เยอรมนี-ออสเตรเลีย ร่วมแสดงความอาลัยต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช

A garland is hung on a portrait of Thailand's King Bhumibol Adulyadej outside the Siriraj Hospital in Bangkok on October 14, 2016. King Bhumibol Adulyadej, long a unifying figure in politically fractious Thailand, died on October 13 and uncertainty over the succession quickly arose as his crown prince reportedly sought a delay in taking over. / AFP PHOTO / MANAN VATSYAYANA

เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ส่งโทรเลขถึงสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร ระบุว่า ขอพระราชทานกราบบังคมทูล ข้าพเจ้าขอแสดงความความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และถวายความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมายังพระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ และ ประชาชนชาวไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงมีบทบาทสำคัญอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศไทย ในฐานะประมุขของประเทศตลอดระยะเวลา 70 ปี พระองค์ทรงขับเคลื่อนทิศทางการพัฒนาประเทศ และทรงอุทิศพระองค์อย่างมิรู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อความอยู่ดีกินดีของชาวไทย พระองค์ทรงพัฒนาประเทศให้ทันสมัย ทรงส่งเสริมความสัมพันธ์นานาชาติให้เข้มแข็ง และทรงนำประเทศพ้นจากวิกฤติการเมืองและเศรษฐกิจ

เป็นเวลามากกว่า 150 ปีที่ประเทศไทย และประเทศเยอรมนีผูกพันกันด้วยความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและเชื่อถือซึ่งกันและกัน ในชั่วโมงแห่งความอาลัยนี้ ข้าพเจ้าขอถวายพระพรขอพระองค์ทรงมีพระพลัง ความเข็มแข็ง และขอพระองค์ทรงปฏิบัติภาระทุกอย่างลุล่วงเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนชาวไทย ขอร่วมถวายความอาลัย

นายโยอาคิม เกาค์ ประธานาธิบดีสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ได้ส่งสาส์นแสดงความเสียใจต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมายังสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ มีใจความว่า ข้าพเจ้าขอแสดงความความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และถวายความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมายังพระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ และ ประชาชนชาวไทย

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ ทรงอุทิศพระองค์อย่างมิรู้จักเหน็ดเหนื่อยตลอดเจ็ดทศวรรษที่ผ่านมาเพื่อความสงบสุข ความปรองดองในบ้านเมืองและความอยู่ดีกินดีของชาวไทย ไม่ใช่ในประเทศไทยเท่านั้นที่เคารพเทิดทูนพระองค์ แต่พระองค์ท่านยังได้รับความเคารพเทิดทูนอย่างไม่มีผู้ใดเหมือนจากประชาชนภายนอกราชอาณาจักรอีกด้วย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชจะยังคงสถิตอยู่ในหัวใจและความคิดถึงของทุกคนตลอดไป

และในประเทศเยอรมนี พวกเราจะไม่มีวันลืมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช จากการเสด็จเยือนประเทศเยอรมนีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและพระองค์ในฤดูร้อน ปีพ.ศ. 2503 ซึ่งการเสด็จครั้งนั้นชาวเยอรมันมากมายได้รับเสด็จอย่างปลาบปลื้ม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชได้จารึกหน้าใหม่ของประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ

ประเทศไทย และประเทศเยอรมนีผูกพันกันด้วยความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและเชื่อถือซึ่งกันและกัน มิตรภาพนี้ได้ปรากฏในการติดต่อหลากหลายรูปแบบระหว่างภาคประชาคมต่างๆ ในประเทศของเรา ในรูปแบบโครงการความร่วมมือมากมายด้านการศึกษา วัฒนธรรม เศรษฐกิจ และ สิ่งแวดล้อม ในนามของประชาชนของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอถวายพระพรในชั่วโมงแห่งความอาลัยนี้ ขอพระองค์ทรงมีพระพลัง และพระพลานามัยแข็งแรงเพื่อเป็นมิ่งขวัญของประชาชนชาวไทย

