พสกนิกรปีติวันอาสาฬหบูชา ร.10 เสด็จ ทรงทำพิธีวัดพระแก้ว จุด-ถวายเทียนพรรษา

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ พร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์ เจ้าพัชรกิติยาภา พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้า สิริวัณณวรีนารีรัตน์ ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลอาสาฬหบูชา ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงจุดเทียนพรรษา ถวายพุ่มเทียนแด่สมเด็จพระสังฆราช โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรีเป็นผู้แทนพระองค์ บำเพ็ญพระราชกุศลและเวียนเทียน ณ พุทธมณฑล นายกรัฐมนตรีกล่าวสดุดีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ ทรงส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทย ห่วงใยประชาชน เชิญชวนร่วมจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล และขับร้องเพลง “สดุดีจอมราชา” พร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ พสกนิกรทั่วไทยร่วมทำบุญ สุรินทร์ตักบาตรบนหลังช้าง กระทุ่มแบนแห่เทียนทางน้ำ ทัพเรือบริจาคโลหิต-ปล่อยเต่า คลองวาฬอุปสมบทหมู่ ชาวนาสระบุรีปลูกข้าวรูปเลขสิบไทย จิตอาสาทั่วไทยทำความดีด้วยหัวใจ

ประชาชนร่วมเวียนเทียน

ร.10 เสด็จฯ บำเพ็ญพระราชกุศล

เมื่อวันที่ 27 ก.ค. เวลา 15.00 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเนื่องใน วันอาสาฬหบูชา ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง

เวลา 15.15 น. เสด็จเข้าพระอุโบสถ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงยืนที่หน้าพระเก้าอี้ประทับ ทรงจุดเทียนพรรษาในตู้ด้านพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ แล้วทรงจุดเทียนพรรษาในตู้ด้านพระพุทธเลิศหล้านภาไลย ทรงถวายพุ่มเทียน ต้นไม้ทอง ต้นไม้เงิน และทรงจุดธูปเทียนท้ายที่นั่ง บูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระสัมพุทธพรรณี พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ พระพุทธเลิศหล้านภาไลย ทรงคม เสด็จฯ ไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองใหญ่ที่หน้าธรรมาสน์ศิลา ทรงกราบ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ ประทับพระราชอาสน์ (ผู้อำนวยการกองพระราชพิธี เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายเทียนชนวน) ทรงจุดเทียนชนวนจากโคมไฟฟ้า พระราชทาน ผู้อำนวยการกองพระราชพิธี เชิญไปรักษาไว้สำหรับถวายเจ้าอาวาสพระอารามหลวงต่างๆ นำไปจุดเทียนพรรษาที่ได้ทรงพระราชอุทิศไว้แล้ว

จากนั้น เสด็จฯไปถวายพุ่มเทียนแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ ที่อาสน์สงฆ์เที่ยวแรก (จำนวน 30 รูป) ประทับพระราชอาสน์ (พระสงฆ์ที่รับพระราชทานพุ่มเทียนเที่ยวแรกนี้ ถวายอดิเรกแล้วออกจากพระอุโบสถ พระสงฆ์ชุดต่อไปขึ้นนั่งยังอาสน์สงฆ์พร้อมแล้ว) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาทรงประเคนพุ่มเทียน เที่ยวที่ 2 (จำนวน 30 รูป) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงประเคนพุ่มเทียนเที่ยวที่ 3 (จำนวน 30 รูป) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชวงศ์ทรงประเคนพุ่มเทียน เมื่อหมดจำนวน พระสงฆ์ที่รับพระราชทานพุ่มเทียนประมาณ 350 รูปแล้วเสด็จฯ ไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการทองใหญ่ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ เสด็จออกจากพระอุโบสถไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ

วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม เวลา 7 นาฬิกา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์ 150 รูป เข้าไปรับพระราชทานอาหารบิณฑบาตของหลวงที่ในพระบรมมหาราชวัง ตามราชประเพณี เนื่องด้วยพระราชกุศลเข้าพรรษา

