ถอดรหัส 3 SME สุดเจ๋ง ทำอย่างไรให้เป็นเถ้าแก่ชั้นเทพ

????????????????????????????????????

ซีพี ออลล์ ร่วมกับ สมาคมการค้าเอสเอ็มอีและแฟรนไชส์ไทย และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จัดสัมมนาพิเศษ “ปลุกพลังเถ้าแก่ชั้นเทพ ครั้งที่ 2 ตอนถอดรหัสธุรกิจ 4DNA”  โดย วิทยากรผู้เชี่ยวชาญ และ 3 เถ้าแก่ยุคใหม่ที่ประสบความสำเร็จ พร้อมเผยแนวคิด ประสบการณ์ และสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรุ่นใหม่ สู่การค้นหาเอกลักษณ์ในโมเดลธุรกิจเพื่อสร้างความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร โดยได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมาร่วมงานจำนวนมาก

นายธานินทร์ บูรณมานิต กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ซีพี ออลล์ ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในประเทศไทย กล่าวว่า “ซีพี ออลล์มีนโยบายในการส่งเสริมและให้โอกาสผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และผู้ประกอบการที่ต้องการทำธุรกิจร้านเซเว่น อีเลฟเว่นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งถ่ายทอดองค์ความรู้ และประสบการณ์ด้านการทำธุรกิจร้านค้าปลีกยุคใหม่ ตลอดจนเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการและคนรุ่นใหม่ จึงได้ร่วมกับสมาคมการค้าเอสเอ็มอีและแฟรนไชส์ไทย และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จัดสัมมนาครั้งใหญ่ ประจำปี“ปลุกพลังเถ้าแก่ชั้นเทพ”

“บริษัทส่งเสริมและสนับสนุนสินค้าจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ผลิตสินค้าคุณภาพได้มาตรฐานและเป็นที่นิยมจากประชาชน โดยบริษัททำหน้าที่เป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้า พร้อมให้ความช่วยเหลือและคำแนะนำในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในด้านต่างๆ อาทิ การออกแบบแพ็คเกจจิ้ง การตลาด รวมไปถึงการช่วยควบคุมดูแลการสร้างโรงงานให้ได้มาตรฐาน” นายธานินทร์ กล่าว

ด้าน ดร.ธนธรรศ สนธีระ เจ้าของแบรนด์ “สโนว์เกิร์ล” สกินแคร์ยอดฮิตในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ที่ผันตัวจากพนักงานประจำสู่เถ้าแก่ร้อยล้าน ได้แบ่งปันประสบการณ์ไว้อย่างน่าสนใจว่า เริ่มต้นมาจากการเป็นพนักงานเงินเดือน แล้วผลิกผันตนเองเข้าสู่ธุรกิจสกินแคร์ เพราะแม่และครอบครัวเป็นแรงบันดาลใจสำคัญ หลังจากค้นพบสิ่งที่ตนเองชอบ จึงผลิตสินค้าโดยใช้วัตถุดิบพื้นบ้านของไทย ประกอบกับเป็นคนชอบค้นคว้าหาความรู้เพิ่ม ศึกษาผลิตภัณฑ์ เพื่อผลิตสินค้าให้ตรงกับความต้องการผู้บริโภค

“สิ่งแรกสุด คือ การมองหาตัวตนที่แท้จริงก่อนว่าเราคืออะไร หลังจากนั้นก็ดูว่าธุรกิจนั้นมีปัญหาอะไร เขาต้องการอะไร เพื่อที่จะมาผลิตสินค้านวัตกรรมและตรงตามความต้องการของผู้บริโภค นอกจากนี้ เรื่องช่องทางการจำหน่ายเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อ SME อย่างมาก เพราะต้องการกระจายสินค้าไปถึงผู้บริโภค จากที่เมื่อก่อนขายสินค้าในตลาดนัดและเช่าพื้นที่ตามสถานที่ต่างๆ กระทั่งวันหนึ่งที่ซีพี ออลล์ได้มอบโอกาสส่งเสริมสินค้าโอทอปเล็กๆ ให้สามารถขยายช่องทางการขายไปสู่ทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง และร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ทั่วประเทศ ด้วยความช่วยเหลือดังกล่าวทำให้ยอดขายสินค้าโตแบบก้าวกระโดด จากที่ขายได้ไม่กี่ร้อยชิ้น สู่หลักแสนชิ้นต่อเดือน” เถ้าแก่ 100 ล้านกล่าว

