3 นโยบาย เอสเอ็มอีชิปปิ้ง ต้องง่ายและประหยัด รุกหนักกลุ่มผู้ประกอบการและอีคอมเมิร์ซ

ใกล้โค้งสุดท้ายแล้ว กับการขึ้นศักราชใหม่รับปีหมูทอง กับ 3 นโยบายขับเคลื่อน บริษัทเอสเอ็มอี ชิปปิ้ง จำกัด ก้าวสู่ผู้นำด้านขนส่งของไทย  เตรียมส่งของขวัญแทนใจ ตอบรับกลุ่มผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซ และสตาร์ทอัพ ด้วยโปรโมชั่นพิเศษส่วนลดสูงสุด 6,500 บาท ตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงมกราคม 2562  ให้เรื่องขนส่งเป็นเรื่องง่าย และประหยัด  พร้อมกันนี้ ยังให้คำปรึกษาด้านการลดต้นทุน เทคนิควิธีเรื่องส่งออก กว่า 200 ประเทศทั่วโลก

นายธวิทย์ เรืองรองปัญญา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอ็มอี ชิปปิ้ง จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจด้านโลจิสติกส์และการขนส่งไทย เปิดเผยว่า การทำธุรกิจด้านการขนส่งที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ หรือเป็นหัวใจหลักเลย นั่นคือ การสร้างความไว้วางใจว่าสินค้านั้นต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์   จัดส่งสินค้าไปถึงมือลูกค้าด้วยความสะดวก ตรงเวลา และรวดเร็ว สำหรับเอสเอ็มอี ชิปปิ้ง เราเน้นนโยบาย 3 เรื่อง คือ

  1. นโยบาย บิ๊กดาต้า เอสเอ็มอี 4.0 ผมใช้เรื่องเทคโนโลยี ด้านดิจิทัล เข้ามา

ใช้ในการพัฒนาระบบการขนส่ง เพื่อเพิ่มความสะดวก รวดเร็วในการรับบริการ เพิ่มความมั่นใจที่สินค้าจัดส่งไปถึงปลายทางตรงเวลาและปลอดภัย รวมถึงการบริหารต้นทุนต่  ทั้งนี้ เราพัฒนาและบริการผ่านระบบ line : @shipping ,  facebook : SME shipping , website : http://www.smeshipping.com  และ IG : shippingservice  ซึ่งลูกค้าสามารถกดคลิ๊กเข้ารับการบริการได้ทันที มีเจ้าหน้าที่ไปรับสินค้าถึงหน้าบ้านท่าน พร้อมรับสิทธิสะสมพอยส์ ยิ่งสะสมมากยิ่งได้ส่วนลดพร้อมของสมนาคุณของแถมมากมาย

นอกจากนี้ยังจะได้รับข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับระบบการขนส่ง เทคนิคการบริหารต้นทุนการขนส่ง ทำอย่างไรให้ต้นทุนต่ำ และเทคนิควิธีการด้านการส่งออก เรื่องระบบ แทรคกิ้ง และภาษีศุลกากรนำเข้าสินค้าในแต่ละประเทศ  ซึ่งตรงจุดนี้ลูกค้าสามารถใช้โปรแกรมคำนวนค่าสินค้า น้ำหนัก เวลาคำนวณเวลาการจัดส่งถึงปลายทางได้ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย   นอกจากนี้ผู้เริ่มต้นธุรกิจกลุ่ม START UP   เอสเอ็มอีชิปปิ้ง ยังให้คำปรึกษาด้านต่างๆ ในทุกเรื่องเกี่ยวกับขนส่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริหารต้นทุนการจัดส่งอย่างไรให้ต้นทุนต่ำ สินค้าทีความปลอดภัย ส่งถึงที่ปลายทางตรงเวลา เป็นต้น

ไม่เพียงเท่านี้ช่องทางของบิ๊กดาต้า เอสเอ็มอีชิปปิ้ง นอกจากจะเก็บข้อมูลลูกค้าในการจัดส่งแล้ว เรายังมีการแบ่งเซ็กเมนต์เตชั่นลูกค้าแต่ละกลุ่มเพื่อการบริการที่ตรงใจและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่มได้ให้มากที่สุด เช่น กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยระดับไมโครเอสเอ็มอี ผู้ประกอบการระดับกลาง ผู้ประกอบการรายใหญ่ และผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ เพื่อจัดส่งข่าวสารที่เกี่ยวข้อง และเชื่อมโยงทางธุรกิจที่เป็นประโยชน์ ไปให้อีกด้วยตลอดจนยังลดขั้นตอนด้านต่างๆ โดยลูกค้าแค่แจ้งชื่อนามสกุล หรือเบอร์โทร ระบบประมวลผลของบิ๊กดาต้าเรา  ลูกค้าก็สามารถรับบริการได้ง่ายๆ อย่างรวดเร็ว  เป็นต้น  แนวทางนี้ตอบโจทย์ผู้ประกอบการยุคใหม่ ที่ส่วนใหญ่จะขายสินค้าออนไลน์ผ่านมาร์เก็ตเพลส ต่างๆ อาทิ อีเบย์ อาลีบาบา อะเมซอน หรือแม้กระทั่งเฟสบุค ไอจี ต่าง ๆ  ล้วนต้องใช้ความคล่องตัว ความรวดเร็ว