เวลา 17 นาฬิกา 30 นาที สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง ไปยังวัดบวรนิเวศวิหาร เสด็จพระราชดำเนินเข้าพระอุโบสถ ทรงจุดเทียนพรรษาบูชาพระรัตนตรัย ถวายพุ่มเทียนบูชาพระพุทธชินสีห์ ถวายสักการะพระรูปสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศ วริยาลงกรณ์ พระรูปสมเด็จพระสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส และพระรูปสมเด็จ พระสังฆราชเจ้ากรมหลวงวชิรญาณวงศ์ พระราช อุปัธยาจารย์ในรัชกาลที่ 9 ถวายราชสักการะพระบรมราชสรีรางคารรัชกาล ที่ 6 และรัชกาลที่ 9 ถวายพุ่มดอกไม้ธูปเทียนแด่สมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาส เสด็จพระราชดำเนินออกจากพระอุโบสถ ไปยังพระเจดีย์หลังพระอุโบสถ ทรงพระสุหร่าย ทรงถือสายสูตรยกนพปฎลมหาเศวตฉัตร (ฉัตรสุม) ขึ้นเหนือคูหาพระเจดีย์ แล้วถวายพุ่มเทียน ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ทรงคม เสด็จออกจากพระเจดีย์ไปทรงจุดเทียนพรรษาบูชาพระรัตนตรัยถวายพุ่มเทียนบูชา ณ ปูชนียสถานในพระอารามนี้แล้ว เสด็จพระราชดำเนินกลับ

ในวันเดียวกันนี้ เวลา 18 นาฬิกา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชวงศ์เสด็จไปยังพระอุโบสถวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ทรงจุดเทียนพรรษาบูชาพระรัตนตรัย ถวายพุ่มเทียนบูชาพระพุทธเทวปฏิมากร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการและเครื่องราชสักการะ แล้วเสด็จไปทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป ณ ปูชนียสถานต่างๆ ถวายพุ่มเทียนบูชาพระอัฐิสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ที่ตำหนัก และถวายพุ่มดอกไม้ธูปเทียนแด่พระราชาคณะเจ้าอาวาส กับทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชวงศ์เสด็จไปยังพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ทรงจุดเทียนพรรษาบูชาพระรัตนตรัย ถวายพุ่มเทียนบูชาพระชินราช แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการและเครื่องราชสักการะ และถวายพุ่มดอกไม้ธูปเทียนแด่พระราชาคณะเจ้าอาวาส แล้วเสด็จไปทรงจุดเทียนพรรษาถวายพุ่มเทียน ณ ปูชนียสถานในพระอารามนี้

เวลา 17.00 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ บำเพ็ญพระราชกุศล ณ พุทธมณฑล อำเภอพุทธมณฑล จ.นครปฐม เนื่องในงานพิธีวันอาสาฬหบูชาและเวียนเทียน

ปชช.ร่วมเวียนเทียนสนามหลวง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมกิจกรรมสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา และร่วมเวียนเทียนสักการะพระบรมสารีริกธาตุ 5 ยุค ที่กระทรวงวัฒนธรรมอัญเชิญมาประดิษฐาน ณ มณฑปพระบรมสารีริกธาตุ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง

รมต.เปิดงานเดือนมหามงคล

ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหา วิหาร นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในเทศกาลวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษาประจำปี 2561 พร้อมด้วยพระเทพวีราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนฯ พระภิกษุ สามเณร และเครือข่ายทางพระพุทธศาสนา ร่วมฟังพระธรรมเทศนา เวียนเทียนรอบพระอุโบสถ พร้อมกล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่าในปีนี้ถือเป็นปีพิเศษ เนื่องจากเดือนกรกฎาคมถือเป็นเดือนมหามงคล วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งอยู่ในสัปดาห์เดียวกับวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ถือว่าคนไทยมีโอกาสร่วมทำความดีและทำกิจกรรมถวายเป็นพระพรชัยมงคล เฉลิมพระเกียรติ

