รถร่วมขสมก. 4 พันคัน ร้องคมนาคม ขอขึ้นค่าโดยสาร 4 บาท อ้างเอ็นจีวีแพง-หนี้บาน 800 ล้าน

นางภัทรวดี กล่อมจรูญ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง (รถร่วมขสมก.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สมาคมฯ ทำหนังสือขอเข้าพบนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เพื่อยื่นข้อเสนอและเรียกร้องขอปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารรถร่วมขสมก. เพิ่มขึ้น อีก 4 บาท ทั้งในส่วนของรถร้อนและรถปรับอากาศ

โดยรถร้อนขอปรับขึ้นค่าโดยสารจาก 9 บาท เป็น 13 บาท ส่วนรถปรับอากาศ ซึ่งจะเก็บค่าโดยสารตามระยะทางนั้น ในส่วนของรถสีน้ำเงินขอปรับขึ้นจากระหว่าง 12-24 บาท เป็น 16-28 บาท ส่วนรถสีเหลืองขอปรับขึ้นจากระหว่าง 13-25 บาท เป็น 17-29 บาท เนื่องจากเมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่ผ่านมา กระทรวงพลังงานได้ประกาศปรับขึ้นราคากาซเอ็นจีวีเพิ่มอีก อีกก.ก.ละ 0.62 สตางค์ ทำให้ต้นทุนราคาก๊าซของรถร่วมปรับเพิ่มขึ้นเป็นก.ก.ละ 10.77 บาท

“ปัจจุบันรถร่วมซึ่งมีรวมประมาณ 4 พันคัน มีภาระหนี้สินจำนวนมาก ส่วนราคาเชื้อเพลิงเอ็นจีวี ก็ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่รถร่วมไม่ได้มีการปรับราคาค่าโดยสารมานานกว่า 4 ปีแล้ว ส่วนที่ขอปรับขึ้นราคา 4 บาทนั้นไม่ถือว่ามาก เพราะที่ผ่านมารัฐบาลไม่เคยให้เราปรับขึ้นค่าโดยสารได้ตามผลกระทบต้นทุนที่แท้จริงเลย ทั้งนี้ อยากเสนอให้กระทรวงคมนาคม จัดทำสูตรการปรับอัตราค่าโดยสารในรูปแบบเดียวกับเรือโดยสาร ที่สามารถปรับขึ้นและลงได้ตามราคาน้ำมันหรือก๊าซที่แท้จริง”

นายภัทราวดี กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ สมาคมฯยัง เสนอขอให้กระทรวงคมนาคมทำการประนอมหนี้ค่าตอบแทนที่ค้างชำระกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) วงเงินราว 800 ล้านบาท และขอยกเว้นดอกเบี้ยจ่ายและค่าปรับย้อนหลัง รวมทั้งขอให้ปรับลดภาระการจ่ายค่าตอบแทนต่อขสมก. โดยขอให้ใช้อัตราที่บังคับใช้ปี 2548 คือ รถเมล์ร้อนอยู่ที่ 15 บาทต่อคันต่อวัน และรถโดยสารปรับอากาศอยู่ที่ 30 บาทต่อคันต่อวัน จากปัจจุบันที่รถร้อนจัดเก็บ 120 บาทต่อคันต่อวัน และรถปรับอากาศ 60-280 บาทต่อคันต่อวัน ซึ่งหากรัฐบาลยอมผ่อนผันตามข้อเสนอรถร่วมฯ ก็ยินดีที่จ่ายชำระหนี้ดังกล่าว