กระทรวงพาณิชย์เผยกลุ่มอาหารยังสูงต่อเนื่องดึงเงินเฟ้อเดือนพ.ย. 61 เพิ่มขึ้น 0.94% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 17 คาดการณ์เงินเฟ้อปี 62 จะอยู่ที่ 0.7-1.7%

อาหารแพงดันเงินเฟ้อพุ่ง 0.94% –  น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป หรืออัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ย. 2561 ว่า อัตราเงินเฟ้อขยายตัวในอัตราชะลอตัวลง แต่ยังสูงขึ้น 0.94% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 17 สาเหตุสำคัญมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์สูงขึ้น 1.04% ขณะที่หมวดอุตสาหกรรมและหมวดปิโตรเลียมที่เคยปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องแต่ตอนนี้ราคาน้ำมันมีแนวโน้มลดลง และคาดว่าเงินเฟ้อเดือนธ.ค. 2561 ยังขยายตัวในอัตราชะลอตัวลงน่าจะขยายตัวไม่ถึง 1% จะส่งผลอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปี 2561 อยู่ที่ 0.8-1.6% หรือเฉลี่ยค่ากลางอยู่ 1.2% ซึ่งสูงสุดในรอบ 4 ปี

อย่างไรก็ตาม การที่เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่าในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาจะชะลอตัวลงไปบ้าง แต่ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.13% มาจากการเพิ่มขึ้นของราคาพลังงาน อาหาร และเครื่องดื่มเป็นสำคัญ โดยราคาอาหารและเครื่องดื่มที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเฉพาะข้าวและผลิตภัณฑ์จากแป้งสูงขึ้น 4.12% และในกลุ่มข้าวราดแกง อาหารเช้า อาหารตามสั่ง เพิ่มขึ้น 2.11% แต่ภาพรวมทั้งประเทศราคายังไม่ปรับขึ้นมากนัก ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรมีการปรับตัวดีขึ้นหลายรายการ เช่น ข้าว ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้นต่อเนื่อง

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้คาดการณ์เงินเฟ้อปี 2562 จะอยู่ที่ 0.7-1.7% โดยสมมติฐานคาดการณ์จีดีพีของประเทศเฉลี่ยอยู่ที่ 3.5-4.5% ราคาน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 70-80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 32.50-33.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และราคาน้ำมัน เป็นต้น

นอกจากนี้ การสำรวจการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้า เดือนพ.ย. 2561 พบว่า รายการสินค้า 422 รายการ มีสินค้าที่ปรับสูงขึ้น 222 รายการ ได้แก่ ข้าวสารเจ้า เนื้อสุกร มะนาว ทุเรียน ผักคะน้า กาแฟร้อน ข้าวราดแกง น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซหุงต้ม ค่าเช่าบ้าน ผงซักฟอก ส่วนสินค้าที่ลดลง 117 รายการ ได้แก่ ไก่สด ส้มเขียวหวาน เงาะ ข้าวสารเหนียว กะหล่ำปลี กุ้งขาว สบู่ ยาสีฟัน แชมพู ส่วนสินค้าที่ไม่เปลี่ยนแปลง 83 รายการ

ที่มา ข่าวสดออนไลน์