“เบอร์เกอร์คิง” ปลื้มยอดขายวันแรกที่โคราชพุ่งสูงสุดนับแต่เปิดตลาดในไทย

นายประพัฒน์ เสียงจันทร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือบริษัท ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือเบอร์เกอร์คิง เปิดเผยว่า เทรนด์การรับประทานเบอร์เกอร์ของคนไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน โดยมีผู้เล่นแข่งขันในตลาด 5 รายหลักคือ เบอร์เกอร์คิง, แมคโดนัลด์, มอสเบอร์เกอร์, คาร์ลซจูเนียร์ และเคเอฟซี แต่เบอร์เกอร์คิงมองว่าจะได้เปรียบคู่แข่งเนื่องจากทำการตลาดชัดเจน เน้นขายเบอร์เกอร์เป็นหลัก ทำให้ผู้บริโภคจดจำได้และตัดสินใจซื้อมากขึ้น ส่วนผู้เล่นท้องถิ่นจะเป็นลักษณะการจำหน่ายเบอร์เกอร์ในงานฟู้ดทรัคที่มักจะจัดขึ้นช่วงปลายปีหรือในฤดูหนาว ที่ปีนี้คาดว่าฟู้ดทรัคจะได้รับความนิยมน้อยกว่าปีที่ผ่านมา จึงคาดว่าการแข่งขันในตลาดเบอร์เกอร์ยังอยู่ที่ 5 รายหลักเหมือนเดิม

นายประพัฒน์ กล่าวถึงทิศทางการทำธุรกิจนับจากนี้ จะเน้นทำตลาดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) เป็นหลัก เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในภาคอีสานขยายตัวได้ดี ผู้บริโภคมีกำลังซื้อ เห็นได้จากการเปิดเบอร์เกอร์คิงสาขาแรกที่ภาคอีสานที่ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา (โคราช) ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา มียอดบิลถึง 200,000 บาทในวันแรกที่เปิดบริการ สูงสุดนับตั้งแต่ทำธุรกิจในไทย โดยเฉลี่ยยอดบินต่อสาขาอยู่ที่ 160,000-170,000 บาทต่อวัน จึงตั้งเป้าว่าภายใน 3 ปี จะขยายสาขาในภาคอีสานอีก 4 สาขาในทำเลที่มีศักยภาพ อาทิ ขอนแก่น อุดรธานี” นายประพัฒน์กล่าว

นายประพัฒน์ กล่าวถึงแผนการทำธุรกิจในไตรมาส 4 ปีนี้ว่า บริษัทจะขยายสาขาอีก 5 สาขา จากแผนขยายสาขาปี 2559 จำนวนทั้งหมด 18 สาขา ในงบลงทุนสาขาละประมาณ 25 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 1,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% จากปี 2558 มียอดขาย 1,400 ล้านบาท และมีแผนจะปรับลดราคาจากเดิม 99 บาท เป็น 55 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับกำลังซื้อผู้บริโภคและพฤติกรรมการรับประทานเบอร์เกอร์ของคนไทยมากขึ้น คาดว่าจะทำให้มีสัดส่วนลูกค้าคนไทยเป็น 60% ต่างชาติ 40% ภายในปลายปี 2560 จากปัจจุบันมีสัดส่วนลูกค้าคนไทย 50% ต่างชาติ 50%

“แผนการทำธุรกิจในปี 2560 จะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าคนไทยมากขึ้น เพื่อรองรับความผันผวนทางเศรษฐกิจที่เป็นปัจจัยหนึ่งที่อาจจะทำให้นักท่องเที่ยวลดลง ดังนั้น แผนการขยายสาขาในปี 2560 บริษัทจะเปิดสาขาใหม่ทั้งหมด 15 สาขา โดยเกือบ 100% จะเป็นสาขาสแตนอะโลน เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าคนไทยโดยเฉพาะในภาคอีสาน ทั้งนี้คาดว่าภายในปีหน้านี้บริษัทจะมีสาขาทั้งหมด 85 สาขา”

 

ที่มา มติชนcounter