“ในหลวง” ทรงขอบใจทุกคนช่วยทีมหมูป่า-ทรงให้ใช้เป็นบทเรียน

“ในหลวง” ทรงมีพระราชกระแส ทรงขอบใจชื่นชมยินดียิ่งนัก ปฏิบัติการช่วยเหลือ 13 ชีวิต ทีมหมูป่า ประสบความสำเร็จงดงาม ทรงหวังว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะเป็นเครื่องเตือนใจสำหรับทุกคน ส่วนทีมหมูป่าสำนึกบุญคุณเหล่าฮีโร่ รอออกจากร.พ.พร้อมกัน แล้วจะบวช 9 วัน

บรรยากาศการให้การต้อนรับทีมงานสูบน้ำท่อซิ่งที่จ.นครปฐม

ปลัดสธ.เผยอาการดีขึ้น ตรวจเลือดไม่พบโรคอุบัติใหม่ ด้านฮอลลีวู้ดลงพื้นที่เชียงราย หาข้อมูลสร้างหนัง ม.รามฯ ให้ทุนเรียนฟรี ลูกเกษตรกรพื้นที่รับน้ำถ้ำหลวงผู้เสียสละ

เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่บริเวณปากทางเข้าวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ไม่มีการขนย้ายอุปกรณ์หนักออกจากพื้นที่เพิ่มเติมแล้ว ภายหลังภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตนักบอลเยาวชนและโค้ชทีมหมูป่า อะคาเดมี แม่สาย ออกจากถ้ำเป็นผลสำเร็จ มีเพียงเจ้าหน้าที่วนอุทยาน และตำรวจ สภ.แม่สาย ดูแลบริเวณทางเข้าออกอย่างเข้มงวดเท่านั้น ขณะที่อบต.โป่งผา เปิดให้ประชาชนเข้าสมัครเป็นจิตอาสา เข้าร่วมโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ปรากฏว่ามีผู้มาสมัครแล้วประมาณ 1,000 คน

ส่วนที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง อ.เมือง จ.เชียงราย นายวิสูตร คำยอด ผอ.ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ต้อนรับและร่วมกันส่ง นพ.ริชาร์ด แฮร์ริส ผู้เชี่ยวชาญดำน้ำในถ้ำชาวออสเตรเลีย และคณะเดินทางกลับประเทศออสเตรเลีย เพื่อกลับไปร่วมพิธีศพคุณพ่อที่เสียชีวิต ขณะนพ.ริชาร์ดปฏิบัติภารกิจกู้ภัยอยู่ที่ถ้ำหลวง เมื่อวันที่ 10 ก.ค.

สำหรับความคืบหน้าอาการ 13 ชีวิตทีมหมูป่านั้น ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าอาการโดยรวมทั้ง 13 คนดีขึ้น ส่วน 3 รายที่ปอดอักเสบก็ดีขึ้น ไม่มีอะไรน่าห่วง แต่ยังต้องดูอาการ และผลเลือดภายใน 7 วัน เมื่อครบกำหนดจะประเมินอีกครั้งใน 4 คนชุดแรกที่ออกมา และจะทยอยดูอาการต่อไป ส่วนใหญ่ผลเลือดที่ส่งตรวจในเชิงลึกที่ ร.พ.จุฬาลงกรณ์ ยังไม่พบว่ามีโรคอุบัติใหม่ สำหรับการอนุญาตให้เด็กๆ ชมฟุตบอลโลกนัดชิงชนะเลิศได้หรือไม่นั้น ต้องปรึกษาจิตแพทย์ก่อน แต่คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

หมอแฮร์ริส พร้อมคณะนักดำน้ำในถ้ำ ในวันเดินทางกลับออสเตรเลีย

นพ.เจษฎากล่าวว่า ส่วนการประเมินสุขภาพจิตพบว่าสุขภาพจิตดี แต่ยังเป็นห่วงเรื่องการกลับไปอยู่ในสังคม และพบกับสื่อที่อาจเข้ามาพูดคุยจำนวนมาก อาจถามคำถามซ้ำๆ จึงให้จิตแพทย์เข้าไปดูแล พร้อมกับวางแผน โดยให้ความรู้ครอบครัวและเด็กในการปฏิบัติตัวในสังคมและกับสื่อ เมื่อออกจาก ร.พ.แล้วในเบื้องต้นจะมีร.พ.ใกล้บ้าน รวมทั้งร.พ.ส่งเสริมสุขภาพตำบล หรืออาสาสมัครหมู่บ้านเข้าไปช่วยดูแล และจะมีจิตแพทย์เข้าลงไปติดตามเรื่องสุขภาพจิตเป็นระยะ ขึ้นอยู่กับการประเมินว่าจะติดตามบ่อยแค่ไหน

