ผู้เขียน | เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |

- การสร้างเรื่องราวของแบรนด์ หรือ Content Marketing ซึ่งจะต้องมีความแตกต่าง จากการนำเสนอเนื้อหาของแบรนด์ด้วยประสบการณ์จริงที่สามารถสะท้อนให้เห็นถึงความจริงใจ มีความรวดเร็ว สอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆที่เป็นปัจจุบัน และต้องสร้างความรู้สึกให้ผู้พบเห็นหรือผู้บริโภครู้สึกอยากติดตามจากความสม่ำเสมอในการนำเสนอเนื้อหาที่ต้องไม่มากหรือน้อยจนเกินไป
- การเลือกใช้ช่องทางที่มีประสิทธิภาพในการจำหน่าย หรือประชาสัมพันธ์ เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่มีการใช้อินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์เคลื่อนที่ล้วนเข้าถึงสังคมออนไลน์ประเภทต่างๆแทบทั้งสิ้น ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงต้องรู้จักการนำสินค้าให้เข้าไปอยู่บนช่องทางที่สอดคล้องกับผู้บริโภคในแต่ละช่วงอายุ เช่น ตลาดผู้สูงอายุต้องใช้ช่องทางที่ไม่ซับซ้อนและเข้าถึงง่าย กลุ่มวัยรุ่นต้องเน้นภาพ เนื้อหา และการโต้ตอบ กลุ่มคนวัยทำงานเน้นช่องทางที่สามารถชำระค่าบริการได้อย่างเบ็ดเสร็จ เป็นต้น
- การให้ความสำคัญกับข้อมูล (Big Data) จากพฤติกรรมของผู้บริโภค ซึ่งยังคงเป็นเรื่องที่สำคัญ อย่างต่อเนื่อง โดยสามารถศึกษาได้จากผู้ให้บริการช่องทางการค้าออนไลน์ ทั้งการให้ความสนใจกับสินค้าแต่ละประเภท การตัดสินใจเลือกซื้อ รวมถึงการติดตามผ่านการสื่อสารกับผู้บริโภคโดยตรง ซึ่งจะทำให้ทราบถึงแนวทางการปรับปรุงคุณภาพสินค้าและการบริการ ต่อเนื่องถึงการสร้างความภักดีต่อแบรนด์ในระยะยาว
- ให้ความสำคัญกับความรวดเร็ว ผู้ประกอบการต้องเตรียมตัวให้พร้อมกับการรับมือจากการเข้ามา ของระบบเทคโนโลยี 5 G ซึ่งอาจมีผลที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคมีความรวดเร็วในการตัดสินใจ ความเร่งรีบในการเลือกชมสินค้า ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องปรับกลยุทธ์การนำเสนอเนื้อหาที่ต้องสามารถเห็นแล้วเข้าใจทันที มีระบบการสั่งซื้อ จ่ายเงิน และการขนส่งที่รวดเร็ว การตอบข้อสงสัยด้วยระบบอัตโนมัติเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ได้ตลอดเวลา
- เตรียมกำลังคนให้พร้อมกับทักษะด้านดิจิทัล ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่งในแต่ละองค์กร ดังนั้นทั้งผู้ประกอบการและบุคลากรในแต่ละธุรกิจจึงต้องมีทักษะในเรื่องดังกล่าว เช่น การรับ-ส่งข้อมูล การวิเคราะห์สถิติต่างๆ การอัพเดทเทคโนโลยีใหม่ๆที่สามารถเป็นเครื่องมือและเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจ
นายกอบชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุดกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้ร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และ อาลีบาบา บิซิเนส สคูล (Alibaba Business School) จัดกิจกรรมสัมมนา Alibaba Global Course ภายใต้แนวคิด “New Technology, New Opportunity Thailand 2018” ซึ่งมุ่งเน้นการเจาะลึกดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งด้วยเทคโนโลยีก้าวกระโดด เพื่อชิงความได้เปรียบช่องทางการตลาดออนไลน์ ให้กับผู้ค้าของไทย ประกอบไปด้วย เส้นทางในการก้าวสู่การเป็นดิจิทัลของเมืองเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการไทยในด้านความเป็นไปได้ของเทคโนโลยีดิจิทัล การเจาะลึกปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และคอมพิวเตอร์ (Human Computer Interactive) ที่จะเผยให้เห็นถึงข้อมูลอินไซต์จากวิจัยของอาลีบาบาเพื่อให้ความรู้และประสบการณ์ใหม่ในการดำเนินธุรกิจให้ผู้ประกอบการ และยกระดับประสบการณ์ในการช้อปปิ้งให้กับผู้บริโภค พร้อมทั้งศักยภาพของบิ๊กดาต้าที่จะช่วยเปลี่ยนถ่ายธุรกิจสู่ระบบดิจิทัล โดยมีสมาร์ทสโตร์และช่องทางค้าปลีกของอาลีบาบาเป็นกรณีศึกษา พร้อมด้วยวิทยากรในระดับแถวหน้าจากอาลีบาบาที่ให้เกียรติร่วมบรรยายอย่างมากมาย

ด้าน นายไมเคิล ซู ผู้อำนวยการอาลีบาบา กรุ๊ปและรองประธานมหาวิทยาลัยเถาเป่า (Mr. Michael Xu, Director of Alibaba Group and Vice President of Taobao University) กล่าวว่า ในการจัดฝึกอบรมในครั้งนี้เป็นการแสดงให้เห็นจุดยืนของอาลีบาบาที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กของไทยตามที่เคยให้คำมั่นไว้กับรัฐบาลไทย โดยสัมมนาในครั้งนี้ จะเน้นในด้านเทคโนโลยีที่จะช่วยการเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัล ทั้งในด้านธุรกิจจนไปถึงการบริหารจัดการเมือง เราหวังว่าการสัมมนานี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้เข้าร่วมสัมมนาในการวางแผนของการก้าวสู่เส้นทางของโลกดิจิทัล