รีสอร์ทดังลำปางรุกที่ป่าสงวนป่าแม่จาง 43 ไร่

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป.19 (แม่ทะ) ทหารมณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสรุศักดิ์มนตรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. สายที่ 1 ลำปาง เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) เจ้าหน้าที่ส่วนป้องกันและปราบปราม ภาคเหนือ กรมป่าไม้ ตำรวจ ศปทส.ภ.5 สายที่ 1 ลำปาง ตำรวจ กก.ตชด.ที่ 33 เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จังหวัดลำปาง เข้าตรวจสอบพื้นที่ไร่วิลาวัลย์ รีสอร์ท ท้องที่หมู่ 2 ต.หัวเสือ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง หลังได้รับแจ้งและร้องเรียนผ่านไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำปางว่า พื้นที่ดังกล่าวบุกรุกพื้นที่ป่า และก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกทำให้เกิดความเสียหายแก่ผืนป่า

201610061538441-20080612161324

ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้พบกับนายทวีศักดิ์ จะวะนะ อายุ 27 ปี แสดงตัวเป็นผู้จัดการ ไร่วิลาวัลย์ รีสอร์ท พร้อมทั้งนำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสถานที่ภายในทั้งหมด เบื้องต้นพบมีการก่อสร้างห้องพักแล้วเสร็จไป 5 ห้อง สามารถเปิดใช้บริการได้ 3 ห้อง อีก 2 ห้อง ยังรอการตกแต่งภายใน นอกจากนี้ ยังมีการขุดบ่อเลี้ยงปลาขนาดใหญ่ 2 บ่อ มีการสร้างบ้านพักอาศัยและ ศาลาบริการที่พัก บริการอาหารและเครื่องดื่ม

201610061539043-20080612161324

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ จึงให้นำหลักฐานการครอบสิทธิ์ที่ดินมาแสดงพบว่า มีเพียงใบ ภ.บ.ท.5 ภาษีบำรุงท้องที่ ซึ่งไม่มีทั้งสปก.หรือโฉนดที่ดิน แต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่จึงเดินตรวจสอบแนวเขตพื้นที่ที่ได้ครอบครองและทำประโยชน์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องมือตรวจวัดหาค่าพิกัดทางภูมิศาสตร์ โดยใช้สัญญาณผ่านดาวเทียม (GPS) ในระบบระบบพิกัดกริด (UTM) WGS 84 ตรวจวัดพิกัดรอบแปลง พื้นที่ทั้งหมดอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่จาง จำนวน 43 ไร่เศษ มูลค่าความเสียหายของรัฐ 3 ล้านกว่าบาท จึงบันทึกแจ้งข้อกล่าวหา พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 ประกอบ 72 ฐาน “ร่วมกันก่อสร้าง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต”ฯ แก่ผู้จัดการไร่วิลาวัลย์ รีสอร์ท ทันที พร้อมส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ทะ ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผืนนี้เป็นของพ่อตาของตน ที่ทำกินสืบต่อกันมาหลายปีแล้ว ล่าสุดลงทุนขุดบ่อปลาและสร้างที่พัก พร้อมกับเปิดร้านอาหารไปด้วยเพื่อหารายได้เพิ่ม โดยไม่คิดว่าจะเป็นการทำผิดกฎหมายและเพิงเปิดให้บริการห้องพักเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ด้านเจ้าหน้าที่ชี้แจงว่าแม้จะมีหลักฐานการเสียภาษีท้องถิ่นในที่ดินแห่งนี้ แต่ก็ไม่ใช่หลักฐานการถือครองที่ดิน อีกทั้งก็ยังทำผิดวัตถุประสงค์ของการครอบครองคือให้ทำเกษตรกรรม แต่กลับมาสร้างห้องพักและเปิดให้บริการทางธุรกิจ ถือว่าทำผิดวัตถุประสงค์ ดังนั้น จึงต้องดำเนินคดีทันที

ที่มา ข่าวสด