คนกรุงฯ แห่ซื้อ “หน้ากากอนามัย N95” จนขาดตลาด พ่อค้าฉวยโอกาสขึ้นราคา

กำลังเป็นที่พูดถึงกันอย่างมากในโลกโซเชียล มีการแชร์ภาพกราฟิก บอกค่าฝุ่นละอองที่เกินมาตรฐานในอากาศ ของเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงภาพถ่ายสภาพอากาศคล้ายกับหมอกควันปกคลุมชั้นบรรยากาศ เกิดเป็นแฮชแท็ก #ฝุ่นละออง #ฝุ่นกรุงเทพฯ และ #PM25 ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ในประเทศไทย

ซึ่งมีแพทย์โรงพยาบาลต่างๆ ออกมาให้ความรู้เกี่ยวกับหน้ากากอนามัยว่า หน้ากากอนามัยธรรมดา ไม่สามารถกรองฝุ่นละออง PM 2.5 ได้ เมื่อเทียบกับหน้ากากอนามัยชนิดพิเศษ (หน้ากากอนามัย N95) ดังนั้นผู้คนต่างพากันแห่ซื้อหน้ากากอนามัยชนิดพิเศษนี้มาใส่

เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ผู้สื่อข่าว “เส้นทางเศรษฐีีออนไลน์” ลงสำรวจร้านขายยาในห้างท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ย่านประชานิเวศน์ 1 พบว่า หน้ากากอนามัย N95 นั้นหมดสต๊อกแล้ว โดยเภสัชกร ได้ให้ข้อมูลว่า ปกติทางร้านมีการนำหน้ากากอนามัยมาจำหน่ายอยู่แล้ว มีหน้ากากอนามัย N95 และ หน้ากากอนามัยแบบธรรมดา แต่พอมีกระแสข่าวเกี่ยวกับฝุ่น PM 2.5 หรือ ฝุ่นพิษในอากาศ ลูกค้าได้แห่เข้ามาหาซื้อหน้ากาก N95 กันเป็นจำนวนมาก  จนสินค้าหมดและไม่มีเหลือในสต๊อก

ด้านร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น หน้ากากอนามัย N95 สินค้าหมด ไม่มีวางจำหน่ายเช่นเดียวกัน ซึ่งพนักงานในร้าน ได้ข้อมูลว่า ลูกค้าตื่นตัวกับกระแสข่าวฝุ่นพิษในอากาศ แห่เข้ามาหาซื้อหน้ากาก N95 กันเยอะมาก เหลือเพียงหน้ากากอนามัยธรรมดา แต่หากต้องการซื้อหน้ากาก N95 ลุูกค้าสามารถสั่งจองล่วงหน้าไว้ได้

แม้แต่เว็บไซต์ซื้อ – ขายของออนไลน์เองก็มีการขึ้นประกาศหน้าเว็บว่า “ของหมด” เหลือเพียงหน้ากากอนามัยที่ต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศ ราคาตั้งแต่ 500 บาท ไปจนถึงหลักพัน ซึ่งเป็นราคาที่แพง เมื่อเทียบกับราคาขายปกติของหน้ากากอนามัย N95 ซึ่งอยู่ที่ 35 บาท

เมื่อหน้ากาก N95 เป็นที่ต้องการของตลาด จนเกิดภาวะสินค้าขาดตลาด เหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าหัวหมอ ได้ทำการกักตุนสินค้าเพื่อขึ้นราคาจำหน่าย ทางกรมการค้าภายในจึงออกมาตรการลงโทษผู้ที่กักตุนสินค้าเพื่อขายโก่งราคา มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งผู้บริโภคท่านใดที่พบเห็นการกักตุนสินค้าขายโก่งราคา สามารถร้องเรียนสายด่วนได้ที่เบอร์ 1569

หากใครที่ไม่สามารถหาซื้อหน้ากาก N95 ได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มอบหมาย ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้เกี่ยวข้อง นำหน้ากากอนามัยรุ่นดังกล่าวลงพื้นที่แจกทั่วกทม. 10,000 ชิ้น ใน 8 พื้นที่ อาทิ แจกในงานอุ่นไอรัก 3,000 ชิ้น สวนลุม 1,000 ชิ้น บางคอแหลม 1,000 ชิ้น ธนบุรี 1,000 ชิ้น จตุจักร 1,000 ชิ้น บางกะปิ 1,000 ชิ้น บางขุนเทียน 1,000 ชิ้น และราชประสงค์ 1,000 ชิ้น