นายฟรังค์ ชไตน์ไมเยอร์ รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมันได้กล่าวไว้อาลัย ต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มีใจความว่า เจ็ดทศวรรษ ซึ่งเท่ากับชั่วชีวิตคนคนหนึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชได้ทรงจารึกหน้าประวัติศาสตร์ชาติไทยที่สำคัญทีสุด ข้าพเจ้าได้รับข่าวการเสด็จสวรรคตของพระองค์ท่านด้วยความเสียใจอย่างมากมาย เพื่อความสงบสุขของบ้านเมืองและความอยู่ดีกินดีของชาวไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงปฏิบัติพระราชภารกิจอย่างมิทรงเหน็ดเหนื่อย ดังนั้นพระองค์จึงเป็นที่เคารพรักอย่างเทิดทูณของทุกคนในประเทศไทย

มิตรภาพที่ฝั่งรากลึกของทั้งสองประเทศของเรา และ ระหว่าง ประชาชนเยอรมันและไทยนั้น พระองค์ท่านได้ทรงมีส่วนร่วมอย่างมาก โลกได้สูญเสียพระมหากษัตริย์และผู้นำประเทศที่ยิ่งใหญ่ผู้ซึ่งมีบทบาทสำคัญแผ่กระจายไปนอกเอเชีย ข้าพเจ้าขอแสดงความอาลัย และความเสียใจ อย่างสุดซึ้งร่วมกับพระราชวงศ์และชาวไทยกับการเสด็จสวรรคต

ด้านนายเพเทอร์ พรือเกล เอกอัครราชทูตเยอรมนีระบุว่า ประเทศไทยและทั่วโลกกำสรวลกับการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทำให้โลกได้สูญเสียพระมหากษัตริย์ผู้ปรีชาสามารถพระองค์หนึ่งไป ผู้ซึ้่งมีบทบาทสำคัญเเผ่ขยายไปนอกภูมิภาคเอเชีย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชครองแผ่นดินและกำหนดประวัติศาสตร์ชาติไทยมาเป็นเวลา 70 ปี พระองค์ทรงปฎิบัติพระราชภารกิจอย่างไม่ทรงเหน็ดเหนื่อยเพื่อความสงบสุขของบ้านเมืองและความเป็นอยู่ที่ดีของพสกนิกรชาวไทย ในระหว่างที่พระองค์ครองราชย์อย่างยาวนาน พระองค์ได้ทรงพัฒนาราชอาณาจักรไทยให้ทันสมัยในทุกด้านโดยเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน และทรงทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศผู้นำประเทศหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ในนามของรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีและประชาชนเยอรมัน ขอร่วมแสดงความอาลัยอย่างสุดซึ้งกับพระราชวงศ์และชาวไทย ประเทศเยอรมนีและราชอาณาจักรไทย ผูกพันฉันมิตรต่อกันมามากกว่า 154 ปี ด้วยความรู้สึกของความผูกพันที่ลึกซึ้งนี้ พวกเราขอแสดงความเสียใจร่วมกับชาวไทยกับการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ขณะที่นายมัลคอล์ม เทิร์นบูล นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ก็ได้มีสารแสดงความอาลัยต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ความว่า ในนามของรัฐบาลและประชาชนชาวออสเตรเลีย ข้าพเจ้าขอถวายความอาลัยแด่พระราชวงศ์ของไทยและร่วมแสดงความเสียใจกับปวงชนชาวไทยในช่วงเวลาที่โศกเศร้านี้

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นที่เคารพรักและทรงมีบทบาทสำคัญในด้านประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของทวีปเอเชีย โดยตลอดรัชสมัยประเทศไทยได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคม อันเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ชาวไทยและนานาประเทศแสดงความเคารพพระองค์ในฐานะนักพัฒนาอย่างแท้จริง นอกจากนี้โครงการตามพระราชดำริของพระองค์ยังช่วยพัฒนาความเป็นอยู่และสร้างความสุขให้กับประชาชนชาวไทย อันเป็นเหตุผลให้ระลึกถึงพระองค์เสมอ

ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นมิตรสหายที่สำคัญของประเทศออสเตรเลียและทรงช่วยประสานความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศให้มีความแน่นแฟ้น โดยได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนออสเตรเลีย เมื่อปี 2505 ยังทำให้เกิดการก่อตั้งสมาคมไทย-ออสเตรเลีย ที่นครซิดนีย์ และนครเมลเบิร์นด้วย

ที่มา มติชน