นายธวิทย์ ยังกล่าวต่อถึง 2 นโยบายสำคัญอีกว่า  Partnership  เราสร้างพันธมิตรทางธุรกิจให้เกิดขึ้นเพื่อนำไปสู่การบริการที่ครบวงจรและมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อลูกค้า   เราต้องเปลี่ยนแนวคิดใหม่  เปลี่ยนคู่แข่งเป็นคู่ค้า เพื่อจะได้ช่วยกันขยายตลาดโลจิสติกส์ไทยให้แข็งแกร่งขึ้น  โดยล่าสุดเมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา  เราได้ผนึกพันธมิตรร่วมสายพันธุ์ฮ่องกงครั้งแรกกับ  บริษัท ลาลามูฟ อีซี่แวน(ประเทศไทย)   บันทึกข้อตกลง ร่วม Co  Promotion  เพื่อเสริมแกร่งบริการ ขายความสะดวก ต้นทุนต่ำและมีคุณภาพ ให้กับผู้ค้าออนไลน์ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และกลุ่มลูกค้า Start Up   ภายในประเทศ หวังปลดล๊อคเรื่องเวลา เพิ่มการซื้อขายให้กับลูกค้าได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น   ซึ่งปีหน้าเรามีแผนเจรจาร่วมแผนพัฒนาด้านระบบแอพพลิเคชั่นบริการขนส่งที่ครบวงจรในคลิ๊กเดียว!  ภายใต้คอนเซ็ปต์ “อนาคตการขนส่งของคุณก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น”   เป็นต้น  โดยในปีหน้านอกจากลาล่ามูฟแล้ว อาจจะมีแผนเจรจาพันธมิตรธุรกิจเจ้าอื่นๆ ตามมาด้วย

“ปีหน้า เรายังมีแผนจับมือกับสถาบันการเงิน เป็นพันธมิตรในการจัดอบรม สร้างการเรียนรู้นอกห้องเรียนให้กับลูกค้าที่อยากทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ  โดยเอสเอ็มอี ชิปปิ้ง จะส่งวิทยากรผู้เชี่ยวชาญพิเศษสอนการขาย เทคนิควิธีการต่างๆ ตั้งแต่แรกเริ่ม จนขายเป็น กระทั่งขนส่งสินค้า เรียนรู้เทคนิควิธีขนส่งให้ถูก ต้นทุนต่ำ และปลอดภัยอย่างไร  การเรียนรู้ระบบศุลากร เทร็คกิ้งสินค้า ของแต่ละประเทศ  รวมถึงลูกค้าท่านใด ไม่มีเงินทุน หรือทุนน้อย ก็จะมีสถาบันการเงินเป็นผู้ให้คำแนะนำปรึกษา  ซึ่งการที่เอสเอ็มอี ชิปปิ้ง ใช้นโยบายลักษณะดังกล่าว ดึงพันธมิตรมาร่วม ก็เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้าของเรานั่นเองครับ”

สำหรับนโยบายสุดท้าย คือ SME Shipping Roadmap   ปีหน้าเราจะมุ่งเน้นการขับเคลื่อนเรื่องนี้ โดยออกโรดโชว์สร้างการรับรู้แบรนด์เอสเอ็มอีชิปปิ้ง ในงานใหญ่ๆ ระดับประเทศมากยิ่งขึ้น ทั้งภายในและต่างประเทศ เพื่อนำพาแบรนด์และการบริการเอสเอ็มอี ชิปปิ้ง เคลื่อนไปหาลูกค้า ล่าสุด เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เราไปออกบูธในงานตลาดนัดโชห่วย ที่อิมแพค เมืองทองธานี เราเน้นการให้คำปรึกษาด้านการลดต้นทุน เทคนิควิธีเรื่องส่งออก ทุกประเทศทั่วโลก ตอบโจทย์ผู้ประกอบการทุกระดับ

นายธวิทย์ กล่าวปิดท้ายว่า    ช่วงปลายปี ที่กำลังจะขึ้นศักราชใหม่รับปีหมูทอง  เอสเอ็มอี ชิปปิ้ง ส่งของขวัญแทนใจ ตอบรับกลุ่มผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซ และสตาร์ทอัพ ด้วยโปรโมชั่นพิเศษส่วนลดพิเศษสูงสุด 6,500 บาท ตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงมกราคม 2562  เพื่อให้เรื่องขนส่งเป็นเรื่องง่าย และประหยัด  พร้อมกันนี้ ยังให้คำปรึกษาด้านการลดต้นทุน เทคนิควิธีเรื่องส่งออก กว่า 200 ประเทศทั่วโลกอีกด้วย  สอบถามหรือศึกษาข้อมูลได้ที่ www.smeshipping.comโทร 02-105-7777