ผู้เขียน | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีนักฟุตบอลและโค้ชผู้ฝึกสอนทีมหมูป่าอคาเดมี 13 ชีวิต ติดในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา แล้วเกิดฝนตกหนักไม่สามารถออกจากปากถ้ำได้ และติดในถ้ำมาจนถึงวันนี้รวม 12 วันแล้ว เจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจค้นหา จนพบตัวเด็กและผู้ช่วยโค้ชแล้ว จำนวน 13 คน เมื่อค่ำวันที่ 2 ก.ค. แต่ยังไม่สามารถนำตัวออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนได้ ท่ามกลางการปฏิบัติงานให้การช่วยเหลือ 13 ชีวิตของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน มีทั้งเจ้าหน้าที่ชาวไทยและชาวต่างประเทศ รวมทั้งจิตอาสาจำนวนมาก ขณะเดียวกันมีสื่อมวลชนทั่วโลกให้ความสนใจมาทำข่าวกันจำนวนมากอีกด้วย
(หมอภาคย์-ซีล 10 นาย อยู่เป็นเพื่อนน้องๆ ตลอดคืนนี้ ทีมนักดำน้ำลุยลำเลียงอาหาร)

เช้าวันนี้ เวลา 05.00 น. นายกอบชัย บุญอรณะ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวภายหลังจากที่ตรวจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่ทำงานดูดน้ำในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ในช่วงเช้าตรู่วันนี้ พร้อมทั้งกล่าวว่า ขณะนี้มีการผันน้ำออกมาจำนวนมาก โดยสูบน้ำออกอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มเครื่องสูบน้ำ ทั้งในถ้ำและปากทางเข้าถ้ำและหน้าถ้ำแล้ว แต่ยังเป็นห่วงน้ำที่ไหลมาจากหลายทิศทางที่เราไม่สามารถมองเห็นและไม่รู้ได้เลย
ทำให้สถานการณ์น้ำที่เพิ่มมานั้นเป็นไปได้เสมอในด้านต่างๆ เช่น มีตาน้ำผุดออกจากใต้ดินมาเติมน้ำในถ้ำก็เป็นไปได้ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปได้หมด หากเราไม่รู้ข้อเท็จจริง แต่ขณะเดียวกันทางนักวิชาการ นักวิเคราะห์ และผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งข้าราชการทุกภาคส่วนได้ทำงานร่วมกันแล้ววิเคราะห์ออกมาและสั่งการให้เจ้าหน้าที่ในทางปฏิบัติดำเนินงานได้ทันที ซึ่งขณะนี้การสั่งการในส่วนกลางก็สั่งการลงมาแล้วว่า ให้เอาน้ำออกมากที่สุดมากเท่าไหร่ก็ให้เอาออกให้หมด

วันนี้น้ำที่จะไหลเข้ามาในถ้ำ ไม่ว่าจะมาทางใด จะมาทางช่องทางโพรงหรือน้ำผุด หรือทางใดทางหนึ่ง ทุกภาคส่วนได้ลงพื้นที่ปิดทุกเส้นทางของน้ำที่จะไหลเข้ามาในถ้ำทั้งหมดแล้ว เท่าที่ทำงานกันมาอย่างต่อเนื่อง ขณะปฏิบัติงานเมื่อสูบน้ำออกไปจากถ้ำแล้ว คาดว่าจะมีน้ำไหลย้อนเข้ามาในถ้ำอีก ก็ให้ตรวจสอบด้วยว่า หน้าถ้ำที่เป็นเส้นทางน้ำไหลออกไปจะมีหลุมหรือโพรงด้านหน้าถ้ำอีกหรือไม่ หากพบหลุมที่คาดว่าจะทำให้น้ำไหลย้อนเข้าถ้ำก็จะต้องปิดช่องโพรงหรือหลุมทั้งหมดทันที
“อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการทำงานสนธิกำลังทุกภาคส่วนและดำเนินการตามแผนที่วางไว้ แผน 1 แผน 2 และแผน 3 จะทำควบคู่กันไปได้เลย ไม่จำเป็นต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่ง และหากจำเป็นต้องเพิ่มเครื่องสูบน้ำก็ต้องเพิ่มแต่ในขณะนี้เครื่องสูบน้ำมีในถ้ำและปากทางเข้าถ้ำก็มีเครื่องสูบน้ำจำนวนมากแล้ว” รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าว
ที่มา ข่าวสดออนไลน์