ธุรกิจกำจัดปลวกตลาดมหาศาล มีแฟรนไชส์ “หลักหมื่น” ให้ผู้สนใจลงทุน

“ปลวก” คือ แมลงตัวร้าย มีประสิทธิภาพฉกาจ  สามารถทำลายบ้านเรือนให้เสียหายโดยสิ้นเชิงในระยะเวลาเพียง 3-5 ปี

จากข้อเท็จจริงดังกล่าว หลายท่านวิเคราะห์ ถึงขั้นกล้า “ฟันธง” ว่า ธุรกิจกำจัดปลวกในเมืองไทย เป็นธุรกิจที่มีตลาดขนาดใหญ่ ถึงขั้น “มหาศาล” เพราะบ้านน้อย-ใหญ่ แทบทุกหลัง  มีอันต้องประสบกับปัญหาปลวกกินบ้านด้วยกันทั้งนั้น

 บริษัท บี เอ็ม แลนด์ แอนด์ เฮาส์ จำกัด เป็น กิจการรับกำจัดปลวก มด แมลงสาบ เจ้าของแบรนด์ “ดร.ปลวก” ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 20  ปี  โดยในช่วงเวลานั้น มีแนวทางในการทำงานเหมือนกับหลายๆบริษัท  คือ ใช้สารเคมี เป็นตัวป้องกันและกำจัดแมลงชนิดดังว่า

แต่ต่อมาไม่นาน เจ้าของกิจการเริ่มตระหนักถึงผลกระทบจากการใช้สารเคมี จึงเบนเข็มหันมาศึกษาสารกำจัดแมลงสกัดจากสมุนไพร ซึ่งไม่เป็นอันตรายทั้งกับคนและสัตว์เลี้ยง แต่สามารถกำจัดปลวกและแมลงอื่นๆได้ไม่ต่างจากการใช้สารเคมี

“สารเคมี ซึ่งเคยเป็นทางเลือกอันดับต้นๆในการกำจัดปลวกนั้น มันออกฤทธิ์ไม่ต่างอะไรกับสารพิษ ส่งผลกระทบทั้งต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิตทุกประเภท และยังตกค้างทั้งในดินและสิ่งแวดล้อมอื่น เป็นภัยมืดที่มองไม่เห็น”    คุณอรวรรณ แสงวัฒนจินดา  ตัวแทนบริษัท บี เอ็มฯ เผยข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นจุดหักเหในการทำธุรกิจ

ตัวแทน “ดร.ปลวก”

ก่อนเล่าต่อ ในเมื่อสารเคมีที่ใช้ล้วนแต่ก่อให้เกิดผลในด้านลบ ทางผู้บริษัทฯ จึงหันมาเลือกใช้สารกำจัดแมลงซึ่งสกัดจากสมุนไพร สั่งนำเข้าจากประเทศอิสราเอล มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดปลวก โดยกระบวนการทำงานของสมุนไพรกำจัดปลวกนี้ สามารถนำไปใช้กับวงจรชีวิตของปลวก หยุดขบวนการย่อย ทำลายจุลินทรีย์ในทางเดินอาหารและการลอกคราบของตัวอ่อน  ทำให้ตัวอ่อนไม่เจริญเติบโต ลดการฟักไข่ของนางพญา เพื่อหยุดการขยายพันธ์ กระทั่งปลวกสูญพันธุ์ในที่สุด

“หลังจากหันมาใช้สมุนไพรในการทำธุรกิจกำจัดปลวก ปรากฎลูกค้าให้การตอบรับดีเกินคาด  มีทั้ง ร้านอาหาร สถานทูต โรงแรม-รีสอร์ท รวมถึงโรงเรียนอีกหลายแห่ง มาเข้ารับบริการจากเรา”คุณอรวรรณ เผยอย่างนั้น

รับกำจัดปลวกด้วยสมุนไพร ภายใต้แบรนด์ “ดร.ปลวก” มาด้วยดีต่อเนื่อง จึงขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้นในรูปแบบของแฟรนไชส์  ภายใต้แนวคิด  ต้องการเปิด โอกาสคนทั่วไปได้มีอาชีพอิสระของตัวเอง แต่ใช้เงินลงทุนไม่มาก

