จากกรณีการระดมค้นหานักฟุตบอลเยาวชน ทีมหมูป่าอคาเดมี 12 คน และผู้ฝึกสอนอีก 1 คน รวม 13 ชีวิต ที่สูญหายไปขณะเข้าไปเที่ยวภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา กระทั่งเจ้าหน้าที่หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หรือหน่วยซีล ได้ค้นหาและให้การช่วยเหลือได้เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา

วันที่ 4 ก.ค. ที่วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผวจ.เชียงราย ร่วมกับ พล.ต.ฉลองชัย ชัยยะคำ รองแม่ทัพภาคที่ 3, พล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 และนายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช แถลงความคืบหน้าการนำทีมหมูป่า 13 ชีวิตออกจากถ้ำ

นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์ของหน่วยซีลและทีมแพทย์ คาดว่า วันนี้ทีมหมูป่าจะออกมาลำบาก เนื่องจากระดับน้ำด้านในถ้ำยังไม่คงที่ ซึ่งตอนนี้ทางหน่วยซีลกำลังสอนน้องๆ ดำน้ำ และมีการทดลองใส่หน้ากากแบบฟูลเฟสแมนซ์ที่สามารถหายใจในน้ำได้เลย ซึ่งตอนนี้มีน้องบางคนหน้าเล็กเกินไป ขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการฝึก

นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตนไม่อยากให้ทุกคนกังวล เนื่องจากเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทำเต็มที่ตลอด ซึ่งการที่จะลำเลียงน้องๆ ออกมา จะต้องมีความมั่นใจ ร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเด็กทุกคนไม่จำเป็นต้องออกมาพร้อมกัน จะต้องดูความพร้อมของเด็กแต่ละคนเป็นหลัก ซึ่งทางทีมแพทย์จะเป็นคนประเมินสถานการณ์ โดยเด็กๆ อยู่ในความดูแลของแพทย์ตลอดเวลา ส่วนอาหารมีการส่งอาหารเข้าไปตุนอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้น้องๆ ยังทานอาหารเพาเวอร์เจลอยู่ เนื่องจากต้องบำรุงร่างกาย

“ในส่วนของภารกิจทุกเรื่อง ยังเดินต่อตามแผนเดิม การสูบน้ำยังสูบเต็มที่ จากที่ใช้ท่อสูบน้ำ 3 ท่อ เจ้าหน้าที่เพิ่มท่ออีก 1 ท่อ รวมเป็น 4 ท่อ เพื่อต้องการสูบน้ำให้ได้มากที่สุด ขณะที่สายโทรศัพท์ขณะนี้ ถึงบริเวณ 3 แยกแล้ว แต่อุปกรณ์โทรศัพท์ตกน้ำ ทำให้เสียหายหมด ตอนนี้จึงต้องหาอุปกรณ์ทดแทน ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการนำเข้าไปใหม่” นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากภารกิจเสร็จสิ้นหมดแล้ว จะมีแผนการถอนกำลังออกจากพื้นที่ถ้ำหลวงอย่างไรให้ไม่เสียหาย ผวจ.เชียงราย กล่าวว่า ในแต่ละแผนเรามีขั้นตอนในการดำเนินการอยู่แล้วเพื่อที่จะไม่ให้ธรรมชาติเสียหาย

ที่มา ข่าวสดออนไลน์