เจ้าของร้านแพ ไม่วิตกสถานการณ์น้ำ เชื่อ “เอาอยู่” แค่อย่าลงเล่นน้ำ

จากกรณีเขื่อนวชิราลงกรณ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี แจ้งทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเดิมวันละ 36 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 39 ล้านลูกบาศก์เมตร ในวันนี้ (5 ส.ค.) และเพิ่มเป็น 43 ล้านลูกบาศก์เมตร ในวันที่ 6 ส.ค. ส่วนเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จะทยอยปรับเพิ่มจากเดิมวันละ 15 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 18 ล้านลูกบาศก์เมตร ในวันที่ 4 ส.ค. และเพิ่มเป็น 20 ล้านลูกบาศก์เมตร ในวันนี้ (5 ส.ค.)

ส่วนเขื่อนแม่กลองเขื่อนทดน้ำขนาดใหญ่ของกรมชลประทาน ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง เพิ่มการระบายไปตามน้ำสาขา คลองระบาย คลองชลประทาน และลงแม่น้ำแม่กลอง 64 ล้านลบ.ม.ต่อวัน หรือ 742 ลบ.ม./วินาที

วันที่ 5 ส.ค. ที่ริมแม่น้ำแควน้อยและแควใหญ่ไหลมาบรรจบกันเป็นต้นน้ำแม่กลอง ที่บริเวณ ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จากการตรวจสอบพบระดับน้ำบริเวณตลิ่งสูงขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนกระแสน้ำจากแม่น้ำแควน้อยและแม่น้ำแควใหญ่ ค่อนข้างไหลเชี่ยว

เมื่อน้ำทั้ง 2 สายไหลมาบรรจบกัน ทำให้กระแสน้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำแม่กลองบริเวณดังกล่าวรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยสามารถสังเกตได้จากเศษสวะ กิ่งไม้ รวมทั้งผักตบชวา ที่ไหลมาจากแม่น้ำทั้ง 2 สาย เมื่อเข้าสู่ต้นน้ำแม่กลอง จะลอยไปตามน้ำอย่างรวดเร็ว แต่ภาพรวมทั้งหมดยังคงอยู่ในสภาวะปกติ นักท่องเที่ยวยังเดินทางมาล่องแพได้ด้วยความสบายใจ แต่ต้องห้ามไม่ให้ลงไปเล่นน้ำโดยเด็ดขาด

นายพลวุธ สมประสงค์ ผู้ประกอบการร้านอาหาร “แม่น้ำแพอาหาร” ที่ตั้งอยู่ต้นน้ำแม่น้ำแม่กลอง ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำ ณ ตอนนี้ถือว่ายังเป็นปกติ ปริมาณน้ำยังไม่ขึ้น แต่มีความแรงเพราะว่า ทางเขื่อนวชิราลงกรณ และเขื่อนศรีนครินทร์ ได้เพิ่มการระบายน้ำ ติดต่อกันมาหลายวัน

จะสังเกตได้ว่าแม่น้ำแควน้อยซึ่งทางเขื่อนวชิราลงกรณ ได้ทำการปล่อยน้ำลงมา กระแสน้ำจะแรงสวนกระแสน้ำ ทางฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ยังนิ่งปกติ ส่วนน้ำบริเวณตลิ่งขึ้นมาบ้างเล็กน้อย ภาพรวมถือว่ายังเป็นปกติทุกจุด แต่ไหลแรงเท่านั้นเอง จึงถือว่ามีความปลอดภัย

หากพบสิ่งผิดปกติ เราก็จะทำการรายงานให้กับทางการทราบ ที่ผ่านมาเราได้เฝ้าจับตาดูปริมาณน้ำทั้งกลางวันและกลางคืนมานานหลายวันแล้ว ซึ่งเราต่างก็ได้ช่วยกันมาตลอด ช่วงนี้นับว่าโชคดีที่ฝนไม่ตกลงมาที่ท้ายเขื่อน แต่เพียงแค่ตกลงมาปรอยๆเท่านั้น ทำให้รู้สึกสบายๆ เนื่องจากอากาศดี จากการที่ฝนไม่ตกที่ท้ายเขื่อนทำให้สถานการณ์น้ำไม่มีเพิ่มเติมเข้ามาบริเวณท้ายเขื่อน โดยเฉพาะบริเวณต้นน้ำแม่กลองแห่งนี้

พวกเราไว้ใจในตัวเขื่อนของจังหวัดกาญจนบุรี ว่ามีความแข็งแรงมั่นคง ที่ผ่านมา เขื่อนวชิราลงกรณและเขื่อนศรีนครินทร์ ก็ได้มีการประสานงาน กับเขื่อนท่าม่วงของกรมชลประทาน มาโดยตลอด สำหรับเขื่อนแม่กลอง อำเภอท่าม่วง อยู่ห่างจากจุดนี้ไปประมาณ 12-13 กิโลเมตร

นายพลวุธ เปิดเผยต่อว่า ส่วนตัวเชื่อว่า ผู้ประกอบการร้านอาหารที่อยู่ริมแม่น้ำ มีความเชื่อว่าทางเขื่อนสามารถดูแลน้ำในจังหวัดกาญจนบุรีได้เป็นอย่างดี โดยให้ความเชื่อมั่นและไว้ใจที่สุด เราเฝ้าติดตามสถานการณ์ ซึ่งทางเทศบาลเองก็ได้เตือนเรามาโดยตลอด ทำให้ทุกคนได้รับรู้แล้วเฝ้าระวังกันไป

นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตามปกติ แต่เพียงแค่ขออย่าให้ลงไปเล่นน้ำเท่านั้นก็พอ ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของจังหวัดกาญจนบุรีนั้นดีอยู่แล้ว แต่ด้วยวิกฤตของพายุฝนหรืออะไรก็แล้วแต่ ที่ทำให้น้ำเพิ่มเยอะ เราจะต้องช่วยกันดูแลซึ่งกันและกัน แต่ไม่ต้องตื่นตระหนก