‘นายกฯตู่’ โชว์! เศรษฐกิจการค้าชายแดนไทย-เพื่อนบ้าน สูงกว่า6แสนล้าน!

‪นายกฯบิ๊กตู่ เปิด ACMECS CEO Forum ‬ ย้ำความร่วมมือระหว่างกันของประเทศสมาชิกแบบไร้รอยต่อ เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวชายแดน ส่งเสริมการย้ายฐานการผลิตไปยังพื้นที่ที่มีต้นทุนต่ำ เพื่อสร้างโอกาสการจ้างงาน และพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น โวเศรษฐกิจของภูมิภาค CLMTV เติบโตเฉลี่ยถึงร้อยละ 6-8 ต่อปี นับว่าสูงที่สุดในอาเซียน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 มิ.ย. ที่โรงแรมแชงกรี-ลา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. เป็นประธานเปิดการประชุมผู้นำประเทศสมาชิกยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง หรือ ACMECS ครั้งที่ 8 ระหว่างวันที่ 15–16 มิ.ย. ซึ่งมีผู้นำประเทศสมาชิกกลุ่มดังกล่าว ประกอบด้วย สมเด็จฮุน เซน นายกฯกัมพูชา นายทองลุน สีสุลิด นายกฯสปป.ลาว นายอู วิน มยิน ประธานาธิบดีสหภาพเมียนมา และนายเหวียน ซวน ฟุก นายกฯเวียดนาม มาร่วมงาน พร้อมภาคเอกชนสนใจเข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก

บิ๊กตู่ เปิด ACMECS CEO Forum ‬ ย้ำความร่วมมือระหว่างกันของประเทศสมาชิกแบบไร้รอยต่อ เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวชายแดน ส่งเสริมการย้ายฐานการผลิตไปยังพื้นที่ที่มีต้นทุนต่ำ เพื่อสร้างโอกาสการจ้างงาน และพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น โวเศรษฐกิจของภูมิภาค CLMTV เติบโตเฉลี่ยถึงร้อยละ 6-8 ต่อปี นับว่าสูงที่สุดในอาเซียน

ทั้งนี้ มีการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร กระจายกำลังทั่วสถานที่จัดการประชุม พร้อมใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด โดยตรวจสแกนกระเป๋าสัมภาระของผู้เข้าร่วมงาน และกำหนดให้เฉพาะผู้ที่ทำบัตรลงทะเบียนของงานเท่านั้นที่จะเข้าพื้นที่จัดการประชุมได้

บิ๊กตู่ เปิด ACMECS CEO Forum ‬ ย้ำความร่วมมือระหว่างกันของประเทศสมาชิกแบบไร้รอยต่อ เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวชายแดน ส่งเสริมการย้ายฐานการผลิตไปยังพื้นที่ที่มีต้นทุนต่ำ เพื่อสร้างโอกาสการจ้างงาน และพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น โวเศรษฐกิจของภูมิภาค CLMTV เติบโตเฉลี่ยถึงร้อยละ 6-8 ต่อปี นับว่าสูงที่สุดในอาเซียน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเปิดงาน ตอนหนึ่งว่า การประชุมครั้งนี้ทุกชาติสมาชิกจะเห็นพ้องในการจัดทำแผนแม่บท ACMECS เพื่อปรับโครงสร้างและจัดทำยุทธศาสตร์ความร่วมมือ มุ่งเน้นสร้างความเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อในอนุภูมิภาค อีกทั้งขอเชิญชวนภาคเอกชนเข้าร่วมกำหนดเป้าหมายเร่งด่วนในด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และนวัตกรรม ตลอดจนประเด็นที่ให้ภาครัฐช่วยอำนวยความสะดวก หรือปรับเปลี่ยนกฎระเบียบให้มีความยืดหยุ่นและสอดประสานกันมากขึ้น

นายกฯ กล่าวว่า ผลของการดำเนินโครงการความร่วมมือที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวชายแดนและในระดับท้องถิ่น มีบทบาทสำคัญยิ่งในการส่งเสริมให้เกิดสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองแบบยั่งยืนร่วมกันของอนุภูมิภาค ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจของประเทศสมาชิก ACMECS ได้เจริญเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 6-8 ต่อปี ซึ่งนับได้ว่าเป็นอัตราการเจริญเติบโตที่สูงที่สุดในอาเซียน และเป็นเครื่องจักรที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอาเซียนและของโลกต่อไปในอนาคต

ปัจจุบัน การค้าชายแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านได้ขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2560 การค้าชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ลาว และเมียนมา มีมูลค่ารวมกันสูงกว่า 5 แสนล้านบาท หากรวมการค้าผ่านแดนกับเวียดนามด้วยแล้วตัวเลขมูลค่าการค้ารวมจะสูงราว 6 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมากเมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจของชาติสมาชิก ACMECS รัฐบาลไทยขอให้ความมั่นใจว่า ไทยมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับภาคเอกชนในการลดอุปสรรคทางการค้า และอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ” นายกรัฐมตรีกล่าว

‘นากยฯตู่’ โชว์! เศรษฐกิจการค้าชายแดนไทย-เพื่อนบ้าน สูงกว่า6แสนล้าน!
‘นากยฯตู่’ โชว์! เศรษฐกิจการค้าชายแดนไทย-เพื่อนบ้าน สูงกว่า6แสนล้าน!

นายกฯ กล่าวอีกว่า ในการจ้างแรงงาน ไทยมีนโยบายเปิดกว้าง โดยรัฐบาลจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ จำนวน 10 แห่งตามแนวชายแดน ซึ่งไทยมีมาตรการอำนวยความสะดวกในการจ้างงานแรงงานต่างด้าวในพื้นที่เหล่านี้ รัฐบาลยืนยันว่ามีนโยบายต้อนรับแรงงานต่างด้าวที่มาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และพร้อมดูแลแรงงานเหล่านี้ให้ได้รับสิทธิต่างๆ อย่างเป็นธรรม ที่ผ่านมารัฐบาลไทยได้เร่งรัดปฏิรูปการจัดทำทะเบียนประวัติ และการขออนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าว เพื่อสร้างระบบการจ้างงานที่เป็นธรรม และป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ จึงขอความร่วมมือจากภาคเอกชนให้ช่วยดูแลการจ้างงานให้เป็นธรรม หลีกเลี่ยงการเอารัดเอาเปรียบ ไม่เป็นไปตามกฎหมาย เพื่อให้แรงงานจากทุกชาติได้รับประโยชน์เท่าเทียมกัน ช่วยกันรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงบริเวณชายแดน รวมถึงหาช่องทางปลดล็อกอุปสรรคต่างๆ ระหว่างกันอีกด้วย

‘นากยฯตู่’ โชว์! เศรษฐกิจการค้าชายแดนไทย-เพื่อนบ้าน สูงกว่า6แสนล้าน!

ที่มา ข่าวสดออนไลน์