เผยแพร่ |
---|
ถ้ำหลวง / จากกรณีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (นสร.) หรือ หน่วยซีล กู้ภัย และอื่นๆ ที่ร่วมภารกิจปฏิบัติการช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่า และผู้ฝึกสอน รวม 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย อย่างแข็งขันตลอด 24 ชั่วโมง และเมื่อเย็นวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา สามารถนำน้องๆ ออกจากถ้ำมาได้แล้วจำนวน 4 คน เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย แล้วนั้น
วันที่ 9 ก.ค. เดลี่เมล์ เปิดเผย แผนการช่วยเหลือเด็กๆ และโค้ชทีมหมูป่าออกจากถ้ำหลวงว่า นายแพทย์ริชาร์ด แฮร์ริส วิสัญญีแพทย์และนักสำรวจถ้ำชาวออสเตรเลีย อายุ 53 ปี หนึ่งในเจ้าหน้าที่ทีมช่วยเหลือ ผู้อยู่เบื้องหลังการปรับเปลี่ยนแผนพาเด็กที่มีร่างกายอ่อนแอที่สุดออกจากถ้ำก่อน แทนแผนการเดิมที่จะนำเด็กซึ่งมีร่างกายแข็งแรงที่สุดออกจากถ้ำระหว่างรอให้เด็กในกลุ่มอ่อนแอได้พักฟื้นและสร้างความเข้มแข็งพอที่จะดำน้ำออกมาได้
อย่างไรก็ตาม นายแพทย์แฮร์ริส ระบุว่า หากปล่อยให้เด็กที่อ่อนแอ รออยู่ในถ้ำซึ่งสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยต่อไป ก็เกรงว่าเด็กๆ กลุ่มดังกล่าวอาจไม่รอดชีวิต จึงตัดสินใจโน้มน้าวกระทั่งทีมเจ้าหน้าที่ไทยเห็นพ้องและเปลี่ยนปฏิบัติเป็นนำตัวเด็กที่อ่อนแอออกมาได้ในที่สุด
ทั้งนี้ นายแพทย์แฮร์ริส ได้รับการร้องขอจากนักดำน้ำชาวอังกฤษให้ร่วมทีมนาวิกโยธินหน่วยซีลของไทย และทีมนักดำน้ำชาวออสเตรเลียอีก 18 คนในภารกิจช่วยเหลือทีมหมูป่า เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญในการดำน้ำมานานกว่า 30 ปี และยังคุ้นเคยการทำงานช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ภายในถ้ำมาอย่างโชกโชน
โดยหนึ่งในภารกิจสร้างชื่อให้กับนายแพทย์แฮร์ริส คือ การนำร่าง น.ส.แอ๊กเนส มิโลว์กา นักดำน้ำสตั๊นท์ที่ขาดอากาศหายใจขณะดำน้ำในถ้ำแทงก์เคฟ เมืองทันตานูลา ทางตอนใต้ของออสเตรเลีย เมื่อปี 2554 นอกจากนี้ นายแพทย์แฮร์ริส ยังเป็นหนึ่งในนักดำน้ำสำรวจถ้ำหลายแห่งในออสเตรเลีย เกาะคริสต์มาส นิวซีแลนด์ และจีน
ที่มา ข่าวสดออนไลน์