การท่าฯ เตือนผู้โดยสาร เก็บแท็กกระเป๋าให้ตรวจ หลังขโมยฉกจากสายพาน

นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ 1) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน (ทอท.) เปิดเผยถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหากรณีมีมิจฉาชีพชาวต่างชาติขโมยกระเป๋าเดินทางแบรนด์เนมราคาแพงจากสายพานลำเลียงสัมภาระผู้โดยสาร ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ว่า กระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารนั้นตามหลักการจะอยู่ในอำนาจความรับผิดชอบดูแลของสายการบินที่ผู้โดสารเดินทางมาด้วย

เมื่อเครื่องบินมาถึงปลายทางสายการบินจะทำการขนส่งกระเป๋าผู้โดยสารมายังสายพานลำเลียงเพื่อส่งต่อกระเป๋าเข้ามาภายในอาคารผู้โดยสาร ซึ่งสายการบินจะรับผิดชอบกระเป๋าตั้งแต่ขนลงจากเครื่องบินจนถึงวางอยู่บนสายพาน โดยเจ้าหน้าที่ของ ทอท. ไม่มีสทธิ์ที่จะไปแตะต้องกระเป๋าผู้โดยสารบนสายพาน

ทั้งนี้ หากผู้โดยสารนำกระเป๋าลงจากสายพานลงวางที่พื้นแล้ว ทอท. จึงจะมีอำนาจหรือหน้าที่ในการดูแล ซึ่งขั้นตอนการขโมยเกิดขึ้นขณะที่กระเป๋าอยู่บานสายพาน ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขโมยกระเป๋าจากสายพาน ทอท. ได้ประสานไปยังทุกสายการบินให้ส่งเจ้าหน้าที่มาประจำที่สายพานกระเป๋าเพื่อช่วยสอดส่องพฤติกรรมผู้โดยสารที่น่าสงสัยแล้ว ขณะที่ ทอท. ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาประจำบริเวณสายพานลำเลียง เพื่อช่วยเฝ้าระวังเหตุเช่นกัน

นายกิตติพงศ์ กล่าวว่าปัญหาดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่ง ทอท.จะต้องเร่งแก้ไขปัญหาโดยเร็วโดยเฉพาะหลังจากผู้โดยสารได้มีการนำกระเป๋าลงจากสายพานลำเลียงและเดินทางต่อ ซึ่งอยู่ในอำนาจการดูแลของสนามบิน เบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สนามบินเริ่มใช้มาตรการขอสุ่มตรวจกระเป๋าเดินทางของผู้โดยสารที่เพิ่งรับกระเป๋ามาจากสายพานสัมภาระ

โดยจะขอตรวจสอบว่าเลขแท็กที่ติดไว้กับตัวกระเป๋าเดินทางว่าถูกต้องและตรงกับตัวเลขที่แท็กกระเป๋าเดินทางที่ผู้โดยสารถือไว้หรือไม่ ทั้งนี้หากพบว่าเลขแท็กกระเป๋าไม่ตรงกับแท็กที่ผู้โดยสารถือไว้ เจ้าหน้าที่อาจจะต้องขอตรวจสอบกระเป๋าอย่างละเอียดอีกครั้งว่าเข้าข่ายต้องสงสัยหรือไม่

อย่างไรก็ตาม สนามบินต้องขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารช่วยเก็บแท็กกระเป๋าที่ได้รับหลังจากเช็กอินเพื่อโหลดสัมภาระไว้กับตัว อย่าให้หาย เพื่อใช้หลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของกระเป๋า กรณีที่ถูกเจ้าหน้าที่ขอสุ่มตรวจสอบเลขแท็กกระเป๋าเดินทาง ทั้งนี้เชื่อว่ามาตรการการสุ่มตรวจเลขที่แท็กกระเป๋าครั้งนี้จะช่วยป้องปรามปัญหาขโมยกระเป๋าได้ในระดับหนึ่ง

นายกิติตพงศ์ กล่าวต่อว่า ปัญหามิจฉาชีพขโมยกระเป๋าเดินทางผู้โดยสารจากสายพานลำเลียง เคยเกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน และมาเกิดขึ้นอีกในปีนี้ โดยมิจฉาชีพทำงานกันเป็นทีม แบ่งออกเป็นทีมหยิบกระเป๋าเดินทางจากสายพาน ส่งต่อให้ทีมขนส่งกระเป๋า ซึ่งในอดีตตรวจพบว่า เมื่อคนแรกขโมยกระเป๋าเดินทางมาจากสายพานได้แล้วจะนำไปส่งให้เพื่อที่รอเดินทางออกนอกประเทศทันที

ทำให้รอดจากการตรวจและจับกุม โดยกระเป๋าเดินทางที่ตกเป็นเป้าของแก๊งมิจฉาชีพ ส่วนใหญ่เป็นกระเป๋าแบรนด์เนมราคาแพง เช่น หลุยส์ วิกตอง และที่กำลังได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางคือ กระเป๋าเดินทางแบรนด์ RIMOVA ซึ่งในการจับกุมมิจฉาชีพชาวจีน 2 คนที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 4พ.ย. ที่ผ่านมานั้นพบว่ากระเป๋า 3 ใบที่ถูกขโมยไปคือกระเป๋าแบรนด์ RIMOVA ทั้งสิ้น คาดว่ากลุ่มมิจฉาชีพจะนำไปขายต่อในตลาดมืดประเทศปลายทางที่เดินทางออกไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกระเป๋าเดินทาง RIMOVA นั้นเป็นกระเป๋าเดินทางที่ผลิตในประเทศเยอรมนี ขณะนี้ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่นักเดินทางคนไทย เนื่องจากเป็นกระเป๋าเดินทางที่มีน้ำหนักเบา แข็งแรง ทนทาน แต่มีราคาแพงมาก เฉลี่ยระหว่างหลักหมื่นถึงหลักแสนบาท

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์