ผู้สื่อข่าวถามกรณีสื่อต่างประเทศรายงานข่าวว่ามีการให้ยาสลบเด็ก ขณะนำออกจากถ้ำ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า เราต้อง การให้เด็กอยู่ในภาวะสงบในระหว่างช่วยเหลือออกมาได้ เพราะเป็นห่วงว่าเด็กจะตื่นเต้นตกใจ เมื่อถามว่าเป็นยาคลายเครียดหรือไม่ นพ.เจษฎากล่าวว่าก็ทำนองนั้น ส่วนรายละเอียดต้องถามแพทย์ว่าให้อย่างไร แต่เชื่อว่าไม่ร้ายแรง ซึ่งยาทั่วไปเรียกว่าเป็นยาอันตรายทั้งนั้น แต่เมื่ออยู่ในการดูแลของแพทย์ที่ชำนาญดูแลตลอด ก็ไม่มีอะไร

ขณะที่ น.ส.สาริษา พรมจักร์ น้าของ “น้องโน๊ต” ด.ช.ประจักษ์ สุธรรม อายุ 14 ปี หนึ่งในสมาชิกทีมหมูป่าติดถ้ำ กล่าวถึงอาการหลานชายว่า แข็งแรงดี ไม่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ กินอาหารปกติ ก๋วยเตี๋ยว ขนมปัง ทีมแพทย์นำเลือดไปตรวจว่าขาดสารอาหารอะไรบ้าง ยังคงให้กินอาหารรสอ่อนๆ น้องโน๊ตยังไม่รู้เรื่องความวุ่นวายที่อยู่ในถ้ำ รู้แต่ว่าไปเที่ยวถ้ำ ติดอยู่ในถ้ำหลายวัน แล้วมีคนมาช่วยพาออกจากถ้ำ แล้วก็พาส่งร.พ.

น้าสาวน้องโน๊ตกล่าวว่า ขณะนี้ทางทีมแพทย์ไม่ให้เด็กๆ ได้ทราบข่าวสารจากภายนอก เนื่องจากสภาพจิตใจยังไม่พร้อม จึงเปิดข่าวสารเกี่ยวกับฟุตบอลย้อนหลังให้ดู หรือให้ดูในสิ่งที่เด็กๆ ชอบ เป็นจิตวิทยาการดูแลจิตใจของทีมแพทย์เพื่อให้ผ่อนคลาย น้องโน๊ตบอกกับครอบครัวว่าจะรอออกมา จากร.พ.มาพร้อมกับทีมหมูป่าทั้งหมด 13 คน จะไม่มีใครออกมาคนแรกเด็ดขาด หลังจากน้องโน๊ตออกจากร.พ. ต้องเรียนหนังสือ เล่นกีฬา และใช้ชีวิตปกติ ส่วนเรื่องบวชนั้น ผู้ปกครองทุกคนคิดว่าจะให้บวชที่วัดเดียวกัน เวลา 9 วัน สำนึกบุญคุณผู้ช่วยชีวิต และอุทิศส่วนกุศลให้ จ.อ.สมาน กุนัน หรือจ่าแซม ที่เสียชีวิตขณะกู้ภัย

“ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยเหลือน้องๆ ทั้ง 13 คน ทำให้ได้เห็นถึงความรักของคนทั้งโลก ครอบครัวจะดูแลน้องโน๊ตอย่างดี บทเรียนนี้ล้ำค่า ในอนาคตน้องโน๊ตจะได้เรียนรู้การใช้ชีวิตที่อยู่ในถ้ำ จะเป็นบทเรียนที่เป็นประโยชน์แก่คนทั้งโลก และเป็นประโยชน์ต่อคนที่อยู่ใกล้ถ้ำ” น้าน้องโน๊ตกล่าว

ที่องค์พระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม นาย สุพจน์ ยศสิงห์คำ รองผวจ.นครปฐม พร้อมด้วยคณะจัดพิธีต้อนรับทีมสูบน้ำท่อซิ่งพญานาค ที่เดินทางกลับจากปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่า โดยมีประชาชนจำนวนมากมาร่วมต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ มีคณะแห่กลองยาว ตีกลองส่งเสียงร้องเพลงต้อนรับกันอย่างคึกคัก

ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการขอสัญชาติไทยให้โค้ช และเด็กอีก 2 คนในทีมหมูป่าว่าเป็นเรื่องของกระทรวงมหาดไทย คิดว่าต้องทัดเทียมกันหมด ทุกอย่างเป็นตามระเบียบ

ส่วนร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่าเข้าใจว่าขณะนี้อยู่ในช่วงยื่นคำร้องขอสัญชาติ และตรวจสอบข้อมูลเอกสารต่างๆ ตามมาตรา 7 ทวิ พ.ร.บ.สัญชาติฯ ดำเนินไปตามขั้นตอนปกติ ไม่ได้ให้สิทธิพิเศษอะไร ความจริงแล้วเรื่องนี้เป็นอำนาจของรัฐมนตรี แต่รัฐมนตรีมอบให้จังหวัด และอำเภอดำเนินการ หากเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ให้นายอำเภอมีอำนาจอนุมัติ แต่หากอายุเกินกว่า 18 ปี ให้ผู้ว่าฯ มีอำนาจอนุมัติ โดยจะต้องตรวจสอบคุณสมบัติ ทั้งของเด็กและพ่อแม่ ตลอดจนหลักฐานการเกิด หนังสือรับรอง และเอกสารต่างๆ ด้วย