นอกจากนี้ ดร.ธนธรรศ ได้บอกถึงเคล็บลับในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ว่าจะต้องศึกษาความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า หาจุดอ่อนเพื่อนำมาพัฒนาให้เป็นจุดแข็ง ถัดมา คือความปลอดภัย เพราะผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อน การผลิตสินค้าต้องได้มาตรฐาน ผู้บริโภคใช้แล้วต้องปลอดภัย  สำหรับผลที่ได้รับจากการใช้ผลิตภัณฑ์ จะต้องตรงกับสิ่งที่ผู้ผลิตบอกไว้ หากใช้ไม่เห็นผลผู้บริโภคจะไม่ใช้ต่อ และถ้าเป็นสินค้ามีนวัตกรรมที่สร้างสรรค์ จะทำให้มีความแตกต่างและตรงความต้องการลูกค้ามากขึ้น  สุดท้ายผู้บริโภคต้องมีความสุขจากการใช้ผลิตภัณฑ์นั้นๆ

ด้านนายชรินทร์ ทัพชุมพล ผู้บริหารร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในจังหวัดกำแพงเพชร เล่าถึงจุดเริ่มต้นในการบริหารร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ว่า ก่อนหน้านี้ทำงานมาหลายอย่าง ทั้งช่วยครอบครัวบริหารธุรกิจผลไม้ เปิดร้านเกม และอู่ทำสีรถยนต์ แต่งานเหล่านั้นยังไม่ใช่สิ่งที่ชอบ อาจจะเป็นด้วยในวัยเด็กมีความฝันอยากเปิดร้านเซเว่น อีเลฟเว่นเป็นของตนเอง และสุดท้ายก็ได้เปิดร้านเซเว่น อีเลฟเว่นร้านแรกเป็นของตนเองเมื่ออายุเพียง 21 ปี โดยมีคุณแม่นันทิยาเป็นผู้สนับสนุนและเป็นกำลังใจในการบริหารจัดการธุรกิจมาโดยตลอด  ปัจจุบันบริหารร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ทั้งหมด 3 สาขา

“เมื่อได้เข้ามาบริหารร้านเซเว่นฯ ทางซีพี ออลล์ซึ่งเป็นบริษัทแม่จะมีทีมคอยช่วยเหลือและให้คำปรึกษา มีการบริหารจัดการที่เป็นระบบมีความเป็นมืออาชีพ  ทำให้มีความมั่นใจในการทำธุรกิจนี้ และยังได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพื่อปรับตัวให้ทันกับความต้องการของผู้บริโภคอยู่เสมอ ” นางนันทิยา ทัพชุมพล ผู้เป็นแม่กล่าวเสริม

อีกทั้งมีแนวคิดในการบริหารจัดการธุรกิจที่น่าสนใจ คือ ทุกการทำงานต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน  มีทัศนคติด้านบวก พยายามเรียนรู้กับผู้ที่ประสบความสำเร็จ แล้วนำมาปรับใช้กับการดำเนินธุรกิจ รวมถึงมีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์

มาฟังอีกหนึ่งเถ้าแก่ชั้นเทพ นายภเดช กันตจินดา ผู้บริหารรุ่นใหม่ จากนิตยาไก่ย่าง จำนวน 14 สาขา ผู้สานต่อธุรกิจครอบครัว เล่าว่า ไก่ย่าง ส้มตำ เป็นอาหารที่คนไทยส่วนใหญ่ชอบและรับประทานได้ทุกมื้อ จึงมองเห็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจ โดยต้องควบคุม รักษามาตรฐาน และรสชาติอาหารให้ดีอยู่เสมอ สำหรับการสืบทอดธุรกิจของครอบครัว ทำให้ได้เรียนรู้และปรับตัวค่อนข้างเยอะ เนื่องจากต้องรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่า ทั้งผู้จัดการร้าน พนักงานและพ่อครัว แล้วนำไปประยุกต์ใช้กับความรู้ที่มี เมื่อพบปัญหาก็ต้องรีบลงมือแก้ไข พร้อมฟังเสียงคอมเมนต์จากลูกค้าและน้อมรับข้อเสนอแนะนำไปพัฒนา เพราะต้องการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า

“หลักในการบริหารธุรกิจนิตยาไก่ย่างให้ประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ คือ การส่งมอบอาหารและบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าในราคาที่คุ้มค่า การใส่ใจทุกรายละเอียด ทั้งวัตถุดิบ เครื่องปรุงต่างๆ ต้องทำให้ถูกต้องครบทุกขั้นตอน มีความมุ่งมั่น และตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน” ทายาทธุรกิจนิตยาไก่ย่าง แบ่งปันเคล็ดลับความสำเร็จของเถ้าแก่ชั้นเทพ

ประสบการณ์และข้อคิดจากเถ้าแก่ที่ประสบความสำเร็จ ถือเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เพียงแค่นำมาประยุกต์ใช้ มองหาสิ่งที่ใช่ สร้างความแตกต่าง และกล้าที่จะลงมือทำ เพื่อสร้างสรรค์สินค้าและบริการที่ตรงความต้องการของผู้บริโภค ความสำเร็จที่ได้มาก็คงไม่ไกลเกินเอื้อม