นายกฯ เฉลิมพระเกียรติในหลวง

วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหา วชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 10 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ ตั้งแต่ทรงดำรงพระราชฐานะพระรัชทายาท เมื่อเสด็จขึ้นทรงราชย์ ทรงห่วงใยและทรงคำนึงถึงประโยชน์สุขของอาณาประชาราษฎร์เป็นสำคัญ โดยมีพระราชประสงค์ที่จะสนองพระราชปณิธานในสมเด็จพระบรมชนกนาถ ด้วยการสืบสาน รักษา และต่อยอดศาสตร์พระราชา และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และประเทศชาติเจริญก้าวหน้า มั่นคง อาทิ พระราชทานความสุขแก่ประชาชน โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ใช้พระลานพระราชวังดุสิต จัดการแสดงดนตรี โดยมีวงดนตรีจากหน่วยงานต่างๆ หมุนเวียนกันมาจัดแสดง จัดงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รวมถึงเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของชาติ เผยแพร่ความงดงามของความเป็นไทย และวิถีชีวิตของคนไทยในอดีตถึงปัจจุบัน

ทรงส่งเสริมวัฒนธรรม-ห่วงใยปชช.

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่าทรงส่งเสริม สืบสานศิลปวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชาติ ได้แก่ งานเถลิงศก สุขสันต์ มหาสงกรานต์ ตำนานไทย งานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ มีพระราชดำริให้ดำเนินโครงการจิตอาสาเราทำความดี ด้วยหัวใจ เพื่อบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ในพื้นที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพมหานคร และทุกจังหวัดทั่วประเทศ ในการบรรเทาความเดือดร้อนและแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชน อีกทั้งสร้างสานสัมพันธ์ระหว่างข้าราชบริพาร หน่วยงานในพระองค์ หน่วยงานของรัฐ เอกชน และประชาชน ทรงห่วงใยประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนจากภัยพิบัติ รวมทั้งทหาร ตำรวจที่บาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ผู้แทนพระองค์ไปมอบสิ่งของพระราชทาน พร้อมเชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยและให้กำลังใจ สร้างความซาบซึ้งและปลาบปลื้มปีติแก่ทหาร ตำรวจ และประชาชนเป็นอย่างยิ่ง พระราชทานทุนการศึกษาแก่เด็กที่ยากจนและด้อยโอกาส มีรับสั่งให้องคมนตรีดูแล ติดตาม เรื่องการศึกษา เพื่อเสริมสร้างศักยภาพคนไทยให้มีพื้นฐานชีวิตที่เข้มแข็ง ตลอดจนพัฒนาระบบการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีพระราโชบายให้มหาวิทยาลัยราชภัฏผลิตครูที่มีคุณภาพและ ทำหน้าที่พัฒนาท้องถิ่น

เชิญชวนร้องเพลง”สดุดีจอมราชา”

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ทรงอุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนาและทุกๆ ศาสนาในประเทศ ทรงปลูกฝังให้ชาวไทยปฏิบัติธรรม สวดมนต์สรรเสริญคุณพระรัตนตรัยในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาและวันสำคัญอันเกี่ยวเนื่องกับสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเพื่อแสดงกตัญญุตาคุณ ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในความดีงาม สุจริต เที่ยงธรรม ทรง พระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดพิมพ์บทเจริญพระพุทธมนต์ และทรงออกแบบปกด้วยพระองค์เอง พระราชทานแก่ข้าราชบริพาร และประชาชน อีกทั้งเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงานเมาลิดกลางแห่งประเทศไทย ณ ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร เป็นต้น

“ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนม พรรษา 28 กรกฎาคม 2561 รัฐบาลขอเชิญชวนพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่ารวมใจเป็นหนึ่งเดียว แสดงพลังแห่งความจงรักภักดี ด้วยการร่วมขับร้องบทเพลง “สดุดีจอมราชา” โดยพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ ในพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน สถิตเป็นพระมิ่งขวัญ ปกเกล้าปกกระหม่อมอาณาประชาราษฎร์ตราบกาลนาน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

