ตะลึง! ปลานับล้านตายเกลื่อนหาดทุ่งวัวแล่น ชุมพร เหตุน็อกน้ำฝนไหลลงทะเลมาก

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 15 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นางอัจฉรา รักษ์พันธุ์ และ นางสาวอุมาอร รักษ์พันธุ์ สองผู้บริหารของชุมพร คาบาน่า รีสอร์ท ริมหาดทุ่งวัวแล่น หมู่ 8 ต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ว่า มีปลาทะเลนานาชนิด ถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยหาดทุ่งวัวแล่น ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดชุมพรเป็นจำนวนมาก จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบบรรดาชาวประมงพื้นบ้านและนักท่องเที่ยวกำลังเดินดูปลาเป็นจำนวนมากเกลื่อนอยู่บนชายหาด นักท่องเที่ยวบางส่วนจึงช่วยกันนำปลาที่ยังมีชีวิตกลับลงสู่ทะเล ส่วนปลาที่ตายแล้ว ชาวประมงก็ช่วยกันเก็บใส่ตะกร้าขึ้นรถออกจากพื้นที่ไป

นายจันทร์ยง คลังนิมิตร อายุ 57 ปี อาชีพทำสวนและทำประมงพื้นบ้าน หนึ่งในชาวบ้านที่กำลังเก็บปลาใส่ตะกร้า เปิดเผยว่า สาเหตุที่มีปลานานาชนิดอยู่เกลื่อนชายหาดในครั้งนี้ คงเป็นเพราะปลาเกิดอาการน็อกน้ำ หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมามีฝนตกหนัก และน้ำฝนซึ่งเป็นน้ำจืดได้ไหลลงสู่ทะเลซึ่งเป็นน้ำเค็ม ทำให้สิ่งมีชีวิตใกล้ชายฝั่งพวกปลา ปู ปลาหมึก ปรับสภาพไม่ทัน จึงพยายามหนีขึ้นมาใกล้ชายหาด แต่เมื่อน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว ปลาและสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ไม่สามารถกลับลงสู่ทะเลได้ทัน จึงตกค้างอยู่เกลื่อนชายหาดเต็มไปหมด ปลาที่พบส่วนใหญ่เป็น ปลาลิ้นหมา ปลาหางควาย ปลาอมไข่ ปลาไหลทะเล ปลาหมึกสาย ปลากระเบน ปลาแป้น และปูม้า ซึ่งเอาไปทำอาหารได้ ถือเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ถ้าเกิดก็จะเป็นในช่วงที่กำลังเข้าสู่ฤดูมรสุม หากประมงจังหวัด และประมงอำเภอทราบ ก็จะต้องนำน้ำยาปรับสภาพมาเทลงทะเลในช่วงที่เกิดปรากฏการณ์เช่นนี้

นางสาวอุมาอร กล่าวว่า ทราบว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมาประมาณ 3-4 วันแล้ว และชาวบ้านจะเรียกว่า “ปรากฏการณ์ปลาตายน้ำแดง” ซึ่งมักเกิดในช่วงข้างขึ้นเดือน 8 ซึ่งเป็นช่วงที่มีน้ำจืดจากฝนไหลลงสู่ทะเลมาก แต่ไม่ได้มีสาเหตุจากน้ำเสียแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายสิทธิสาร ศรีชุมพวง ประมงจังหวัดชุมพร ซึ่งกำลังประชุมอยู่ที่กรุงเทพฯ ว่าประมงจังหวัดชุมพรได้ทราบหรือยังว่าเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวขึ้น นายสิทธิสาร กล่าวว่า เพิ่งทราบจากสื่อมวลชน และจะรีบประสานกับศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงอ่าวไทยตอนกลางจังหวัดชุมพร และศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง เพื่อส่งเจ้าหน้าที่ลงไปร่วมตรวจสอบและเร่งหาแนวทางในการแก้ไขโดยเร็ว

ที่มา มติชนออนไลน์