“รถด่วน” อาหารยอดฮิตโล 600 ห่วงตัดไผ่ไม่เป็น โค่นทั้งลำ ส่งผลระบบนิเวศ

เมื่อวันที่ 21 กันยายน นายประสงค์ สะสมวัฒนากุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ภูซาง อ.ภูซาง จ.พะเยา กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม เป็นต้นมา พบว่าหนอนไม้ไผ่หรือรถด่วนจะเริ่มออกสู่ตลาด ราคาเริ่มต้นจากต้นทางขณะที่รถด่วนยังดิ้นอยู่ในกระบอกไม้ไผ่ กก.ละ 300-400 บาท เมื่อถึงปลายทางผู้บริโภค กก.ละ 500-600 บาท ส่วนใหญ่จะมาจากพื้นที่บนดอย เป็นอาหารยอดนิยมของนักบริโภคที่นิยมอาหารแปลก สามารถนำไปทำเป็นรถด่วนทอด น้ำพริก ได้ เนื่องจากเป็นของป่าและอาหารยอดฮิตที่หากินได้ยาก หนึ่งปีจะสามารถมีรับประทานได้เพียงช่วงฤดูกาลเดียว จึงทำให้รถด่วนมีราคาแพง กลุ่มผู้ค้ารถด่วนจึงนิยมค้ากันมาก โดยเฉพาะบริเวณชายแดน ซึ่งคนที่ตัดไม้ไผ่เพื่อหารถด่วน หากตัดไม่เป็นก็จะโค่นต้นไผ่เป็นลำจำนวนมากเพื่อหารถด่วนในกระบอกไม้ไผ่ ทำให้เป็นห่วงว่า การตัดไม้ไผ่เพื่อหารถด่วน หากไม่มีข้อสังเกตและภูมิปัญญาท้องถิ่นอาจจะกระทบถึงการตัดไม้ไผ่จำนวนมาก ดังนั้นควรมีการจัดอบรมให้ความรู้กลุ่มผู้ที่หาของป่า หารถด่วนโดยไม่ทำลายต้นไผ่จำนวนมากที่จะกระทบต่อระบบนิเวศ

นายบันทม สมสุวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ (อช.) ภูซาง จ.พะเยา กล่าวว่า กรณีของรถด่วนหรือหนอนไม้ไผ่นั้น ถือว่าไม่ได้เป็นสัตว์ป่าสงวน การสั่งห้ามซื้อขายจึงไม่สามารถทำได้ ซึ่งแนวทางที่จะไม่ให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศ จึงทำได้ในลักษณะขอความร่วมมือจากผู้ที่หาของป่าหรือหารถด่วนโดยการตัดต้นไผ่ ไม่ตัดต้นไผ่ที่ไม่มีรถด่วน เพื่อให้ต้นไผ่ได้ขยายพันธุ์ รวมทั้งการซื้อขายไม่ควรให้มากเกินไป หากเป็นการซื้อไว้รับประทานหรือเป็นของฝาก อัตราที่พอเหมาะคิดว่าจะอยู่ที่ประมาณ คนละ 2-3 กก. แต่ถ้ามากกว่านั้นเกรงจะเป็นการส่งเสริมให้มีการตัดไม้ไผ่ในเขตป่ากันมากขึ้น เนื่องจากมีการติดตามสืบเสาะที่มาของรถด่วนแล้ว ส่วนใหญ่ไม่ได้ข้ามฝั่งจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่เป็นรถด่วนจากไม้ไผ่ในป่าเขตฝั่งไทย

“ดังนั้นเพื่อให้มีรถด่วนได้รับประทานและสร้างรายได้เสริมทุกปี ควรต้องร่วมกันอนุรักษ์ต้นไผ่ในป่าไม้ ให้เป็นที่อยู่ของรถด่วนอย่างเหมาะสม รวมทั้งการเก็บรถด่วนควรปล่อยให้มีรถด่วนได้เติบโตเป็นผีเสื้อและขยายพันธุ์ในปีต่อๆ ไปด้วย จึงขอความร่วมมือไปยังผู้ที่มีอาชีพหาของป่าและค้าขายรถด่วนด้วย” หน.อช.ภูซาง กล่าว