| ผู้เขียน | ข่าวสดออนไลน์ |
|---|---|
| เผยแพร่ |
เมื่อวันที่ 4 ต.ค. นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี กระทรวงคมนาคมได้รายงานแนวทางและมาตรการการลดอุบัติเหตุบนท้องถนนให้ครม.รับทราบ มาตรการหนึ่งที่พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสนใจมากเป็นพิเศษและเน้นย้ำให้กระทรวงคมนาคมเร่งดำเนินการ คือการแก้ไขปัญหาเมาแล้วขับ โดยสั่งการให้ไปศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายของต่างประเทศที่มีการกำหนดบทลงโทษเอาผิดถึงผู้โดยสารที่นั่งในรถคันที่คนขับเมาด้วยว่าสามารถนำมาบังคับใช้กับไทยได้หรือไม่ เพื่อลดปัญหาเมาแล้วขับ
ขณะที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับให้มีการเข้มงวดเรื่องการขอใบอนุญาตขับขี่ให้ออกยากยึดง่าย โดยในอนาคตให้กรมการขนส่งทางบกผขบ.)ปรับเพิ่มเกณฑ์การสอบผ่านข้อเขียนให้เพิ่มมากขึ้นจากปัจจุบันที่ต้องทำให้ 90% จึงจะถือว่าสอบผ่านข้อเขียน ส่วนการขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดได้มีการแก้ไข ลดความเร็วในเขตเมืองในอัตราที่เหมาะสม และเพิ่มอัตราโทษสำหรับผู้กระทำความผิดให้สูงขึ้น
นายออมสินกล่าวต่อถึงแนวทางการออกใบอนุญาตขับขี่ว่า ได้รายงานที่ประชุมครม.ว่าขณะนี้ ได้แก้กฎหมายใน 3 ประเด็น คือ 1.เพิ่มความเข้มงวดการออกใบอนุญาตขับรถในหลักการคือออกยาก และยึดง่าย 2.เพิกถอนใบอนุญาตครอบคลุมรถยนต์ส่วนบุคคลด้วยจากเดิมที่ครอบคลุมเฉพาะรถโยสารสาธารณะ 3.เพิ่มอัตราโทษให้สูงขึ้นและเพิ่มบทกำหนดโทษผู้ขับรถโดยไม่ได้รับใบอนุญาต และเจ้าของรถหรือคนขับรถยินยอมให้ผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตขับรถ หรือมีใบอนุญาตขับรถประเภทอื่นที่ใช้แทนกันไม่ได้เข้ามาขับรถยนต์ของตนเองถือว่ามีความผิดด้วย
นอกจากนี้ในส่วรถโดยสารสาธารณะได้แก้ไขกฏหมาย 2 ประเด็น คือ 1.การกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมเรื่องการขอใบรับอนุญาตประกอบกิจการด้านการขนส่ง เพื่อสร้างมาตรฐานด้านความปลอดภัยกับรถโดยสารสาธารณะ และ2.การปรับปรุงระบบการเยียวยา เพื่อคุ้มครองและให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่ได้รับผลกระทบ และให้มีการคาดเข็มขัดนิรภัยสำหรับทุกที่นั่งของรถยนต์ด้วย
นายออมสินกล่าวว่า กระทรวงยังได้นำเสนอแนวทางการลดอุบัติเหตุทางถนนด้วยใบอนุญาตขับรถแบบอิเล็กทรอนิกส์ให้ครม.รับทราบด้วย โดย ขบ.ได้จัดทำโครงการ “มั่นใจทั่วไทยรถใช้จีพีเอส” ด้วยการออกประกาศให้รถโดยสารสาธารณะและรถลากจูงที่จดทะเบียนก่อน ม.ค. 59 ต้องติดตั้งจีพีเอสให้แล้วเสร็จในปี 60 ส่วนรถโดยสารสาธารณะ รถลากจูง และรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่จดทะเบียนตั้งแต่ ม.ค. 59 ต้องติดจีพีเอสทันที รวมถึงรถบรรทุกขนาดใหญ่ตั้งแต่สิบล้อขึ้นไปทุกคันให้แล้วเสร็จในปี 62 และในปัจจุบันขบ.อยู่ระหว่างจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการเดินระบบรถจีพีเอสทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค นอกจากนี้ได้ทำโครงการจัดหาระบบและอุปกรณ์ในการออกใบอนุญาตขับรถแบบอิเลคทรอนิกส์ พร้อมระบบการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยทางถนน
“การออกใบอนุญาติขับขี่อิเล็กทรอนิกส์รูปแบบใหม่ให้ป็นแบบพาสติกที่มีแถบแม่เหล็ก โดยสามารถให้นำมาใช้ร่วมกับจีพีเอส เพื่อกำกับดูแลและควบคุมพฤติผู้ขับขี่รถยนต์ให้เกิดความปลอดภัย คาดว่าจะสามารถเริ่มนำมาใช้ได้ ในไตรมาส 2 ของปีงบประมาณ 60 หรือประมาณเดือนม.ค.- มี.ค. 60 โดยในอนาคตจะกำหนดให้ใช้ใบอนุญาตขับรถแบบใหม่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ โดยขณะนี้ ขบ. ได้รับจัดสรรงบงบประมาณ จำนวน 533 ล้าน จากกองทุนเพื่อความปลอดภัยการใช้รถใช้ถนน(กปถ.)มาใช้ในการดำเนินโครงการในระยะเริ่มต้นแล้ว”
