น้ำเหนือไหลลงทะเลสาปดอยเต่าวันละ 14-15 ล้าน ลบ.ม. คาดทำรายได้ฤดูท่องเที่ยวเพิ่มร้อยละ 30

SONY DSC
นายณัฐรัฐ ชัยบาล  นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าเดื่อ อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ เผยว่า หลังพายุพัดผ่านภาคเหนือตอนบน มีน้ำเหนือจากลำน้ำปิง และลำน้ำแม่แจ่ม ไหลลงทะะลสาปดอยเต่า วันละ14-15 ล้านลูกบาศก์เมตร  ทำให้น้ำไหลเข้าแก้มลิง  สมัยที่นายบุญเลิศ  บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ ดำเนินการขุดสระเป็นแก้มลิงไว้ 100 ไร่ เมื่อปี 2558 เพิ่มสูงขึ้นจาก 3 เมตร เป็น 6 เมตร ส่งผลให้แพที่อยู่รอบแก้มลิงลอยน้ำได้  และเปิดบริการนักท่องเที่ยวแล้ว อาทิ
แพนกน้อย แพมะขามหวาน แต่มีแพบางส่วนที่ยังอยู่บนบก เนื่องจากน้ำท่วมไม่ถึง จึงไม่เปิดบริการอย่างใด
“ภาพรวมน้ำเหนือที่ไหลลงทะเลสาปดอยเต่า มีน้ำไหลย้อยท่วมถึง อ.ลี้ จ.ลำพูน เพียง 3 กิโลเมตรเท่านั้น ห่างจากทะเลสาปดอยเต่า 30 กิโลเมตรพื้นที่ส่วนใหญ่ ยังเป็นทุ่งเลี้ยงโค กระบือ กว่า 10,000 ตัว ส่วนร้านค้าที่ขายปลาสด ตากแห้ง และแปรรูป จำนวน 12 ราย เหลืออยู่ 6 ราย อีก 6 ราย ย้ายไปขายที่หน้าอำเภอดอยเต่า  เนื่องจากนักท่องเที่ยวบางส่วนไม่เข้าไปเที่ยว ซึ่งทะเลสาปดอยเต่า ระดับน้ำจะขึ้นสูงสุดในช่วงพฤศจิกายนทุกปี” นายณัฐรัฐ กล่าว
201610051220294-20021028190213-768x512
นายณัฐรัฐกล่าวอีกว่า ปกติฤดูท่องเที่ยวทะเลสาปดอยเต่า เริ่มธันวาคม ถึง กุมภาพันธ์ ซึ่ง อบต.ร่วมกับอำภอ เกษตอำเภอ หว่านเมล็ดปลูกราชพฤกษ์ รอบแก้มลิง บริเวณทะเลสาป รวม 50-60 ไร่ เพื่อปรับภูมิทัศน์  เป็นจุดถ่ายรูปเป็นที่ระลึกในอนาคต พร้อมปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ห้องน้ำ ลานจอดรถ ท่าเรือ และทำความสะอาดให้เป็นระเบียบเรียบร้อย คาดหวังเพิ่มนักท่องเที่ยวและรายได้สู่ชุมชน 20-30 %
ด้านนายพิเชฐ  พิศุทธกุล  รองนายก อบจ.เชียงใหม่ รักษาการนายก อบจ.กล่าวว่า การขุดลอกแก้มลิงทะเลสาปดอยเต่าเฟสแรก แล้วเสร็จเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ใช้งบลงทุน 20 ล้านบาท ส่วนเฟสที่สอง อีก 300 ไร่ ที่ใช้งบลงทุน 50-60 ล้านบาท ได้ชะลอโครงการไว้ก่อน เพราะไม่ได้ตั้งงบพัฒนาแหล่งน้ำ และส่งเสริมท่องเที่ยวในปี 2560 เนื่องจากผู้บริหาร และสมาชิกสภาปัจจุบัน เป็นชุดรักษาการ จนกว่ามีการเลือกตั้งท้องถิ่น หรือได้ผู้บริหารชุดใหม่ เพื่อสานโครงการดังกล่าวต่อไป
ที่มา มติชนออนไลน์