เบทาโกร รุกตลาดอาหารแปรรูป ทุ่ม 750 ล้าน เปิดโรงงานใหม่

เบทาโกร ดัน S-Pure เนื้อหมู-เนื้อไก่-ไข่ไก่ คุณภาพระดับพรีเมี่ยม เลี้ยงผ่านกรรมวิธีตามธรรมชาติ เอาใจตลาดสายสุขภาพ พร้อมรุกตลาดอาหารแปรรูป ลงทุน 750 ล้าน สร้างโรงงานใหม่ Betagro Central Kitchen นวนคร กำลังการผลิต 8,000 ตันต่อปี คาดดันยอดขายอาหารแปรรูปโต 50% สร้างศูนย์นวัตกรรมอาหาร รองรับเทรนด์อาหารในอนาคต พัฒนาสินค้ามากกว่า 1,000 รายการ

นายสมศักดิ์ บุญลาภ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร สายงานปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจอาหาร เครือเบทาโกร เผยถึงทิศทางธุรกิจอาหารปีนี้ว่า เบทาโกรจะเน้นตลาดอาหารสดระดับพรีเมี่ยม โดยปัจจุบัน S-Pure ถือครองส่วนแบ่งตลาดถึง 90% โดยตลาดในประเทศ มุ่งขยายช่องทางจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมพื้นที่มากยิ่งขึ้น ทั้งในเขตเมืองใหญ่ เมืองท่องเที่ยว ผ่านร้านค้าปลีกชั้นนำ  อาทิ Gourmet Market, Home Fresh Mart, Central Food Hall, Tops Market และ Villa Market เป็นต้น สำหรับตลาดส่งออก มีแผนขยายตลาดไปในประเทศ บาห์เรน กาตาร์ สเปน และโรมาเนีย โดยปีนี้ตั้งเป้าส่งออกเนื้อไก่ 78,000 ตัน เนื้อหมู 5,800 ตัน เพิ่มขึ้น 17% จากปีที่ผ่านมา

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อถึง ภาพรวมตลาดอาหารแปรรูปและอาหารพร้อมทานของประเทศไทยในปัจจุบันว่า มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น สำหรับสินค้าอาหารแปรรูปของเครือเบทาโกร ไตรมาสแรกปีนี้ มีอัตราเติบโต 22%  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา บริษัทจึงใช้งบลงทุน 750 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงงานผลิตสินค้าแห่งใหม่ หรือ Betagro Central Kitchen ในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดปทุมธานี พื้นที่ 11,015 ตารางเมตร กำลังการผลิต 8,000 ตันต่อปี เพื่อรองรับตลาดดังกล่าว

ในส่วนของ Betagro Central Kitchen แห่งใหม่ ได้สร้างศูนย์นวัตกรรมอาหาร (FIC) เพื่อรองรับเทรนด์อาหารในอนาคต ทำหน้าที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย ทั้งวัตถุดิบคุณภาพ ด้านโภชนาการ มากกว่า 1,000 รายการ ใน 6 หมวดสินค้า ได้แก่ 1. อาหารทานเล่นและสินค้าทอด (Appetizer) ประเภทหมู ไก่ 2. ผลิตภัณฑ์ไข่ปรุงสุก (Processed Egg) เช่น ไข่ต้มปอกเปลือก ไข่ตุ๋น 3. ข้าวกล่องพร้อมรับประทาน (Ready Meal) 4. กับข้าวสำเร็จรูป (Cuisine) 5. เบเกอรี่ (Bakery) และ 6. ผลิตภัณฑ์ปรุงรส (Seasoning) เช่น น้ำยำ น้ำจิ้ม เป็นต้น

นอกจากนี้ เครือเบทาโกร ยังได้ร่วมกับพันธมิตรคือ ห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ฯลฯ ในการพัฒนาความหลากหลายของอาหารพร้อมทานเพื่อยกระดับมาตรฐานคุณภาพ รสชาติ รวมทั้ง ขนาดน้ำหนัก และ รูปแบบบรรจุภัณฑ์ (Packaging) เพิ่มความสะดวกสบาย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยคาดว่าจะเพิ่มยอดขายให้บริษัทถึง 650 ล้านบาท