รมว.คมนาคม เบรกขึ้นค่าโดยสารทุกประเภท เพราะน้ำมันถูกลงแล้ว

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่กลุ่มผู้ประกอบการรถร่วมโดยสาร ขสมก., รถร่วมโดยสาร บขส. ยื่นขอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร จากรับผลกระทบราคาน้ำมันแพงว่าขณะนี้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงได้ปรับลดลงแล้วรวมทั้ง กรมการขนส่งทางบก ยัง อยู่ระหว่างการศึกษาปรับโครงสร้างอัตราค่าโดยสารระบบขนส่วใหม่ทั้งระบบ ซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ กระทรวงคมนาคมจึงมีนโยบายที่จะยังไม่ให้ผู้ประกอบการรถโดยสารทุกประเภท ปรับค่าโดยสารเพิ่มขึ้น

ส่วนข้อเรียกร้องอื่น ๆ ขอให้ บขส.และขสมก. ยกเว้นเงินค่าขา เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการนั้น เป็นเรื่องที่คณะกรรมการหรือบอร์ดของ ขสมก.และบขส.ต้องไปพิจารณาต่อไป

นายอาคมกล่าวถึงแนวทางการจัดหารรถใหม่ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.)ว่าขณะนี้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ได้อนุมัติแผนฟื้นฟูของ ขสมก. แล้ว ซึ่ง คนรเสนอขอให้ ขสมก. จัดหารถใหม่แบบผสมผสาน ใช้พลั้งงานหลากหลายทั้งรถเมล์เอ็นจีวี 489 คันที่จัดหาไปแล้ว รวมถึงรถที่เป็นพลังงานไฮบริดหรือดีเซลกับไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นทางเลือกที่ ขสมก.จะนำมาทดสอบ

ด้านนายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานบอร์ด ขสมก.คนใหม่ กล่าวว่า แผนฟื้นฟูอื่น ๆ เช่น การภาระหนี้และขาดทนุสะสมกว่า 100,000 ล้านบาท ขสมก.ยังต้องเดินหน้ากระบวนการเจรจากับสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ขณะที่การปรับลดพนักงานต้องพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจัดหารถเมล์ใหม่ ขสมก.นั้น 3,000 คัน ต้องเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีแก้ไขมติ ครม.เดิมที่อนุมัติจัดซื้อ 3,183 คัน โดยจำนวนจัดหาใหม่ 3,000 คันเมื่อรถเมล์เอ็นจีวี่ที่จัดซื้อไปแล้ว 2,511 คันจะมีสัดส่วนรถเมล์ไฟฟ้าหรืออีวี 35 คัน ที่เหลือเป็นรถเมล์พลังงานไฮบริด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรถไฮบริดจะมีราคาแตกต่างและอาจจะสูงกว่ารถเมล์ที่เคยอยู่ในแผนจัดซื้อเดิม ดังนั้น บอร์ด ขสมก.จะต้องศึกษารายละเอียดราคารถเมล์ไฮบริดอีกครั้ง เพื่อกำหนดวงเงินรวมของการจัดซื้อรถล็อตใหม่