ผู้เขียน | เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
บสย.เหลือวงเงินประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน (PGS6) 19,000 ล้านบาท แถมฟรีค่าธรรมเนียม 7 เปอร์เซ็นต์ นาน 4 ปี หวังกระตุ้นเอสเอ็มอีให้ขอค้ำประกันสินเชื่อ ชี้โค้งสุดท้ายก่อนหมดโปรโมชั่น 30 มิย 61 ย้ำชัดหมดแล้วหมดเลยไม่ต่ออายุโครงการแน่นอน เร่งประชาสัมพันธ์ให้รับทราบ หวังให้ลูกค้านำไปต่อยอดประกอบอาชีพ
คุณวิเชษฐ วรกุล รองผู้จัดการทั่วไป สายงานธุรกิจ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวถึงโครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน (PGS6) ว่า โครงการนี้มีวงเงินค้ำประกันมูลค่า 81,000 ล้านบาท เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันทื่ 11 สิงหาคม 2560 เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่มีศักยภาพและต้องการสินเชื่อ แต่ขาดหลักประกันให้มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงินมากขึ้น โดยวงเงินค้ำประกันยังเหลือราว 19,000 ล้านบาท ดังนั้นก่อน 30 มิย 61 ลูกค้าเอสเอ็มอีที่ต้องการใช้บริการค้ำประกันสินเชื่อก็ติดต่อทุกธนาคารให้อนุมัติวงเงินกู้ได้เลย
“สิ่งที่อยากนำเสนอให้ประชาชนรับทราบ คือ โครงการนี้ประชาชนได้ฟรีค่าธรรมเนียม 4 ปี อัตราปีละ 1.75 เปอร์เซ็นต์ รวม 4 ปีเท่ากับ 7 เปอร์เซ็นต์ ยกตัวอย่าง หากลูกค้าไปกู้เงินจากธนาคาร 1,000,000 บาท ค่าธรรมเนียม 17,500 บาทต่อปี รวม 4 ปีเป็นเงิน 70,000 บาท ถ้ากู้กับ บสย. ลูกค้าไม่ต้องจ่ายเลย”
รองผู้จัดการทั่วไปฯ บสย. บอกต่อว่า ลูกค้าเอสเอ็มอี ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่สนใจให้ บสย. ค้ำประกันสามารถติดต่อได้ทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นธนาคารของรัฐหรือเอกชน เพราะทุกธนาคารมีกติกาหรือข้อตกลงกับ บสย. อยู่แล้ว โดย บสย. จะค้ำประกันให้สูงสุด 10 ปี และสามารถค้ำประกันได้ในทุกกลุ่มทุกประเภทอุตสาหกรรม ทั้งผู้ประกอบการภาคบริการ ร้านค้า ร้านอาหาร โรงงาน เกษตรกรรม ไม่มีข้อจำกัด ไม่ติดเรื่องอายุ หรือชนิดของผู้ประกอบการ แต่มีเงื่อนไขอย่างเดียวคือ ผู้ประกอบการต้องมีสินทรัพย์ถาวรไม่เกิน 200 ล้านบาท ไม่รวมที่ดิน ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดความคล่องตัว ให้ลูกค้ามีทางเลือกในการใช้ บสย. ค้ำประกันได้ค่อนข้างสะดวกขึ้น
สำหรับโครงการอื่นของ บสย. นับจากนี้ รองผู้จัดการ เผยว่า บสย. เตรียมสินเชื่อไว้ 1.โครงการไมโคร ระยะที่ 3 มูลค่า 15,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนกระทรวงการคลังนำเสนอคณะรัฐมนตรี โครงการนี้เน้นค้ำประกันผู้ประกอบการรายเล็ก เช่น พ่อค้าแม่ค้าในตลาด ผู้ประกอบการายเล็กที่อยู่ในต่างจังหวัด 2.โครงการ PGS7 (ต่อจากโครงการ PGS6) มูลค่า 150,000 ล้านบาท อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงการคลัง กำหนดกลุ่มลูกค้าหลัก 2 กลุ่มใหญ่ คือ ผู้ประกอบการที่มีบัญชีเล่มเดียว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทจำกัด อีกกลุ่ม คือ ผู้ประกอบการทั่วไป ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล