ปี’60 ไทยสมายล์ ขาดทุน 1,626 ล้าน รายได้ขายตั๋ววูบ ต้องดั๊มพ์มราคาแข่งโลว์คอสต์

รายงานข่าวจากบริษัทไทยสมายล์ แอร์เวย์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจสายการบินไทยสมายล์ แจ้งผลการดำเนินงานของบริษัทประจำปี 2560 ว่า มีรายได้รวมจำนวน 10,182 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2,651 ล้านบาท ส่วนรายจ่ายรวมมีจำนวน 11,808 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 2,248 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 1,626 ล้านบาท ขาดทุนลดลง 455 ล้านบาท ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2560 บริษัทมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 5,722 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1,288 ล้านบาท ส่วนหนี้สินรวม เท่ากับ 10,063 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,914 ล้านบาท

นายฉัตรชัย ปานอยู่ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยสมายล์ เปิดเผยว่า ปี 2560 ไทยสมายล์ยังมีผลประกอบการขาดทุน จากราคาจำหน่ายตั๋วโดยสารของไทยสมายล์ปรับลดลงอย่างมาก เนื่องจากมีการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงจากสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์) ทำให้เป้ารายได้จากการขายตั๋วโดยสารไม่เป็นไปตามเป้า รวมทั้งยังมีปัจจัยเรื่องของราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่ม

ส่วนผลประกอบการในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2561 นั้นเดิมคาดการว่าจะสามารถหยุดขาดทุนได้ แต่ตัวเลขที่ออกมาพบว่า บริษัทยังมีผลขาดทุนอยู่แต่ไม่มากนัก โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้ขาดทุนเนื่องจากราคาน้ำมันได้ปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 80%

“ปี 2560 เรายังขาดทุน 1,626 ล้านบาท ส่วนปีนี้คาดว่าแนวโน้มจะดีขึ้น เพราะขณะนี้ราคาน้ำมันเริ่มปรับลดลงแล้ว ทั้งนี้ มั่นใจว่าทั้งปีนี้ ไทยสมายล์จะพลิกกลับมาทำกำไรได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้แน่นอน”

นายฉัตรชัยกล่าวว่า ในปีนี้ ไทยสมายล์ มีแผนที่จะเปิดจุดบินเพิ่มอีก 1 จุด ในตลาดอินเดีย คือเส้นทาง กทม.-กัลกาตา คาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการวันที่ 1 ก.ค. นี้ และจะเพิ่มจำนวนเที่ยวบิน เส้นทาง กทม.-บอมเบย์ จากสัปดาห์ละ 5 เที่ยวบิน เป็น 7 เที่ยวบิน นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมในการเปิดจุดบินใหม่ที่มีศักยภาพ อีกอย่างน้อย 3 จุดบิน เช่น กทม.-อัมริตสาร์, กทม.- จันดิการ์ เป็นต้น เนื่องจากเป็นเมืองที่กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ทั้งนี้ ต้องรอผลการศึกษาก่อนว่าเหมาะสมหรือไม่

ส่วนตลาดจีนจะมีการปรับเพิ่มเที่ยวบิน เป็น 7 วันต่อสัปดาห์ ในเส้นทาง กทม.-ฉงชิง และ กทม.-ฉางชา รวมทั้งอยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะเปิดจุดบินใหม่เพิ่มเติม เช่น เส้นทาง กทม.-ซีอาน, กทม.-หางโจว เป็นต้น

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์