ผบ.ซีลเล่านาที‘จ่าแซม’วูบหมดสติ หลังดำน้ำหฤโหด 12 ชม.ปั๊มหัวใจสุดยื้อชีวิต

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ก.ค. ที่วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายภาสกร บุญญลักษม์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ร่วมกับ พล.ร.ต.อาภากรณ์ อยู่คงแก้ว ผบ.หน่วยซีล, พล.ต.ฉลองชัย ชัยยะคำ รองแม่ทัพภาคที่ 3 และ พล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าการนำทีมหมูป่า ทั้ง 13 รายออกจากถ้ำ พร้อมแสดงความเสียใจกับ จ.อ.สมาน กุนัน นักทำลายใต้น้ำจู่โจมนอกราชการ ซึ่งเป็น นทต.จู่โจม รุ่น 30 อายุ 38 ปี ที่เสียชีวิตในถ้ำหลวงขณะปฏิบัติหน้าที่

หน่วยซีลขณะปฏิบัติหน้าที่

พล.ร.ต.อาภากรณ์ กล่าวว่า ในส่วนการช่วยเหลือนั้น มีปัญหาคือช่องทางที่เข้าถึงคือการเข้าทางปากถ้ำเป็นเส้นทางเดียว โดยขณะนี้ไปตั้งกองบัญชาการในถ้ำบริเวณโถง 3 โดยจากโถง 3 ไปถึงบริเวณเนินนมสาว ระยะทาง 1,700 เมตร ซึ่งเป็นระยะทางที่ไม่ง่าย เป็นภารกิจที่โหดมาก โดยเมื่อคืนวางแผนเอาออกซิเจนไปยังบริเวณที่ 13 ชีวิตอยู่ โดยระยะ 1,700 เมตร ขาไปใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง ขากลับอีก 5-6 ชั่วโมง เป็นเวลา 12 ชั่วโมง ที่ต้องอยู่ในน้ำ เป็นภาวะที่เราก็ไม่เคยเจอมาก่อน

ผบ.หน่วยซีลแถลง

ยืนยันไม่ใช่การทำโดยบ้าบิ่น ไม่มีแผน แต่เราก็รออะไรไม่ได้ เพราะสถานการณ์บีบคั้น ตอนแรกคิดว่าน้องสามารถประทังชีวิตได้นาน แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป ขณะนี้ต้องวางขวดอากาศ โดยนักดำน้ำ 1 คนต้องติดขวดอากาศไป 3 ถัง สำหรับผู้เสียชีวิตเคยจบซีล และทำงานที่หน่วยหลายปี ปัจจุบันลาออกไปทำงานที่สุวรรณภูมิ ต้องขอขอบคุณการท่าอากาศยานที่อนุญาตให้มาช่วย โดยขณะนี้มีอดีตซีลเป็นอาสาสมัครช่วยงาน ซึ่งเป็นผู้สนับสนุน โดยจ.อ.สมาน ทำหน้าที่นำขวดอากาศไปวางรายทาง แต่สภาพในถ้ำค่อนข้างโหด เมื่อวางเสร็จ จ.อ.สมานกำลังกลับ เกิดขาดอากาศ คู่บัดดี้พยายามปฐมพยาบาลปั๊มหัวใจอยู่เกือบชม. แต่ไม่รู้สึกตัว ก็เอากลับมาที่โถง 3 ปฐมพยาบาลต่อ แต่ก็ยังไม่รู้สึกตัว ก่อนเสียชีวิตประมาณ 01.00 น.

“สืบเนื่องจากเมื่อคืน มีข่าวว่า ทีมกู้ภัย ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะทำงานของหน่วยซีล ซึ่งเป็นอดีตหน่วยซีล ที่ลาออกไป ซึ่งปฏิบัติภารกิจ คือนำขวดกู้ภัยนำขวดอากาศเข้าไปวางตามจุด เมื่อนำไปวางตามจุด ระหว่างทางขากลับ นักทำลายใต้น้ำจู่โจมนอกราชการ อดีตหน่วยซีล ที่รับภารกิจให้ลำเลียงขวดอากาศจากโถง 3 ภายในถ้ำหลวง ไปยังจุดต่างๆ บริเวณสามแยก ตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 ก.ค. โดยเริ่มดำน้ำ ตั้งแต่เวลา 20.37 น. เมื่อเสร็จภารกิจ ขณะดำน้ำกลับ ได้หมดสติในน้ำ คู่ดำน้ำได้ปฐมพยาบาล (CPR) แต่ไม่ได้สติ จึงนำกลับมายังโถง 3 เพื่อปฐมพยาบาลอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้สติและเสียชีวิตลงเวลาประมาณ 01.00 น. ที่ผ่านมา

“การปฏิบัติงานของหน่วยยังดำเนินการต่อ เพราะเราฝึกมาให้ทำงานในความเสี่ยง ไม่ว่าความเจ็บป่วยหรือเสียชีวิต เป็นสิ่งที่เราต้องเผชิญ เพราะเราฝึกมาอย่างนี้ ขอยืนยันไม่เคยเสียขวัญ กำลังพลยังคงฮึกเหิม คนเสียชีวิตไปจะไม่สูญเปล่า ขอยืนยันหนทางที่น้องออก ต้องปลอดภัยที่สุด ในส่วนของเรื่องอากาศที่ลดลง มีอากาศประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ หมอภาคย์อยู่กับน้องๆ ยังคงดูแลทีมหมูป่าอย่างใกล้ชิด พยายามหาหนทางออกหลายช่องทาง น้องๆ ที่ออกมา จะเลือกหนทางที่ทีมหมูป่าจะปลอดภัยที่สุด” ผบ.หน่วยซีล กล่าว

พล.ต.ฉลองชัย กล่าวว่า ปัจจัยด้านเวลา เป็นตัวกำหนดให้ปรับแผนตลอดเวลา โดยภารกิจที่เร่งด่วนที่สุด คือนำท่ออากาศเข้าไปจุดเนินนมสาวให้เร็วที่สุด ส่วนด้านบนจะเห็นเฮลิคอปเตอร์บินตลอดเวลา เนื่องจากเรามีการสำรวจโพรงตลอด เราทำทุกวิถีทาง ส่วนการเบี่ยงเบนทางน้ำ เรายังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

ด้าน พล.ต.บัญชา กล่าวว่า ส่วนการพร่องน้ำ ยังคงดำเนิน เริ่มค้นหาตาน้ำรอบฐานเขา วันนี้จะส่งทีมลงไปสแกนรูตาน้ำ และอุดรู เพราะเรากลัวว่าฝนจะมาอีก ขณะเดียวกันน้ำในถ้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง โถงที่ 1-3 สามารถเดินได้แล้ว

ที่มา ข่าวสดออนไลน์