ทาคาฮาชิเริ่มทำงานกับบริษัทเดนท์สุหลังเรียนจบในปี 2558 ในแผนกลูกค้าดิจิตอลของบริษัทโดยรับผิดชอบงานโฆษณาออนไลน์ ซึ่งตามข้อมูลของทนายที่ครอบครัวแต่งตั้งขึ้นการทำงานหนักของเธอเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมปีเดียวกัน โดยเพียงในระหว่างวันที่ 9 ตุลาคม – 7 พฤศจิกายน เธอต้องทำงานล่วงเวลามากถึง 105 ชั่วโมง ทั้งนี้ทากาฮาชิได้ฆ่าตัวตายที่หอพักสตรีของบริษัทเดนท์สุเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2558 ซึ่งก่อนหน้าที่จะตัดสินใจจบชีวิตตัวเองเธอได้ติดต่อเพื่อนร่วมงานและเพื่อนๆ ผ่านโซเชียลมีเดียและส่งข้อความแสดงถึงความเครียดว่าอยากตาย

เจ้าหน้าที่ของมิตะตรวจสอบข้อมูลต่างๆก่อนที่จะระบุว่าปริมาณงานของทาคาฮาชิเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับการทำงานล่วงเวลา ก่อนจะสรุปว่าเธอประสบปัญหาล่มสลายทางจิตอันเนื่องมาจากภาระที่มากเกินไปจากการทำงานหนักจนทำให้ตัดสินใจฆ่าตัวตาย

ด้านผู้บริหารของบริษัทเดนท์สุแถลงข่าวว่าจะจัดการกับปัญหาโดยเพิ่มปริมาณเจ้าหน้าที่ในแผนกดังกล่าว ซึ่งบริษัทระบุว่าการขาดแคลนคนทำงานเป็นสาเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งนี้มีรายงานว่าทางบริษัทได้ให้คำแนะนำพนักงานให้รายงานสภาพการทำงานของตนเพื่อไม่ให้มีการทำงานล่วงเวลาเกินชั่วโมงที่กำหนด

อย่างไรก็ดีการฆ่าตัวตายของทาคาฮาชิไม่ใช่กรณีแรกที่เกิดขึ้นกับลูกจ้างของบริษัทเดนท์สุ โดยเมื่อปี 2534 ลูกจ้างชายของบริษัทก็เคยฆ่าตัวตายเนื่องจากทำงานหนักเกินไปมาแล้ว และครอบครัวของเขาได้ยื่นฟ้องก่อนที่ศาลจะตัดสินเมื่อปี 2543 ว่าบริษัทต้องรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตดังกล่าว

การเสียชีวิตของทาคาฮาชิสอดคล้องกับข้อมูลที่กระทรวงแรงงานของญี่ปุ่นเปิดเผยเกี่ยวกับแนวทางในการป้องกันการเสียชีวิตเนื่องจากการทำงานหนักเกินไปที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าในปี 2558 ที่ ผ่านมามีการฆ่าตัวตายหรือความพยายามที่จะฆ่าตัวตายอันเนื่องมาจากการทำงานหนักในญี่ปุ่น 93 กรณี