ผู้บริหารบริษัท บี เอ็มฯ กล่าวถึงแนวโน้มของธุรกิจรับกำจัดปลวกในบ้านเราให้ฟังด้วยว่า น่าจะมีอนาคตไปได้ไกล เนื่องจากอาคาร-บ้านเรือน แทบทุกหลัง มีโอกาสประสบกับปัญหาปลวกกินบ้าน และนับวันมีแต่จะทวีความรุนแรงขึ้น

“โดยทั่วไปบ้านหลังหนึ่ง ต้องใช้เวลาผ่อนนานไม่ต่ำกว่าสิบปี  ในขณะที่สามารถใช้เงินหลักพันบาท เพื่อป้องกันให้บ้านของตัวเอง ปลอดภัยจากการทำลายของปลวก เจ้าของบ้านย่อมจะยินดีจ่าย เพราะต้องยอมรับว่าปลวกเป็นปัญหาที่รั้งรอไม่ได้”คุณอรวรรณ ว่าอย่างนั้น

สนทนามาถึงตรงนี้  ผู้บริหารกิจการ ดร.ปลวก แจงเงื่อนไขการเข้าเป็นแฟรนไชซี ของธุรกิจ ให้ฟังว่า ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น ใช้ทุนหลักหมื่น จากนั้นจะได้รับอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพรับกำจัดปลวกด้วยสมุนไพรแบบครบชุด สามารถเริ่มต้นรับงานได้ทันที แต่ทั้งนี้ต้องผ่านการอบรมภาคทฤษฎีและภาคปฎิบัติจากทางบริษัทฯเสียก่อน

“การอบรมภาคทฤษฎี จะประกอบไปด้วยเนื้อหาวงจรชีวิตของปลวก จุดสังเกตแหล่งอาศัยของปลวก การให้บริการลูกค้ามีขั้นตอนใดบ้าง ส่วนภาคปฏิบัติ จะพาไปทำการฉีดพ่นจริง ภายในบ้านสาธิต โดยเน้นการสังเกตบริเวณที่เมื่อพ่นน้ำยาเข้าไปแล้ว จะเข้าไปถึงรังปลวกได้ง่ายและเร็วที่สุด”คุณอรวรรณ อธิบาย

เกี่ยวกับคุณสมบัติของแฟรนไชซี คุณอรวรรณ บอก อาชีพรับกำจัดปลวกด้วยน้ำยาสมุนไพรในแบบของดร.ปลวก นี้ สามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียว ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานเรื่องงานช่างเฉพาะทางใดๆ   แต่ถ้าให้เหมาะควรเป็นผู้ชายอายุไม่เกิน 60 ปี เพราะน่าจะคล่องตัวกว่า ถ้าต้องแบกถังไปฉีดพ่นน้ำยาหรือเดินทางไปรับงานด้วยจักรยานยนต์

ถามถึงวิธีการเข้าถึงลูกค้าของแฟรนไชซี คุณอรวรรณ บอก ทางบริษัทแม่ฯ มีการโฆษณา เพื่อตอกย้ำความเป็น “ดร.ปลวก” ผ่านทางสื่อเป็นระยะ เพื่อสร้างการรับรู้ในหมู่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง  ดังนั้นเมื่อแบรนด์เป็นที่รู้จักในระดับหนึ่งแล้ว แฟรนไชซีย่อมจะประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการของตัวเองได้ไม่ยากนัก โดยอาจเริ่มต้นจากในละแวกบ้านของตนเองก่อนก็ได้

“ช่วงหลังน้ำท่วม หลายบ้านต้องประสบกับความชื้นสะสม  ซึ่งหากปล่อยไว้อาจเกิดปัญหาปลวกตามมาไม่ยาก  แต่ถ้าช่วงไหนความต้องการใช้บริการไม่น้อย แฟรนไชซี อาจเริ่มหาลูกค้าในละแวกชุมชนของตนก่อน รับงานแค่สิบหลังแรกก็คืนทุนแล้ว”คุณอรวรรณ ฝากไว้อย่างนั้น

สนใจ แฟรนไชส์ “ดร.ปลวก” ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม เลขที่ 3 อาคารแสงถิ่นไท ลอดพร้าว ซอย 111 บางกะปิ  กรุงเทพฯ 10240  โทรศัพท์ 088-255-1387 หรือ www.doctorplouk.com