นายกฯ สั่งฟันร้านธงฟ้าเรียกเก็บแวตเพิ่ม ข้อหาฉ้อโกง หลังริบเครื่อง-ยึดสิทธิธงฟ้า

พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติพิจารณาการใช้จ่ายวงเงินผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) และแก้ไขปัญหาเพื่อปลดล็อกอุปสรรคของการใช้บัตร ดังนี้คือ กระทรวงพาณิชย์ได้รับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ กรณีร้านธงฟ้าเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้บัตรคนจนในการซื้อสินค้าอุปโภค บริโภค โดยอ้างว่าต้องนำไปจ่ายค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) 7% เรื่องนี้ถือเป็นการฉ้อโกง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซีเรียสเรื่องนี้มาก สั่งให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการเด็ดขาด

“กรณีร้านธงฟ้า เรียกเก็บเงินเพิ่มเติมจากผู้ใช้บัตรคนจนซื้อของ โดยอ้างว่าต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เรื่องนี้ นายกฯ สอบถามกระทรวงพาณิชย์ว่าดำเนินการอย่างไร กระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงว่าเรื่องนี้ได้ยกเลิกสิทธิร้านธงฟ้า และยึดเครื่องรูดบัตรคนจน หรือเครื่องอีดีซี คืนแล้วบางส่วน แต่เรื่องนี้นายกฯ กำชับว่า ไม่ควรดำเนินการเพียงการยึดคืนเครื่อง หรือเรียกคืนสิทธิ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องฉ้อโกง ควรดำเนินการขั้นเด็ดขาด ในคดีการฉ้อโกงด้วย”

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า นอกจากนี้ ครม. ยังอนุมัติการเชื่อมข้อมูลผู้ถือบัตรคนจนและมารดาที่รับเงินค่าเลี้ยงดูบุตรตั้งแต่แรกเกิดถึง 3 ขวบในอัตรา 600 บาท/เดือน เพราะตามสิทธิแล้วผู้ที่ใด้รับค่าเลี้ยงดูบุตร 600 บาท/เดือน ถือว่าเป็นผู้มีรายได้เข้าเกณฑ์ผู้มีรายได้น้อย และมีสิทธิได้รับบัตรคนจน แต่เมื่อกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) สำรวจกลับมีมารดาที่ได้รับค่าเลี้ยงดูบุตร แต่ไม่มีบัตรและไม่อยู่ในทะเบียนผู้มีสิทธิถือบัตรคนจน 2.11 แสนคน จึงมีการขอขยายระยะเวลาลงทะเบียนบัตรคนจนสำหรับกรณีนี้ให้สิ้นสุด 31 มี.ค. 2561 แต่เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาให้ลงทะเบียนกลับมีคนมาลงทะเบียนเพียง 6.25 หมื่นคน หรือ 29% ของทั้งหมด วันนี้ ครม. จึงขยายเวลาการลงทะเบียนไปให้จนถึง 31 ก.ย. 2561 หากผู้ที่ได้รับเงินอุดหนุนค่าเลี้ยงดูบุตรไม่มาเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาที่ขยายให้ จะไม่ได้รับเงิน 600 บาทค่าเลี้ยงดูบุตร

ส่วนสิทธิประโยชน์ของผู้ถือบัตรคนจน ขณะนี้คนที่มีบัตรคนจนสามารถใช้ชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีม่วงได้ตั้งแต่ 20 ก.ค. 2561 เป็นต้นไป โดยให้นำบัตรไปลงทะเบียนที่สถานีรถไฟฟ้า และ 1 ต.ค. 2561 เป็นต้นไป จะสามารถใช้บัตรเพื่อใช้บริการจ่ายค่าขึ้นรถขสมก. รถไฟฟ้าใต้ดิน และแอร์พอร์ตลิงก์ ยกเว้นบีทีเอส เพราะเป็นคู่สัญญากับกทม. ไม่ใช่กระทรวงคมนาคม จึงต้องรอการพัฒนาต่อไป

สำหรับวงเงินในบัตรคนจนสามารถใช้ในการค่าขนส่งได้เดือนละ 500 บาท ที่ผ่านมาพบอุปสรรคการใช้บัตร คือ วงเงินในบัตรคงเหลือ แต่ไม่พอสำหรับการใช้เพื่อค่าขนส่ง ค่ารถไฟฟ้าในรอบนั้นๆ ทางครม. อนุมัติให้สามารถใช้เกินได้เดือนละ 1 ครั้ง โดยวงเงินที่เกินจากวงเงิน 500 บาท จะถูกหักจากยอดวงเงินที่ได้ประจำในเดือดถัดไป

อย่างไรก็ตาม การให้การช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คนที่มีรายได้น้อยได้รับบัตรสวัสดิการ มี 2 กลุ่ม 1. กลุ่มที่มีรายได้น้อยไม่เกิน 1 แสนบาท/ปี 2. กลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาท/ปีทั้ง 2 กลุ่มจะได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและมีสิทธิประโยชน์ วันนี้ตรวจสอบพบว่า ผู้ลงทะเบียน 11.47 ล้านใบ มีผู้มาขอรับบัตรไปแล้ว 11.06 ล้านใบ หรือ 96% รัฐบาลขอให้ผู้ได้รับบัตรมารับบัตรเพื่อใช้ในการดำเนินชีวิต ส่วนของร้านค้าที่จำหน่ายสินค้า ที่ภาครัฐจะมีการติดเครื่อง อีดีซี ให้ 4.56 หมื่นเครื่อง ขณะนี้ทำติดตั้งเครื่องไปแล้ว 3.04 หมื่นเครื่อง เหลือ 1.5 หมื่นเครื่องยังติดตั้งไม่เสร็จ จึงให้ร้านค้าที่ยังไม่ได้รับเครื่องให้ไปโหลดแอพพลิเคชั่น ที่ธนาคารกรุงไทย เพราะแอพพลิเคชั่นนี้จะสามารถอ่านข้อมูลในบัตรคนจนได้ การโหลดแอพพลิเคชั่น เพื่อมาให้บริการกับผู้ถือบัตร จะใช้ได้จนกว่าเครื่องอีดีซีจะติดตั้งแล้วเสร็จ

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์