เหมือนเปี๊ยบ! ชมแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของไทย มีหมด ‘เสา-ปราสาท’ สไตล์ญี่ปุ่น

เหมือนเปี๊ยบ! ชมแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของไทย มีหมด ‘เสา-ปราสาท’ สไตล์ญี่ปุ่น

นักธุรกิจ ทุ่มทุนสร้าง “ฮิโนกิแลนด์” มูลค่า 1,248 ล้าน ที่ไชยปราการ หวังเป็นเซ็นเตอร์พอยท์ภาคเหนือ แหล่งท่องเที่ยวใหม่อำเภอ เผยจุดเด่นปราสาทฮิโนกิ สูง 4 ชั้น ชมวิว 360 องศา เปิดให้ชมฟรีถึง 31 ตุลาคมนี้ ก่อนเปิดทางการต้นปีหน้า ช่วงอากาศหนาว-เข้าสู่ฤดูท่องเที่ยวเชียงใหม่ คาดมีผู้เข้าชมวันละ 1,000 คน ตั้งเป้าไม่หวังกำไร ขอสร้างงาน-กระจายรายได้สู่ชุมชน รวม 1,200 ครอบครัว

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม นายอนิรุทธิ์ จึงสุดประเสริฐ ประธานบริหารบริษัทบ้านไม้หอมฮิโนกิไชยปราการ จำกัด เผยถึงโครงการฮิโนกิแลนด์ บ้านร้องธาร หมู่ 6 ต.ศรีดงเย็น อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ว่า เปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าชมอย่างไม่เป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งสร้างบนพื้นที่กว่า 83 ไร่ ห่างจาก อ.ไชยปราการ ประมาณ10 กิโลเมตร มูลค่าก่อสร้าง 1,200 ล้าน หากรวมที่ดินอีก 48 ล้านบาท รวมเป็น 1,248 ล้านบาท ซึ่งการก่อสร้างคืบหน้า 75% คาดแล้วเสร็จวันที่ 1 ธันวาคมนี้ ก่อนเปิดอย่างเป็นทางการต้นปีหน้า

“สาเหตุที่สร้างโครงการดังกล่าว เพื่อให้คนไทยที่ไม่มีโอกาสไปญี่ปุ่นได้มาสัมผัส เรียนรู้ วัฒนธรรมและความเชื่อของชาวญี่ปุ่น เพราะผมเคยอาศัยอยู่ที่ญี่ปุ่นมากว่า 19 ปี ซึ่งโครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ที่เป็นสะดือเมืองไชยปราการ มีภูเขาล้อมรอบ โอบด้วยลำน้ำฝาง ที่ไหลจากทิศใต้สู่ทิศเหนือ จุดเด่นโครงการ คือ ปราสาทฮิโนกิ มีความสูง 4 ชั้น อุโมงค์เสาโทเรอิ ประตูแห่งความโชคดี และโคมแดงจำลอง ซึ่งปราสาทฮิโนกิ สร้างด้วยไม้ฮิโนกิ 100% สร้างบนเนื้อที่กว่า 8 ไร่ สามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ได้ 360 องศา และต้องการให้สถานที่ดังกล่าวเป็นเซ็นเตอร์พอยท์ของภาคเหนือ และแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของ อ.ไชยปราการ เป็นหลัก คาดมีผู้เข้าชมไม่ต่ำกว่าวันละ 1,000 คน” นายอนิรุทธิ์ กล่าว

ช่วงปลายฝนต้นหนาว ก่อนเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยวเชียงใหม่ ได้เปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าชมฮิโนกิแลนด์ฟรี จนถึงวันที่ 31 ตุลาคมนี้ และเริ่มเก็บบัตรผ่านประตู วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นไป ค่าเข้าชมคนไทย 180 บาท/คน ต่างชาติ 250 บาท แต่มีส่วนลด 50 บาท และมีคูปองเพื่อใช้เป็นส่วนลดเช่าชุดกิโมโนอีก 80 บาท เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ซึ่งโครงการดังกล่าวมีพนักงาน 100 กว่าคน ที่เป็นคนท้องถิ่น 99% แต่ไม่ได้คาดหวังจากรายได้จากค่าบัตร และจำหน่ายสินค้าที่ระลึก แต่มีเป้าหมาย เพื่อสร้างงานและรายได้สู่ชุมชน กว่า 1,200 ครอบครัว ซึ่งส่วนตัวมองว่าเป็นกำไรที่แท้จริง เพราะโครงการดังกล่าวลงทุนด้วยตัวเอง ไม่มีหุ้นส่วนอย่างใด

ซึ่งการตกแต่งและการก่อสร้างของสถานที่เที่ยวใหม่นี้ มีทั้งเสาโทเรอิ ที่มักอยู่ตามสถานที่ทางศาสนาของญี่ปุ่น รวมทั้งยังมีปราสาท และอาคารที่ดูเหมือนญี่ปุ่นจริงๆ