คนกรุงอ่วม! ชงขนส่งปรับขึ้นค่าแท็กซี่ 8% ชดเชยเวลา ขับเข้าโซนรถติด

ขนส่งลั่นปรับ ขึ้นค่าแท็กซี่ 8 เปอร์เซ็นต์ ก่อนสิ้นปี ชดเชยเวลาเดินทางในช่วงรถติด เฉพาะคันที่เข้าร่วมโครงการแท็กซี่โอเค 1.3 หมื่นคัน ส่วน 6.7 หมื่น ที่เหลือต้องรอเข้าโครงการก่อน

ขึ้นค่าแท็กซี่ / เมื่อวันที่ 29 ต.ค. นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ในฐานะโฆษกกรมการขนส่งทางบก เปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับความคืบหน้าการพิจารณาปรับอัตราค่าโดยสารรถแท็กซี่มิเตอร์ ว่า ขณะนี้สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ส่งผลการศึกษาปัญหาความปลอดภัยและคุณภาพการให้บริการแท็กซี่

รวมทั้งโครงสร้างต้นทุนการประกอบการและอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสมกับสภาพปัจจุบันให้กับกรมการขนส่งทางบกพิจารณาแล้ว โดยกรมการขนส่งทางบกอยู่ระหว่างสรุปผลการศึกษาอีกครั้ง ก่อนเสนอนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.กระทรวงคมนาคม ภายในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ ผลการศึกษาของทีดีอาร์ไอ ไม่ได้ระบุให้ปรับอัตราเริ่มต้น แต่จะเป็นการชดเชยเวลาการเดินทาง คือในช่วงเวลารถติด หรือเข้าไปในพื้นที่ที่มีรถติด โดยเฉลี่ยจะให้ปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 8 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้รถแท็กซี่สามารถอยู่ได้ เนื่องจากที่ผ่านมาพิจารณาแล้วเห็นว่า รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายของรถแท็กซี่แล้ว ควรจะอยู่ที่ 1.5 เท่าของรายได้ขั้นต่ำ

โดยปัจจุบันรถแท็กซี่มีรายได้ 1,564 บาท รายจ่ายประมาณ 1,156 บาท เหลือรายได้ประมาณ 400 บาทต่อวัน ซึ่งมากกว่ารายได้ขั้นในกรุงเทพฯ 325 บาทต่อวันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากจะให้รถแท็กซี่อยู่ได้จริงจะต้องมีรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 1,643 บาทต่อวัน ดังนั้นจึงพิจารณาปรับค่าโดยสารดังกล่าว

รองอธิบดี ขบ. กล่าวต่อว่า การพิจารณาปรับขึ้นค่าโดยสารในครั้งนี้ จะได้สิทธิเฉพาะรถแท็กซี่มิเตอร์ที่เข้าร่วมโครงการแท็กซี่โอเคที่มีอยู่ 12,986 คัน ทั่วประเทศ จากแท็กซี่มิเตอร์ในกรุงเทพฯ ที่มีทั้งหมด 80,647 คัน หากแท็กซี่มิเตอร์คันอื่น ต้องการปรับขึ้นค่าโดยสารตามเกณฑ์ที่กำหนด ก็จะต้องเข้าร่วมโครงการแท็กซี่โอเคเท่านั้น จึงจะสามารถปรับได้

นายกมล กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม จากสถิติการร้องเรียนรถแท็กซี่ผ่านทางสายด่วน 1584 ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2560- 30 กันยายน 2561 มีเรื่องร้องเรียนถึง 48,223 เรื่อง ซึ่งสูงกว่าปีก่อนหน้า โดยเรื่องร้องเรียน 5 อันดับแรก คือการปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร แสดงกิริยาไม่สุภาพ ขับรถประมาทหวาดเสียว ไม่กดมิเตอร์ และไม่ส่งผู้โดยสารตามที่ตกลง

ซึ่งในประเด็นทั้งหลายเหล่านี้จะนำเสนอไปด้วยเพื่อประกอบการพิจารณาว่า สมควรจะปรับขึ้นค่าโดยสารหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ก็เคยพิจารณาปรับขึ้นค่าโดยสารระยะที่ 2 อีก 5 เปอร์เซ็นต์ หลังจากก่อนหน้านี้ได้ปรับไป 8 เปอร์เซ็นต์ แล้ว แต่เมื่อพิจารณาเรื่องร้องเรียนของประชาชนที่ยังมีอยู่จำนวนมาก จึงได้ระงับการปรับค่าโดยสารมาจนถึงปัจจุบัน

“เมื่อกรมการขนส่งทางบกนำเรื่องเสนอนายอาคมแล้ว หากอนุมัติให้ปรับขึ้นค่าโดยสารตามที่เสนอไป จะใช้เวลาอีกประมาณ 30 วัน ในการยกร่างเพื่อออกเป็นประกาศกระทรวงคมนาคม และจะต้องลงในราชกิจจานุเบกษาด้วย จึงจะมีผลบังคับใช้” นายกมล กล่าว

อัลบั้มภาพ 3 ภาพ