ไปรษณีย์ ลดค่าขนส่งพัสดุด่วน เริ่มต้น 5 บาท ดึงแม่ค้าออนไลน์ สู้ศึกตลาดแข่งดุ

นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยว่า ไปรษณีย์ไทย จะปรับลดอัตราค่าบริการพัสดุไปรษณีย์ด่วนพิเศษ อีเอ็มเอส (EMS) ในประเทศแบบถาวร โดยเริ่มตั้งแต่การส่งที่มีพิกัดน้ำหนัก 3 ก.ก. ถึง 20 ก.ก. ราคาที่ปรับลดเริ่มต้นที่ 5 บาท และลดสูงสุดที่ 115 บาท หรือปรับลดลงจากเดิม 4-24% มีผลวันที่ 1 ก.ค. 2561 เนื่องจากปัจจุบันลูกค้าที่เป็นกลุ่มอีคอมเมิร์ซ ผู้ที่ซื้อขายสินค้าออนไลน์ มีการส่งสินค้าชิ้นใหญ่มากขึ้น

พร้อมกันนี้ ยังให้ส่วนลดค่าบริการ 20% สำหรับลูกค้าที่มีใช้บริการส่งสินค้ากับไปรษณีย์ไทยอย่างสม่ำเสมอ เพราะต้องยอมรับว่าการแข่งขันในธุรกิจขนส่งสิ่งของพัสดุขณะนี้มีสูง เพียงแค่การปรับค่าบริการลงในอัตราดังกล่าวก็ยังทำให้ค่าบริการของไปรษณีย์ไทยยังสูงกว่าคู่แข่งในตลาด แต่การให้โปรโมชั่นส่วนลดจะทำให้ใกล้เคียงกับคู่แข่ง

“ได้ทดลองปรับลดค่าบริการ EMS มาตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีจำนวนชิ้นพัสดุส่งด่วนเพิ่มขึ้นมาถึง 21% จากเดิมตั้งเป้าหมายไว้เพิ่ม 15% ทำให้ทดแทนอัตราค่าบริการที่ปรับลดลงไปได้ และจะไม่กระทบกับผลกำไรของไปรษณีย์ไทยแน่นอน จากผลประกอบการ 5 เดือนของปีนี้ มีกำไรที่ 1,621 ล้านบาท มากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 1,581 ล้านบาท ขณะที่รายได้อยู่ที่ 12,158 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22 ล้านบาท ทำให้ทั้งปีนี้รายได้จะเป็นตามเป้ากว่า 30,000 ล้านบาท และมีกำไร 4,500 ล้านบาท”

นายพรชัย ฐีระเวช รองประธานกรรมการ ปณท กล่าวว่า การปรับอัตราค่าบริการดังกล่าว เพื่อตอกย้ำการเป็นเบอร์หนึ่งในธุรกิจขนส่ง ซึ่งต้องสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ รักษาฐานลูกค้า สร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น พร้อมกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ลดต้นทุนการส่งสินค้า และช่วยลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายในการฝากส่ง ตลอดจนสร้างความคึกคักแก่เศรษฐกิจโดยรวมประเทศ ซึ่งบริการขนส่งด่วนในประเทศ มีการแข่งขันสูงและมีการเติบโตโดยเฉลี่ยใน 2-3 ปีนี้ ประมาณ 18% ซึ่งบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ EMS เป็นบริการหลักที่สร้างรายได้ในสัดส่วน 30% และมีปริมาณงานสูง อีกทั้งมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไปรษณีย์ไทย จึงจำเป็นจะต้องรักษาและเพิ่มลูกค้าใหม่

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์