ผู้เขียน | เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
เสียงแตก-ขึ้นทะเบียนหมาแมว! ผู้ประกอบการ มั่นใจไม่กระทบธุรกิจ ส่วนคนรักสัตว์ยังรับไม่ได้
ตามที่คณะรัฐมนตรี เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ โดย เจ้าของต้องนำสัตว์เลี้ยงไปขึ้นทะเบียน โดยมีค่าใช้จ่าย คือ ค่าคำร้องขอขึ้นทะเบียนฉบับละ 50 บาท ค่าสมุดประจำตัวสัตว์ 100 บาท ค่าเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ ตัวละ 300 – 450 บาท หากเจ้าของไม่ดำเนินการตามกฎหมาย เจ้าพนักงานท้องถิ่นของรัฐ มีอำนาจเปรียบเทียบปรับไม่เกิน 25,000 บาท
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเส้นทางเศรษฐีออนไลน์ สอบถามไปยังคุณพลอย-ฐิติกุล อยู่วิทยา เจ้าของ “บริษัทเพ็ทโปร กรุ๊ป จำกัด” อาณาจักรธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง หากจะต้องมีการขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงจริง จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจหรือไม่

คุณพลอย กล่าวว่า “เห็นด้วย” ที่เมืองไทยจะมีการขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยง เพราะเมืองนอกก็มีการขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงกันมานานแล้ว ส่วนตัวมองว่า เป็นการสร้างมาตรฐานให้เจ้าของเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงมากขึ้น ส่วนประเด็นจะกระทบต่อธุรกิจหรือไม่นั้น เชื่อว่าไม่กระทบ เพราะกลุ่มลูกค้าของตนเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง มีสภาพคล่องในการจับจ่าย แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซา ลูกค้าซื้อสินค้าพรีเมี่ยมลดลง งดสิ่งของที่ไม่จำเป็น แต่อย่างไรก็ตาม ปริมาณลูกค้าเท่าเดิมไม่ลดลง
ปัจจุบันบริษัทเพ็ทโปร กรุ๊ป จำกัด อาณาจักรสินค้า – บริการสัตว์เลี้ยงครบวงจร มีทั้งหมด 3 สาขา ราชพฤกษ์ แจ้งวัฒนะ และติวานนท์ รายได้เฉลี่ยแต่ละสาขา 2 – 3 ล้านบาท/เดือน
ด้านคุณต่าย-วิจิตรา โรจนประดิษฐ์ แอดมินเพจเพื่อนตัวเล็กและพิธีกรรายการเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ให้สัมภาษณ์ ว่า การที่จะมีการออกกฎหมายแบบนี้ ไม่คิดบ้างหรือว่า คนที่ไม่ได้รักหมารักแมวจริงๆ เขาจะปล่อยหมาปล่อยแมวทิ้งเพิ่มขึ้นหรือเปล่า ทุกวันนี้มีการนำหมาแมวจรจัดไปทิ้งบ่อขยะ แต่หน่วยงาน ก็ปล่อยทิ้งไว้ ไม่ได้มีการจับทำหมัน อ้างว่า งบฯไม่พอบ้าง หมอไม่มีบ้าง

“จากการสอบถามในกลุ่มเพื่อนที่รักสัตว์ดูแล้ว คนที่รักสัตว์และมีความรับผิดชอบต่อสัตว์เลี้ยงจริงๆ เขายินดีที่จะจ่ายเงินนะ เพื่อที่ว่าจะคุณเอาเงินที่ได้จากตรงนี้ ไปแก้ไขปัญหาต่อ อย่างทำหมันสัตว์จรจัดอย่างจริงจัง แต่นี่คุณเหมือนสักแต่ว่าจะเก็บ ไม่ได้บอกว่าจะเอาเงินที่เก็บไป ไปทำอะไรต่อ จะทำได้จริงไหม และถ้าเก็บจริง พวกวัด มูลนิธิที่เก็บสัตว์จรจัดพวกนี้ไปดูแลรักษาจริงๆ เขาจะทำอย่างไร แทนที่คุณจะเริ่มแก้ปัญหาจากการพวกกลุ่มเพาะพันธุ์สัตว์ขายก่อน เพราะพอแม่พันธุ์ไม่มีลูกให้ คนพวกนี้ก็เอาไปปล่อยทิ้งให้เป็นสัตว์จรจัด ที่อาจไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น ส่วนตัวเลยมองว่าถ้ามีการเก็บเงินจากการนำสัตว์ไปขึ้นทะเบียนจริง คงไม่ได้นำเงินตรงนี้ไปแก้ไขปัญหาสัตว์จรจัดอย่างจริงจังเท่าไหร่” คุณต่าย กล่าว