ป.ตรีเตะฝุ่น ไม่มีใครจ้างหรือไม่ถูกใจงาน

เป็นแบบนี้มาต่อเนื่องหลายปี กับตัวเลขของผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีที่ตกงานสูงกว่าระดับการศึกษาอื่นๆ ซึ่งล่าสุดกระทรวงแรงงาน ระบุว่า ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ย้อนหลัง 5 ปี (พ.ศ. 2556-2560) มีผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีปีละประมาณ 300,000 คน และข้อมูลการจ้างงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่า ในเดือนพฤษภาคม 2561

ยอดคนตกงานที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีมากถึง 170,900 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีทั้งตัวเลขคนจบใหม่ และตัวเลขสะสมเดิม

ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานได้มีการแก้ไขและป้องกันปัญหาการว่างงานในกลุ่มผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรี โดยได้ดำเนินโครงการสำรวจความต้องการของผู้สำเร็จการศึกษาในทุกระดับชั้น ตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 ถึงระดับปริญญาตรี เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาวิเคราะห์และจัดส่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในการจัดหางาน อีกทั้งยังได้มีบริการแนะแนวอาชีพให้แก่นักเรียนที่จะจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษา

ได้รู้ถึงอาชีพและลักษณะอาชีพที่อยู่ในความต้องการของตลาดแรงงาน เพื่อเลือกสาขาที่เรียนต่อระดับปริญญาตรี ที่มีตลาดแรงงานรองรับ

ถ้าพิจารณาจากตัวเลขคนตกงานที่มีประมาณ 170,900 คน เปรียบเทียบกับตัวเลขตำแหน่งงานว่างทั่วประเทศจำนวนทั้งสิ้น 180,180 อัตรา ณ ปัจจุบัน ในจำนวนนี้เป็นตำแหน่งที่ต้องการใช้แรงงานในระดับปริญญาตรี จำนวนเพียง 22,345 อัตราเท่านั้น ที่เหลือส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่ระดับการศึกษาต่ำกว่า

ในภาพรวมของตัวเลขเด็กจบปริญญาตรีตกงานนั้น กระทรวงแรงงานวิเคราะห์ว่า เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น เลือกเรียนในสายที่ไม่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน แต่เป็นการเลือกตามกระแส ค่านิยม หรือเรียนตามเพื่อน ทำให้ตกงาน หรือได้งานทำไม่ตรงกับสาขาที่เรียน หรือทำงานต่ำกว่าวุฒิการศึกษา นอกจากนี้ บางส่วนยังไม่ต้องการหางานทำ เนื่องจากอยู่ในช่วงการตัดสินใจที่จะศึกษาต่อ หรือพักอยู่กับบ้าน

บางส่วนมีความต้องการเพียงใบรับรองคุณวุฒิเท่านั้น เพราะครอบครัวมีธุรกิจ หรืออาชีพที่ต้องการให้บุตรหลานรับช่วงต่อ รวมถึงเป็นกลุ่มที่ลาออกจากงานเดิมและต้องการเปลี่ยนงานใหม่เพื่อหาประสบการณ์ในการทำงาน

แต่ก็อาจจะมีปัจจัยอื่นผสมโรงด้วย เช่น จำนวนผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีเพิ่มมากขึ้น เพราะสถาบันการศึกษามีการผลิตบัณฑิตออกมาจำนวนมากแต่ไม่สอดคล้องกับตลาดแรงงาน หรือเลือกงานเพราะคาดหวังกับค่าตอบแทนที่สูง และต้องการงานที่มีความสะดวกสบาย หรือเศรษฐกิจไม่ดีจนสถานประกอบการไม่รับคนเพิ่ม

จากเหตุผลข้างต้น พบว่าส่วนใหญ่เกิดจากตัวเด็กเองทั้งสิ้น

ปัจจุบัน กระทรวงแรงงานได้ดำเนินการเชิงรุกทั่วประเทศ ทั้งเปิดศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย (Smart Job Center) มีสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 สำนักงานจัดหางานจังหวัด รถบริการจัดหางานเคลื่อนที่ (Mobile Unit) เปิดบริการทางเว็บไซต์ http://smartjob.doe.go.th และ Smart Job Center Application By Smartphone และสายด่วน 1506 กด 2 นอกจากนี้ ยังเพิ่มการประสานความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา และสถานประกอบการ

แต่ก็ยังมีโจทย์สำคัญให้คิดต่อว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะช่วยกันทำอย่างไร ที่จะให้กลุ่มบัณฑิตจบใหม่ที่ยังไม่ได้งานเหล่านี้ ได้เข้าสู่ตลาดงานตามเป้าหมายที่พวกเขาต้องการจริง