3 กระทรวงหลักร่วมมือภาคีเครือข่าย จัดงานมหกรรมสมุนไพรและอาหารฯปลายเดือนนี้

เมื่อวันที่ 14 ส.ค.  ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  มีการแถลงข่าวการจัดงานมหกรรมสมุนไพรและอาหารครั้งที่ 3  โดยมี ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  คุณสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และคุณวิวัฒน์ ศัลยกำธร  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กล่าวย้ำจุดยืนร่วมกันคือ ขับเคลื่อนประเทศไปสู่เกษตรกรรมยั่งยืน เพื่อสุขภาพที่ดีของประชาชน

ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายเกษตรกรรมยั่งยืนของรัฐบาล ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนได้รับประทานอาหาร และยาสมุนไพรที่ปลอดภัย  มีคุณภาพ ลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย โดยเฉพาะโรคมะเร็งที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากอาหารมีสารเคมีตกค้าง กระทรวงสาธารณสุข จึงได้ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบอาหารที่จะนำมาประกอบอาหารให้ผู้ป่วย และวัตถุดิบที่นำมาผลิตเป็นยาสมุนไพรที่ปลอดภัย โดยจัดทำโครงการ “โรงพยาบาลอาหารปลอดภัย” ร่วมมือกับกระทรวงเกษตรฯ จัดหาวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหารที่ปลอดภัยจากสารเคมีให้กับผู้ป่วย ซึ่งโรงพยาบาลจะรับซื้อผลผลิตเกษตรอินทรีย์จากกลุ่มเกษตรกร  จัดตลาดให้เกษตรจำหน่ายสินค้าปลอดสารเคมี เพื่อให้บุคลากรและญาติผู้ป่วยเข้าถึงอาหาร ผัก ผลไม้ สมุนไพรที่ปลอดภัย สนับสนุนเกษตรกรผู้ผลิตรายย่อยให้ได้มีตลาดใกล้ๆ บ้าน สำหรับพืชสมุนไพรมีนโยบายให้โรงพยาบาลในสังกัดซื้อวัตถุดิบในการผลิตยาสมุนไพรที่เป็นเกษตรอินทรีย์ และให้ความสำคัญกับการสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพ ให้ประชาชนใช้เป็นเครื่องมือในการดูแลสุขภาพที่ถูกต้อง เลือกรับประทานอาหารที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ

ด้านคุณวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กล่าวว่า กระทรวงเกษตรแลสหกรณ์ มีนโยบายเร่งขับเคลื่อนงานเกษตรกรรมยั่งยืนให้บรรลุเป้าหมายแผนชาติ ที่กำหนดให้เพิ่มพื้นที่เกษตรกรรมยั่งยืนให้ได้ 5 ล้านไร่ ในปี 2564  ยึดหลักการขับเคลื่อนสืบสานศาสตร์พระราชา เป็นการพัฒนาที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และภาคีอื่น ๆ ร่วมบูรณาการเพื่อเสริมกลไกของรัฐที่มีอยู่ โดยขับเคลื่อนทั้งระดับชุมชน จังหวัด และชาติ หนุนเสริมให้เกิดการเพิ่มพื้นที่เกษตรกรรมยั่งยืน เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย สนับสนุนให้เกิดข้อตกลงความร่วมมือขับเคลื่อนพื้นที่เกษตรกรรมยั่งยืนใน 4 จังหวัดภาคอีสาน ไม่น้อยกว่า 1,000,000 ไร่ ในปี 2561 ได้แก่ ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และจะขยายผลไปยังจังหวัดอื่น ๆ ต่อไป

ในระยะต่อไป จะเร่งรัดดำเนินการ 3 เรื่อง คือ 1.การออก พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรกรรมยั่งยืน2.การจัดทำ Road Map ขับเคลื่อนเกษตรกรรมยั่งยืนของประเทศ และ 3.การจัดทำฐานข้อมูลกลางเกษตรกรรมยั่งยืน คาดว่า จะมีการเพิ่มพื้นที่เกษตรกรรมยั่งยืนเกิดขึ้นมากกว่า 5 ล้านไร่ เมื่อสิ้นสุดแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ในปี 2564

ส่วนคุณสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นแกนหลักในการประสานการขับเคลื่อนงานเกษตรกรรมยั่งยืน เพื่อให้เกิดการบูรณาการการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน และทุกสาขาอาชีพที่เกี่ยวข้องในจังหวัด ตั้งแต่เกษตรกรผู้ผลิต ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และผู้บริโภค เกิดความตระหนักในการผลิตและบริโภค ที่ทำให้เกิดความสมดุลและยั่งยืน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ เกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชน โดยนำองค์ความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ คำนึงถึงภูมิสังคมท้องถิ่น ทุกภาคส่วนบูรณาการแบบมีส่วนร่วม และดำเนินการลักษณะพื้นที่เป็นองค์กรเดียวกัน ร้อยใจเป็นหนึ่งเดียว

ทั้งนี้ งานมหกรรมสมุนไพรและอาหาร ครั้งที่ 3 จัดขึ้น เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนหันมาใช้สมุนไพรเพื่อการพึ่งพาตนเอง สามารถนำพืชผัก สมุนไพรใกล้ตัว มาใช้ประโยชน์ทั้งเป็นอาหารและยาได้ กิจกรรมประกอบด้วย นิทรรศการ สวนสมุนไพรชะลอวัยดูแลสุขภาพร่างกาย  กิจกรรม Workshop เรื่องสมุนไพรและการดูแลสุขภาพ  การอบรมระยะสั้นมากกว่า 50 หลักสูตร แจกพันธุ์สมุนไพรหายากวันละ 300 ต้น และหนังสือสมุนไพรวันละ 200 เล่ม บริการตรวจ ให้คำปรึกษาสุขภาพกับแพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน หมอพื้นบ้าน การจำหน่ายสินค้าสมุนไพรคุณภาพ ผลิตภัณฑ์สุขภาพ อาหารสุขภาพ และอาหารพื้นถิ่น

งานมหกรรมสมุนไพรและอาหาร ครั้งที่ 3 ภายใต้ธีมงาน  “กินเปลี่ยนวัย กินอย่างมั่นใจ ด้วยเกษตรกรรมยั่งยืน” จะจัด ที่ ฮออล์ 7-8 อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 ส.ค. – 2 ก.ย. นี้