สุรินทร์ตักบาตรบนหลังช้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศวันอาสาฬหบูชาและเทศกาลเข้าพรรษาในจังหวัดต่างๆ ว่า ที่จ.สุรินทร์ บริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง อ.เมือง นายอรรถพร สิงหวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส จุดธูปเทียนไหว้พระ อาราธนาศีล โดยมีพระธรรมโมลี ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11 อดีตเจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ก่อนประกอบพิธีทำบุญตักบาตรบนหลังช้าง ประจำปี 2561 หลังจากเมื่อช่วงค่ำวานนี้จัดกิจกรรมแห่เทียนพรรษา 67 ไอยราเทิดไท้องค์ราชัน เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา และเพื่อส่งเสริมและสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชาวพุทธในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา

กระทุ่มแบนแห่เทียนทางน้ำ

ที่จ.สมุทรสาคร เทศบาลตำบลสวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จัดงานสืบสานประเพณีแห่เทียนทางน้ำ เฉลิมพระเกียรติ โดยมีนายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอกระทุ่มแบน เป็นประธานในพิธี จัดขบวนแพเรือ 3 แพ ประกอบไปด้วยแพเรือสุพรรณหงส์ (จำลอง) ประดิษฐานต้นเทียนขนาดใหญ่ แพเรือประดิษฐานพระพุทธรูป และนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และแพแสดงภูมิปัญญาชาวบ้านและวิถีชีวิตที่สำคัญของชาวตำบลสวนหลวง ร่วมด้วยขบวนเรือเทียนเล็กกว่า 50 ลำ

จิตอาสาร่วมกิจกรรมทำความดี

ส่วนที่จ.บุรีรัมย์ สาธารณสุขอำเภอเมืองบุรีรัมย์ ร่วมกับอำเภอเมือง และเทศบาลตำบลอิสาณ จัดกิจกรรมรวมพลังจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมือง โดย มีนายอนุสรณ์ แก้วกังวาล ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน รวมพลังจิตอาสาจากหลาย สาขาอาชีพกว่า 300 คน ออกทำกิจกรรมสาธารณ ประโยชน์

ที่อ.คลองใหญ่ จ.ตราด นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานเปิดกิจกรรม “จิตอาสา ทำความดี” โดยมีนายชัยวัฒน์ โอชนานนท์ นายอำเภอคลองใหญ่ ดำเนินการพร้อมหน่วยราชการ ทหาร ตำรวจ ภาคเอกชนและจิตอาสาร่วม พร้อมปลูกต้นรวงผึ้งและต้นกันเกรา จำนวน 2,010 ต้น ที่ถนนสายหาดบานชื่น ปล่อยพันธุ์กุ้งแชบ๊วยที่หน้าหาดบานชื่น และเก็บขยะ

ที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เปิดกิจกรรมจิตอาสา อำนวยความสะดวกการจราจรบริเวณถนนหน้าวัดโสธรวรารามวรวิหาร

ทัพเรือบริจาคโลหิต-ปล่อยเต่า

ด้านกองทัพเรือ โดยพล.ร.ท.บรรจบ โพธิ์แดง ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 นำกำลังพลจากทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมบริจาคโลหิต ณ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และจัดกิจกรรมพัฒนาทำความสะอาด ตัดแต่งกิ่งไม้ เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ ณ วัดช่องแสมสาร โดยในวันที่ 28 ก.ค. จะร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ณ สวนกรมหลวงชุมพรกองทัพเรือ ร่วมกิจกรรมปล่อยเต่าทะเลเฉลิมพระเกียรติ ณ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล

ชาวนาปลูกข้าวรูปเลขสิบไทย

ที่จ.สระบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเมธาสิทธิ์ นาคชม ชาวนาอายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144 หมู่ 4 ต.บ้านยาง อ.เสาไห้ ปลูกข้าวในเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ เป็นรูปเลขสิบไทย ด้านซ้ายและขวาเป็นรูปฉัตร 7 ชั้น ด้านล่างระบุคำว่า “ทรงพระเจริญ” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา

ที่วัดคลองวาฬพระอารามหลวง อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานประกอบพิธีบรรพชาอุปสมบทหมู่พระสงฆ์จำนวน 10 รูป และพิธีไถ่ชีวิตโค-กระบือ จำนวน 10 ตัว เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล

ที่มา ข่าวสดออนไลน์