ปปง.ลุยยึดทรัพย์ เมจิกสกิน เงินสด 19 ล้าน-รถหรู 2 คัน จ่อฟันข้อหา 50 ศิลปิน-ดารา

ปปง. แจงคืบหน้าสอบ-ยึดทรัพย์คดี เมจิกสกิน เผยยึดแล้ว 19 ล้าน พร้อมรถหรูมูลค่า 20 ล้าน 2 คัน จ่ออายัดทรัพย์เพิ่มอีก ย้ำเจ้าหน้าที่ทำงานตามหลักฐานตำรวจ มั่นใจไม่มีล้ม-ถอนแจ้งความคดี จ่อแจ้งข้อหา 50 ศิลปินดารา

เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. พล.ต.ต. ปรีชา เจริญสหายานนท์ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ไม่ได้คุณภาพ ในเครือบริษัทเมจิก สกิน จำกัด โดยในส่วนของการตรวจสอบ ปปง.ได้ติดตามตรวจสอบการยึดทรัพย์และดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทุกรายที่เกี่ยวข้อง หลังจากที่ ปปง.ได้รับเป็นคดีเกี่ยวกับการฟอกเงิน แต่ยอมรับว่าการตรวจสอบทรัพย์ของผู้ต้องหาในคดีนี้มีความยากลำบาก

พล.ต.ต. ปรีชา กล่าวต่อว่า เพราะบางคนนำทรัพย์สินไปหลบซ่อนในรูปแบบต่างๆ แต่ไม่ว่าอย่างไร เจ้าหน้าที่ของ ปปง.จะต้องติดตามและตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ต้องหาในคดีนี้ เพื่อมาดำเนินคดีให้ได้ ซึ่งขณะนี้การตรวจสอบมีความคืบหน้าไปมากแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด เพราะเกี่ยวข้องกับรูปคดี

พล.ต.ต. ปรีชา กล่าวอีกว่า ส่วนข้อกังวลของผู้เสียหายที่กลัวว่า การฟ้องร้องคดีจะถูกล้มหรือถอนการแจ้งความดำเนินคดีนั้น ยืนยันว่า การดำเนินการตรวจสอบทั้งของตำรวจและปปง.ทุกอย่างยึดตามหลักฐานที่มีการตรวจสอบ และในส่วนของ ปปง.ก็มีหน้าที่ในการตรวจสอบยึดทรัพย์ ซึ่งทำงานตามหลักฐานที่ตำรวจส่งมา อ่านข่าว : คดีเมจิกสกิน 

 

รรท.เลขาธิการ ปปง. กล่าวด้วยว่า สำหรับการยึดทรัพย์กลุ่มบริษัทเมจิก สกิน จำกัด และผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมดนั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ยึดทรัพย์ที่เป็นเงินสดมากกว่า 19 ล้านบาท และรถยนต์หรูคัน 20 ล้านบาท 2 คัน ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบและเตรียมอายัดเพิ่มเติม

“ฝากถึงผู้เสียหายทั่วประเทศให้นำหลักฐานการเสียหายเพื่อไปขอเฉลี่ยทรัพย์ ให้นำหลักฐานไปแจ้งที่ ปปง. ยื่นความจำนงเพื่อเฉลี่ยทรัพย์ในคดีนี้ แสดงตัวภายใน 30 วันนับตั้งแต่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ประกาศแต่สามารถไปยื่นก่อนได้ พร้อมเตรียมแจ้งข้อหากับศิลปินดาราที่เกี่ยวข้องกว่า 50 คน” 

พล.ต.ต. ปรีชา กล่าวอีกว่า สำหรับผู้เสียหายที่มาแจ้งข้อมูลว่า ยังพบกลุ่มเครือข่ายบริษัทดังกล่าวมีการใช้  นอมินีดำเนินการผลิตสินค้าหลายรายการและจำหน่ายสินค้าอยู่นั้น ซึ่งเข้าข่ายฉ้อโกงทรัพย์สิน เป็นมูลค่าจำนวนมาก กลุ่มผู้เสียหายจึงขอความเป็นธรรมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบอีกครั้งด้วย