จากนั้นก็หาเงินมาจ่ายค่าไฟฟ้าให้กับคนร้าย ในราคา 3,490 บาท พอตนหยิบเงินวางให้ 3,000 บาท คนร้ายก็รีบรวบเงินไว้ในมือ ตนหยิบแบงก์ร้อยอีก 4 ใบ แบงก์ยี่สิบอีก 4 ใบ รวมเป็นเงิน 3,480 บาท คนร้ายก็บอกว่าลดให้ 10 บาท จากนั้นก็นำบิลที่ทำปลอมขึ้นมามอบให้ตน และบอกว่าวันจันทร์จะเอาใบเสร็จรับเงินค่าไฟฟ้ามาให้ แล้วก็ขับรถออกไปจากร้าน ตนเองก็ปิดร้านจนเสร็จ แต่ก็มีความรู้สึกไม่สบายใจ นอนไม่หลับ คิดว่าจะโดนหลอกรึป่าว ตนเองก็เลยพูดคุยกับลูกสาว เกรงว่าจะถูกหลอก ต่อมาเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ตนจึงได้เดินทางไปที่สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดมหาสารคาม เพื่อสอบถามว่ามีพนักงานคนนี้ทำงานอยู่ที่สำนักงานไฟฟ้าหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าไม่มีคนชื่อนี้ทำงานอยู่ จึงแน่ใจว่าถูกหลอกแล้ว

โดยเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าก็ให้ตนเขียนคำร้องว่าเจอเหตุการณ์ในลักษณะนี้ และได้ขอบิลที่คนร้ายทำปลอมขึ้นไปไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งตนก็ได้มอบหลักฐานให้ทั้งหมด เพื่อจะได้แจ้งเตือนคนทั่วไปไม่ให้หลงเชื่อเหมือนตน ซึ่งจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้ตนเองต้องจ่ายเงินไป 3,480 บาท และยังต้องเสียค่าไฟเดือนล่าสุดอีก 3,490 บาท รวมแล้วต้องจ่ายเงินไปเกือบ 7,000 บาท

นายสมัคร วิวรรณพงษ์ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเคยเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ แต่เพิ่งจะมาเกิดขึ้นที่จังหวัดมหาสารคามครั้งนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดมหาสารคาม ไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่หรือตัวแทน ออกไปเก็บเงินกับลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ รวมถึงบิลค่าไฟฟ้าจะแบ่งออก 2 แบบ คือ แบบที่ 1 เป็นแบบที่ใช้สำหรับชุมชนเมือง จะมีเจ้าหน้าที่ไปจดหน่วยและพริ้นต์กระดาษออกมาจากเครื่อง จากนั้นจะให้ผู้ใช้ไฟไปชำระเงินที่จุดบริการได้ทันที แบบที่ 2 จะเป็นแบบที่ใช้ในหมู่บ้าน หรือตามชุมชนที่ห่างไกล โดยจะมีเจ้าหน้าที่ไปจดหน่วยใช้ไฟ และนำข้อมูลกลับมาพริ้นต์ที่สำนักงานการไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นกระดาษ 2 แผ่น คือ ใบแจ้งค่าไฟฟ้า และใบเสร็จรับเงิน โดยจะมีตัวแทนไปนำจ่าย หากบ้านไหนสะดวกที่จะจ่ายเงินเลย เมื่อจ่ายเงินแล้วก็จะมีใบเสร็จรับเงินให้มาด้วย แต่หากยังไม่สะดวกจ่ายเงิน ตัวแทนก็จะให้ใบแจ้งค่าไฟฟ้าไว้ และจึงค่อยไปชำระเงินที่จุดบริการตามวันที่ระบุไว้ในใบแจ้งค่าไฟฟ้า

แต่เมื่อเลยกำหนดชำระค่าไฟฟ้ามาแล้ว 5 วัน การไฟฟ้าจะออกใบเตือนให้ไปชำระค่าไฟ โดยจะต้องไปชำระภายใน 7 วัน นับจากที่ได้รับหนังสือ จะไม่มีการให้เจ้าหน้าที่หรือตัวแทน ไปเรียกรับชำระเงินตามบ้านเด็ดขาด หากใครพบเห็นพฤติกรรมการเรียกชำระค่าไฟฟ้าตามบ้าน ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที