขนส่ง เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็วในการรับบริการ รวมถึงการบริหารต้นทุนต่า ภายใต้แนวนโยบาย Big Data SME Shipping 4.0 ทั้งนี้ได้เพิ่มบริการผ่านระบบ line : @shipping , facebook : SME shipping , website : http://www.smeshipping.com และ IG : shippingservice ซึ่งลูกค้าสามารถกดคลิกเข้ารับการบริการได้ทันที มีเจ้าหน้าที่ไปรับสินค้าถึงหน้าบ้านตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนั้นยังมีโปรแกรมคำนวณค่าใช้จ่ายและระยะเวลาจัดส่งสินค้า

ด้านกลุ่มเป้าหมายของเอสเอ็มอี ชิปปิ้ง ผู้บริหารระบุว่า  มี 2 กลุ่มหลัก คือ 1. กลุ่มคนทั่วไป สัดส่วน 20% 2. กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจ 80% อาทิ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั้งระดับกลางและรายย่อย  กลุ่มผู้ขายสินค้าออนไลน์ เช่น มาร์เก็ตเพลส ต่างๆ อาทิ อีเบย์ อาลีบาบา อะเมซอน หรือแม้กระทั่งเฟซบุ๊ก ไอจี ต่างๆ กลุ่ม   สตาร์ตอัพ หรือผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ

สำหรับจุดแข็งของเอสเอ็มอี ชิปปิ้ง ผู้บริหารเผยว่า 1. การมอบความสะดวกสบายให้กับลูกค้าในการส่งสินค้าไปยังปลายทางอย่างปลอดภัยและยังช่วยลดต้นทุนการส่งสินค้า 2. เพิ่มศักยภาพในการทางธุรกิจของลูกค้า โดยการส่งสินค้าที่รวดเร็ว ตรงเวลา ตรวจสอบได้และมีมาตรฐาน 3. ช่วยลดภาระของลูกค้า ในการขนส่งด้านต่างๆ เช่น ช่วยดำเนินการด้านกรมศุลกากร, การแพ็กสินค้า 4. การช่วยลดต้นทุนค่าส่งออกของลูกค้ากลุ่มธุรกิจออนไลน์ และผู้ส่งออกรายใหม่ ได้มากกว่า 20% เนื่องจากเรามีปริมาณการส่งออกที่มากกว่าบริษัทส่งออกทั่วไป แถมยังให้คำแนะนาปรึกษาทุกขั้นตอนส่งออกต่างๆ

“ผมมั่นใจว่าเอสเอ็มอี ชิปปิ้งยังสามารถครองใจลูกค้าเดิมอยู่ ในขณะลูกค้าใหม่ก็มาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง เพราะเอสเอ็มอี ชิปปิ้ง ไม่เคยหยุดอยู่กับที่เลย เรายังมีการปรับกลยุทธ์ด้านการบริการอยู่ตลอดเวลา ให้ทันสมัย สอดรับกับเทรนด์ใหม่ๆ ในตลาด เพื่อตอบรับทุกความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มเป็นอย่างดีและครบวงจร”

ในอนาคตเอสเอ็มอี ชิปปิ้ง เตรียมขยายสาขาอีก 5 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเป็นจุดรับสินค้าได้รวดเร็วขึ้น รวมถึงในปีนี้ได้เตรียมทำแอพพลิเคชั่นเพื่อให้ลูกค้าติดตั้งและใช้งานได้สะดวกขึ้นไม่ว่าจะเป็นการติดตามสินค้าข้อมูล ในขณะที่ในปีนี้จะมีการนำแชทบ็อท (Chat Bot) เข้ามาใช้เพื่อให้ตอบสนองด้านการสื่อสาระหว่างลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น คาดว่าการเติบโตในปีนี้จะทะลุ 100 ล้านบาท จากเมื่อปีที่ผ่านมามีรายได้ประมาณ 80 ล้านบาท