เสียงสะท้อน! จากลูกสาวสุวรรณี สุคนธา เหยื่อฆ่าโหดเมื่อ 34 ปีก่อนถึงคนค้านโทษประหาร

หลังกรมราชทัณฑ์ประหารชีวิตนักโทษเด็ดขาดชายคดีฆ่าชิงทรัพย์ 1 รายในรอบ 9 ปี ด้วยการฉีดยา เรื่องนี้ดูเป็นที่ฮือฮาและถกเถียงกันในสังคม เพราะประเทศไทยไม่ได้มีการประหารชีวิตนักโทษมานาน 9 ปี และหากไม่มีโทษประหารชีวิต 10 ปี นับตั้งแต่ประหารชีวิตครั้งสุดท้ายให้ถือว่ายกเลิกโทษประหารชีวิตไปโดยปริยาย

ย้อนกลับไปเมื่อ 34 ปีก่อน ในวันที่ 5 ก.พ. 2527 เกิดคดีสะเทือนขวัญเมื่อ สุวรรณี สุคนธา หรือนามปากกาของ สุวรรณี สุคนธ์เที่ยง เจ้าของนิยายดัง พระจันทร์สีน้ำเงิน เสียชีวิตขณะไปจ่ายตลาด โดยกลุ่มวัยรุ่น 2 คน พยายามชิงรถยนต์ BMW เข้าทำร้ายด้วยอาวุธจนเสียชีวิต แล้วนำร่างไปโยนไว้ในพงหญ้าข้างทาง

ล่าสุด เมนาท นันทขว้าง ลูกสาว “สุวรรณี สุคนธา” ใช้ชื่อเฟซบุ๊ก Maynart Nantakwang เล่าถึงความหลังสะเทือนใจวินาทีสูญเสียแม่ไปอย่างไม่มีวันกลับ ใจความว่า

“คิดถึงแม่…ฉันไม่เคยคิดจะพูดถึงเรื่องนี้ แต่เพื่อประโยชน์ของสังคม ที่นับวันมีคนชั่วมากขึ้น ฉันจึงเขียนมาจากแรงสะเทือนใจ จากร่างที่สั่นสะท้านของฉันที่มาจากความเจ็บปวดในใจ แม้เวลาจะผ่านมานาน…แสนนานแล้วก็ตาม

แม่ของฉันแม่ของเรา…ที่เลี้ยงลูกคนเดียวอีก 3 ชีวิต ในเย็นของวันหนึ่งแม่จากพวกเราไป แม่ออกไปตลาด

เราไม่เคยคิด …

ไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริง ฉันจะไม่พูดถึงความเจ็บปวดและความเศร้าอย่างแสนสาหัส ที่ทำให้ฉันที่เพิ่งอายุแค่ 28 กับลูกชายอายุขวบเดียวและน้องสาวอีก 2 คนต้องเจอความจริงที่ไม่ยุติธรรม

แม่ไปจ่ายตลาด… มีคนชั่ว 2 คนทำร้ายถึงตาย แล้วเอาร่างแม่ไปโยนไว้ในพงหญ้าข้างทาง

ฉันจะไม่พูดถึงแผลกี่สิบแผล ทำให้แม่ตายอย่างเจ็บปวด แม่เป็นผู้หญิงที่มีความสามารถมาก เป็นคนดี เป็นคนพิเศษ เป็นแม่ที่เป็นที่พึ่งคนเดียวในชีวิตของพวกเรา เป็นเหมือนแท่งเทียนเล่มที่จุดสว่างนำทางให้ฉันเสมอและกับคนอื่นๆ อีกมากมาย

ที่สำคัญ แม่เป็นนักเขียนที่ในยุคนั้นหรือยุคใหนๆ ก็ไม่มีใครเขียนได้อย่างมีความเป็นตัวเองถึงอย่างนั้นถ้าแม่ยังอยู่กับพวกเราแม่คงมีความสุขมาก

และแม่คงจะเขียนงานออกมาได้อีกมาก แม่ของเราคือแรงบันดาลใจ แม่คือผู้หญิงเก่งที่ไม่ท้อกับความทุกข์ยากใด แม้ความตายจะมาถึงแม่… อย่างที่ฉันและน้องไม่อาจจะทนทานในความทุกข์นั้นได้ ยังดีที่พวกเราเป็นคนรักดี… ไม่เอาความเจ็บปวดมาทำลายเราเอง เราเปลี่ยนความทุกข์ใจเป็นแรงผลักให้สร้างชีวิตที่ดีขึ้นมาจากกองทุกข์สาหัสสากรรจ์

ฉันคิดว่ามันเป็นชะตากรรม ก็ได้แต่คิดแค่นี้

มนุษย์คนใดที่ลงมือใช้มีดกรีดและทิ่มแทงเข้าไปถึงร่างกายของมนุษย์อีกชีวิตหนึ่งได้ย่อมต้องได้รับการชดใช้กรรมนั้นอย่างเท่าเทียม ไม่ได้เป็นการแก้แค้น

นั่นคือการลงโทษในการทำความเลว…

ไม่สมควรที่จะปล่อยให้เป็นเยี่ยงอย่างถึงขนาดลงมือทำร้ายคนเป็นๆ จนตายไปต่อหน้ามีทั้งเลือด เสียงร้องที่เจ็บปวดเหลือแสน กับเสียงร้องขอชีวิต การฆาตกรรมโดยเพื่อหวังแต่ทรัพย์นั้นมันผิดบาปมาก

ถามพวกที่ออกมาปกป้องคัดค้านการลงโทษที่สมควรแล้วนั้น จิตใจทำด้วยอะไร ใครก็ตามที่ออกมาปกป้องฆาตกร คนเหล่านั้นคงมีจิตใจคล้ายกัน

อ้างสิทธิมนุษยชน..

คนที่ถูกฆาตกรรมอย่างทารุณและเป็นผู้บริสุทธิ์ มีสิทธิ์เรียกร้องความตายคืนมาได้มั้ย

ช่วยหยุดพวกอ้างสิทธิมนุษยชนเพื่อผลประโยชน์ทางอื่น โดยช่วยกันแชร์กันไปให้มาก ความตายของแม่จะมีประโยชน์ต่อชีวิตผู้บริสุทธิ์ ที่ยังอาจจะเจอการฆาตกรรมเลือดเย็น ถ้ามีพวกอยากให้กฎหมายปกป้องอ่อนข้อต่อ ฆาตกร”

ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Maynart Nantakwang

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1781781648532019&set=a.165360596840807.59867.100001006036237&type=3&theater