ขณะเดียวกัน อินดิเพนเดนต์รายงานว่า ล่าสุดมีสตูดิโอสร้างหนังชื่อดังของฮอลลีวู้ด แสดงความสนใจสร้างหนังเกี่ยวกับเหตุการณ์ ช่วยเหลือ 13 ชีวิตติดถ้ำแล้ว คือค่ายเพียวฟิกซ์ โดยนายไมเคิล สก็อต โปรดิวเซอร์ ได้ลงพื้นที่ จ.เชียงราย แล้ว และบริษัทเครซีริชเอเชียน ก็แสดงความสนใจสร้างหนังเรื่องนี้เช่นกัน โดยได้ผู้กำกับชื่อดัง จอน เอ็ม. ชู สนใจมากำกับ

โดยจอน เอ็ม. ชู ผู้กำกับเชื้อสายเอเชีย ได้ทวีตข้อความแสดงความสนใจ ระบุว่าจะไม่ยอมให้ฮอลลีวู้ดเอานักแสดงผิวขาวมาแสดงเป็นเด็กๆ ทีมหมูป่าโดยเด็ดขาด เพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับมนุษย์ช่วยเหลือกัน เป็นเรื่องสวยงาม ต้องทำหนังให้เหมาะสมและให้เกียรติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจาก 2 ค่ายหนังที่แสดงความสนใจแล้ว ล่าสุด น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าได้รับรายงานว่านายธานี แสงรัตน์ กงสุลใหญ่ไทย ณ นครลอสแองเจลิส รายงานว่า บริษัทครีเอทีฟ ทาเลนต์ เอเจนซี ติดต่อว่าจะขอมาพบกงสุลใหญ่ในวันที่ 13 ก.ค.นี้ ตามเวลาในสหรัฐ เพื่อจะขอให้บริษัทมาเมืองไทย เพื่อหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการสร้างภาพยนตร์ทีมหมูป่า

เวลา 19.20 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) ว่า ประชาชนชาวไทยที่รักทุกคน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชกระแสทรงขอบใจชื่นชมยินดียิ่งนัก ที่ปฏิบัติการช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนและผู้ฝึกสอนทีม หมูป่าอะคาเดมีออกจากถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

ในการนี้ทรงมีพระราชกระแส ความว่า “น่าชื่นชมยินดียิ่งนัก ที่ปฏิบัติการช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนและผู้ฝึกสอนทีมหมูป่าอะคาเดมีออกจากถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2561

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นเรื่องสุดวิสัย และไม่มีผู้ใดคาดคิด ปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือ จึงต้องกระทำอย่างปัจจุบันและเร่งด่วน แต่ทุกคนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็สามารถบริหารจัดการสถานการณ์ได้อย่างดีเยี่ยม และทุกภาคส่วนก็ระดมสรรพกำลังกันมาช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ ต่างยอมเสียสละกำลังกาย กำลังปัญญา กำลังทรัพย์ และยอมสละแม้ชีวิตของตน

ส่วนผู้ประสบภัยนั้น ต่างก็ดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี ตลอดระยะเวลาที่เกิดเหตุ ประกอบกับการที่ประชาชนทั่วโลกก็ส่งกำลังใจมายังผู้ประสบภัยและผู้ปฏิบัติการช่วยเหลืออย่างท่วมท้น จึงกล่าวได้ว่า ปฏิบัติการครั้งนี้แม้จะมีความยากลำบาก แต่ก็มีสิ่งที่ดีและมีคุณค่าบังเกิดขึ้นอย่างไม่อาจประมาณได้

ข้าพเจ้าขอขอบใจทุกคนทุกฝ่ายเป็นอย่างยิ่ง และหวังว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะเป็นเครื่องเตือนใจที่จะทำให้ทุกคนได้เรียนรู้จากประสบการณ์ว่า การบริหารจัดการที่ดี การใช้ความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ ให้พอเหมาะพอดีกับสถานการณ์ การปฏิบัติตนและปฏิบัติการอย่างรอบคอบ มีวินัย มีสติ

ตลอดจนการรู้หน้าที่ของตน และปฏิบัติหน้าที่ให้ประสานส่งเสริมกับทุกคนทุกฝ่ายโดยเต็มกำลัง เป็นเครื่องมืออย่างสำคัญ ที่จะสามารถนำไปใช้แก้ไขอุปสรรคปัญหา รวมทั้งพัฒนาบ้านเมืองของเราได้ และการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ด้วยความรักความปรารถนาดีต่อกันนั้น เป็นพลังอันยิ่งใหญ่ ที่จะทำให้มวลมนุษยชาติอยู่ร่วมกันได้อย่างผาสุกยั่งยืนตลอดไป”